กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สปสช.หนุน "Home isolation" รักษาผู้ป่วยโควิดที่บ้าน จ่ายค่าอุปกรณ์-ค่าอาหาร 3 มื้อ/วัน
สปสช.สนับสนุนแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดที่บ้าน (Home isolation) เตรียมอุปกรณ์/จ่ายค่าอุปกรณ์วัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนสำหรับให้คนไข้ไปใช้ที่บ้าน
"สปสช.จะสนับสนุนค่าบริการให้แก่โรงพยาบาลตั้งแต่ค่าตรวจหาเชื้อ ค่ารักษา ค่ายา และยังจะสนับสนุนค่าอุปกรณ์ไม่เกิน 1,100 บาท และค่าดูแลผู้ป่วยร่วมอาหาร 3 มื้อ ไม่เกิน 1,000 บาท/วัน เป็นเวลา 14 วันให้
ย้ำ!! ระบบนี้ไม่ใช่การผลักให้ผู้ป่วยไปเผชิญชะตากรรมที่บ้าน แต่ยังดูแลเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลเพียงแต่ย้ายไปดูแลที่บ้าน แนวทางนี้เอามาใช้ในสถานการณ์ที่เตียงเริ่มมีความตึงตัวเท่านั้น และไม่ใช่ผู้ป่วยสีเขียวทุกคนจะต้องใช้ระบบนี้
เบื้องต้น
- อาจรักษาในโรงพยาบาลก่อน 7 วัน
- พอเชื้อในตัวหมดลง อาการดีขึ้นก็กลับไปดูแลตัวเองที่บ้านครบ 14 วัน
- มีแพทย์โทรศัพท์หรือวิดีโอคอลตรวจสอบอาการทุกวัน
- มีบริการอาหาร 3 มื้อ
- หากอาการทรุดลงก็จะส่งยาฟ้าทะลายโจรและยาฟาวิพิราเวียร์ไปให้ที่บ้าน
- ส่งรถไปรับมานอนที่โรงพยาบาล
** ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และลักษณะบ้านว่ามีความเหมาะสมที่จะกักตัวได้หรือไม่
นำร่องที่โรงพยาบาลราชวิถีและจะมีการเตรียมพร้อมขยายระบบดังกล่าวไปทั่วประเทศ และบางสถานที่ที่มีผู้ติดเชื้อหลายคนก็อาจทำเป็นลักษณะ Community isolation คือนำผู้ป่วยหลายๆคนไปดูแลในสถานที่ที่จัดไว้เป็นการเฉพาะในชุมชน เช่น ในโรงงาน ในวัด เป็นต้น มีรถเอกซเรย์ รถแล็บไปตรวจ มีแพทย์ใช้ระบบ teleconference ดูแลสอบถามอาการทุกวัน ทาง สปสช.ก็จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เช่นเดียวกัน
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ระบบ Home isolation ของไทยนี้จะต่างจากของต่างประเทศ ซึ่งต่างประเทศจะให้คนไข้ดูแลตัวเองทุกอย่าง แต่ระบบของไทยจะยังอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาล มีการให้อุปกรณ์วัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนไปที่บ้านเพื่อวัดค่าต่างๆ มีแพทย์โทรศัพท์หรือวิดีโอคอลตรวจสอบอาการทุกวัน มีการส่งอาหารและน้ำให้วันละ 3 มื้อ หากอาการทรุดลงก็จะส่งยาฟ้าทะลายโจรและยาฟาวิพิราเวียร์ไปให้ที่บ้านหรือส่งรถไปรับมานอนที่โรงพยาบาลสิ่งที่เรากลัวคือท่านไม่อยู่บ้านแต่ออกมาข้างนอก แต่คนไข้ที่จะทำแบบนี้ก็ต้องมีการแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวกันระดับหนึ่งเพื่อให้ปฏิบัติตามกฎและอยู่บ้านจริงๆ เราคิดว่าถ้ามีการส่งอาหารส่งน้ำให้ทุกวันก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้ออกจากบ้าน
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|