| • (มีคลิป)อุบัติเหตุทางลอดบวกครกศิวิไลช่วงฝนตกค่ำวานนี้ |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 29 พ.ค. 64 เวลา 21:14:36 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
 เป็นคลิปอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณทางลอดบวกครกศิวิไล ในช่วงที่มีฝนตกช่วงค่ำเมื่อวาน(28 พ.ค. 64) ที่ผ่านมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ในการขับขี่เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
“ช่วงฝนตกถนนลื่น ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ” ข้อควรปฏิบัติในการขับรถผ่านอุโมงค์ทางลอดมีดังนี้
1.ขณะวิ่งเข้าอุโมงค์ทางลอด ทัศนวิสัยการมองเห็นอาจเปลี่ยนไปจากการวิ่งด้านนอก ควรลดความเร็ว จนกว่าทัศนวิสัยในการมองจะมองได้ไกลขึ้น ซึ่งใช้ได้ไม่เฉพาะการขับรถลอดอุโมงค์เท่านั้น แต่นำไปใช้ได้กับการขับรถขึ้นลงเนินหรือสะพานด้วย
2.ควรลดความเร็วควรอยู่ในระดับ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งการขับรถโดยไม่ลดความเร็วขณะลอดอุโมงค์ ขึ้นลงเนินหรือสะพาน อาจทำให้พุ่งชนท้ายรถคันหน้าได้ ในกรณีที่รถคันหน้าจอด เบรค หรือ รถติด
3.มีสมาธิในการขับขี่ ไม่ปฏิบัติภารกิจอื่น ขณะขับรถลอดอุโมงค์ หรือขับรถลงเนินหรือสะพาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
4.การขับรถเข้าและออกจากอุโมงค์ทางลอด เป็นการขับรถจากที่มืดออกสู่ที่สว่าง สายตาต้องใช้ระยะเวลาในการปรับแสงประมาณ 3 วินาที จึงสามารถเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน ขณะที่การขับรถจากที่สว่างเข้าสู่ที่มืด ใช้เวลาประมาณ 6 วินาที แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเราไม่ควรใช้ความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง
5.เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ โดยเฉพาะในช่วงฝนตก สภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขังเส้นทาง และสภาพการจราจรติดขัด ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
6.ไม่ขับรถย้อนศร ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร หากรถคันหน้าหยุดรถกะทันหัน จะช่วยให้มีระยะในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย
7.ขับรถให้อยู่กึ่งกลางช่องทางจราจร ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน เพราะรถที่ขับตามหลังมาอาจหยุดไม่ทัน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
8.ไม่หยุดหรือจอดรถในอุโมงค์ หากจำเป็นต้องจอดรถ ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นเพิ่มความระมัดระวัง
9.ไม่ใช้อุโมงค์ทางลอดเป็นที่หลบฝน เพราะผู้ขับรถคันอื่นอาจมองไม่เห็นรถที่จอด ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ดูคลิปได้ที่ >> https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2937978086413829&id=1594436237434694
ที่มา : กรมการขนส่งทางบก/ตำรวจจราจรเชียงใหม่
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 873 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 29 พ.ค. 64
เวลา 21:14:36
|
