• หมอบุญเผย เตรียมนำเข้าไฟเซอร20ล้านโดส จากเยอรมนี |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 15 ก.ค. 64 เวลา 10:43:15 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หมอบุญเผย เตรียมนำเข้าไฟเซอร20ล้านโดสร์จากเยอรมนี
นพ.บุญ วนาสิน เผย เตรียมลงนามสัญญานำเข้าวัคซีนไฟเซอร์จากเยอรมนี 20 ล้านโดส โดยจะทยอยส่งมอบล็อตแรกภายในเดือน ก.ค. นี้ ย้ำหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้นำเข้าวัคซีนไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เปิดเผยกับ บีบีซีไทย ว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) บริษัทจะลงนามสัญญาเพื่อนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 กับ บริษัท ไบโอเอนเทค ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในเยอรมนีโดยจะมีหน่วยงานรัฐที่มีสิทธินำเข้าวัคซีนร่วมลงนามด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยชื่อหลังจากการลงนามแล้วเสร็จ
การลงนามสัญญาที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการยืนยันจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อและนำเข้า หลังจากกระบวนการต่างๆ ดำเนินการมาเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว ส่วนงานด้านเอกสารสำคัญ คำสั่งซื้อ ร่างสัญญาต่างๆ เตรียมไว้พร้อมแล้ว เหลือเพียงแค่ทางด้านสหรัฐฯ เท่านั้นว่า จะอนุมัติตามที่ขอไป 20 ล้านโดส ในระยะแรกหรือไม่
ส่วนการขึ้นทะเบียนวัคซีนนั้น นพ.บุญ อธิบายว่า เนื่องจากเป็นวัคซีนไฟเซอร์ชนิดเดียวกันกับที่บริษัทไฟเซอร์(ประเทศไทย) จำกัด ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับใช้ในไทยได้ในภาวะฉุกเฉินแล้ว คาดว่า ใช้ระยะในการพิจารณาเพียงหนึ่งวัน หลังจากนั้นก็นำเข้าได้เลยภายใน 1 สัปดาห์ โดยเครือรพ.ธนบุรี จะเป็นผู้กระจายวัคซีน
ส่วนหน่วยงานรัฐที่จะเป็นผู้นำเข้าตามข้อกำหนดของไฟเซอร์ที่จะขายวัคซีนให้หน่วยงานของรัฐเท่านั้น นพ.บุญ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อหน่วยงานในขณะนี้ โดยยืนยันว่าหน่วยงานดังกล่าวไม่มีส่วนได้ส่วนเสียจากการเป็นผู้นำเข้าวัคซีน แต่ช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตอนนี้ต้องร่วมกันช่วยประเทศเป็นหลัก ซึ่งได้รับการขอร้องไม่ให้เอ่ยถึงชื่อหน่วยงานผู้นำเข้าจนกว่าจะมีการยืนยันทุกอย่างในวันที่พฤหัสบดีที่ 15 ก.ค. 2564 เท่านั้น และยังระบุถึงบุคคลสำคัญที่เข้ามามีส่วนช่วยในการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ดังกล่าวอีกคนคือ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยช่วยประสานงานหลายจุดจนสำเร็จ
จากข้อมูลของเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเผยแพร่ประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เรื่องแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2564 ได้ระบุถึงการอนุญาตให้ 5 หน่วยงานหลักมีสิทธิในการนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย 1) กรมควบคุมโรค 2) องค์การเภสัชกรรม 3) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ 4) สภากาชาดไทย และ 5) ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ทั้งนี้ นพ.บุญ ได้สะท้อนให้เห็นปัญหาการนำเข้าวัคซีนโดยภาคเอกชนที่ผ่านมาว่า ที่โรงพยาบาลของเขาไม่สามารถนำเข้าได้ เพราะติดเงื่อนไขในภาวะฉุกเฉินที่ผู้ผลิตจะต้องทำสัญญากับหน่วยงานรัฐเท่านั้น จนกระทั้งถึงเดือน เม.ย. ที่โควิด-19 เกิดระบาดหนักเป็นระลอกที่ 3 รัฐบาลจึงมีนโยบายเรื่องวัคซีนทางเลือก เพื่อให้เอกชนมีส่วนร่วมในการนำเข้าวัคซีนได้ หลังจากนั้นไม่นาน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก็สามารถนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มได้ภายใน 2 สัปดาห์
“เราจึงเห็นว่าจะต้องใช้ช่องทางในลักษณะเดียวกัน โดยไม่ต้องผ่านองค์การเภสัชกรรมเพราะกระบวนการล่าช้ามาก”
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้กำหนดให้วัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์เป็นหนึ่งในวัคซีนหลักที่รัฐจัดหาให้ประชาชน จึงทำให้บริษัทเอกชนรายอื่นๆ ไม่สามารถทำสัญญากับบริษัทไฟเซอร์ในไทยได้ และเป็นที่มาของการหาทางออกร่วมกันระหว่างผู้ผลิตวัคซีนจากสหรัฐอเมริกาว่า ให้ทำสัญญาผ่านบริษัทผู้ผลิตยา ไบโอเอนเทคของเยอรมนีแทน ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์เช่นกัน
สำหรับ แผนการส่งมอบวัคซีนล็อตแรก คาดว่า จะขนส่งจากโรงงานในเยอรมนีมาถึงไทยภายในเดือน ก.ค. นี้ จำนวน5 ล้านโดส จากทั้งหมด 20 ล้านโดส ส่วนที่เหลือจะทยอยจัดส่งมา โดยจะเข้ามาสมทบช่วยแผนการกระจายของรัฐบาล แบบคู่ขนาดผ่านภาคเอกชน ตั้งเป้าว่าจะกระจายวัคซีนให้ได้ในอัตรา 500,000 โดสต่อวัน และจะทำให้อัตราการฉีดต่อวันของทั้งประเทศเพิ่มเป็นวันละ 1 ล้านโดส เพื่อให้ทันกับสถานการณ์วิกฤตนี้
นพ.บุญ ระบุว่า บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ยินดีขายให้ภาคเอกชนที่ต้องการฉีด เบื้องต้นราคาต้นทุนอยู่ที่ 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส หรือราว 555 บาทต่อโดส ยังไม่รวมค่าขนส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคิดราคารวมโดยประมาณ 900 บาทต่อโดส
สำหรับ การนำเข้าล็อตนี้ เพื่อช่วยการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในจังหวัดและเมืองหลักๆ ด้านเศรษฐกิจ เช่นกรุงเทพฯ ภูเก็ต เกาะสมุย เชียงใหม่ และพัทยาให้ครอบคลุมร้อยละ 80 ของประชากรโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ กรณีการนำเข้าวัคซีนโนวาแวกซ์ ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นวัคซีนใหม่ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง นพ.บุญกล่าวว่า การเจรจาซื้อดังกล่าวตั้งเป้าไว้ว่าให้เป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (booster dose) ที่จะเป็นเข็มที่ 3 และ 4 ในอนาคต คาดว่า จองไว้ราว 10 ล้านโดส ซึ่ง รพ.ธนบุรี จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อและนำเข้าวัคซีนทั้งหมดเอง
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอความชัดเจนเพิ่มเติม เพราะวัคซีนดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา
ที่มา : https://www.bbc.com/thai/thailand-57836972/workpointtoday
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 807 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 15 ก.ค. 64
เวลา 10:43:15
|