• ผอ.รพ.ลำพูน เตือน!! อย่านำยาฟ้าทลายโจsมาทานด้วยตนเอง เพราะไม่ได้ช่วยในการป้องกันเชื้อโควิด-19 |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 06 ส.ค. 64 เวลา 15:41:04 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้

ผู้อำนวยการ รพ.ลำพูน เตือน!! อย่านำยาฟ้าทลายโจsมาทานด้วยตนเอง เพราะไม่ได้ช่วยในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ผู้ที่สามารถทานได้คือผู้ที่ป่วยติดเชื้อแล้วเท่านั้น หากมีอาการหวัดสามารถทานได้อย่างน้อย 5 วัน
วันนี้ (6 สิงหาคม 2564) ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายสุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ แพทย์หญิงภาวิณี เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน ร่วมแถลงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน ประจำวัน ศุกร์ ที่ 6 สิงหาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน ซึ่งพบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ภายในพื้นที่จังหวัดลำพูน จำนวน 13 ราย และรับผู้ป่วยมารักษาจากจังหวัดอื่น จำนวน 8 ราย ทำให้จังหวัดลำพูนมียอดสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 6 สิงหาคม 2564 สะสม 716 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดสะสมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 7 ราย รักษาหายแล้ว 458 ราย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า สำหรับจังหวัดลำพูนวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งหมด 254 ราย มีเตียงว่างอยู่ทั้งหมด 182 เตียง แบ่งเป็น ใน รพ.ลำพูน 65 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจอัดอากาศแรงดันสูง 6 ราย มีผู้ป่วยปอดบวมทั้งหมด มี 56 ราย มีเสียชีวิตเพิ่มวันนี้ 1 ราย รพ.สนามเวียงยอง 104 ราย รพ.สนามป่าซาง 25 ราย รพ.ลี้ 25 ราย รพ.บ้านโฮ่ง 10 ราย รพ.เอกชน 26 ราย
ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนในส่วนของผู้ที่ยังอาศัยอยู่ภายในบ้านพักหรือกำลังเฝ้าดูและสังเกตอาการ เนื่องจากที่ท่านเป็นผู้ที่อยู่ในวงเสี่ยง 1-2 ขออย่าให้ท่านนำยาฟ้าทลายโจรมาทาน เพราะตอนนี้มีการศึกษาพบว่า ตัวยาฟ้าทลายโจรไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ผู้ที่สามารถทานได้คือผู้ที่ป่วยติดเชื้อแล้วเท่านั้น หากท่านมีอาการหวัดท่านสามารถทานยาฟ้าทลายโจsได้อย่างน้อย 5 วัน อย่ารับประทานมากว่า 5 วันโดยเด็ดขาด เนื่องจากตอนนี้มีการศึกษาพบว่าตัวของยาฟ้าทลายโจsจะออกฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ตัวหนึ่งของร่างกาย ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้มีหน้าที่ในการกำจัดยาบางตัวที่เราทานอยู่ เมื่อยาฟ้าทลายโจรไปออกฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ตัวนี้ ก็ทำให้เอนไซม์ตัวไปยับยั้งและกำจัดยาตัวที่เรากินไม่ได้ สำหรับตัวยาที่ยาฟ้าทลายโจsไปออกฤทธิ์ในการยับยั้ง เช่น ยาวาร์ฟาริน (warfarin) เป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ เพราะฉะนั้นพอเอนไซม์ตัวนี้ไปกำจัดยาวาร์ฟาริน (warfarin) ไม่ได้ ก็จะทำให้ตัวของยาวาร์ฟาริน (warfarin) ที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือดมันสูงขึ้นในกระแสเลือด ก็จะทำให้มีเลือดออกได้ง่ายขึ้น หรือยาฟ้าทลายโจsจะไปป้องกันเอนไซม์ที่จะไปทำลายยาลดไขมัน พอเอนไซม์ตัวนี้ถูกระงับไปมันก็จะไปกำจัดตัวยาลดไขมันที่ออกฤทธิ์แล้วต้องขับออกจากร่างกายมันกำจัดไม่ได้ และพอกำจัดไม่ได้ตัวยาก็จะออกฤทธิ์สูงขึ้นทำให้ร่างกายเกิดกล้ามเนื้ออักเสบได้
สำหรับเรื่องของโรงพยาบาลในตอนนี้ ได้มีการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้ป่วยที่นอกพักรักษาตัวเองที่อยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งผู้ป่วยทุกรายที่จะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจะทำการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ทุกราย ตอนช่วงแรกจะทำการตรวจโดยการใช้ RT-PCR แต่ในช่วงนี้ทางโรงพยาบาลได้เปลี่ยนเป็นการตรวจแบบ Antigen Test Kit แต่เมื่อผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วตอนแรกผลออกมาเป็นลบ ซึ่งผู้ป่วยอาจจะสำผัสและรับเชื้อมาก่อนและวันที่เข้ามาตรวจและนอนโรงพยาบาลก็อาจจะมีน้อยมากจึงไม่สามารถตรวจพบเชื้อ แต่พอนอนโรงพยาบาลมาหลายวันเชื้อเพิ่มขึ้นก็ทำให้ตอนนี้เจอผู้ป่วยที่มีเชื้อในโรงพยาบาล จำนวน 1 ราย และผู้ป่วยรายนั้นนอกรักษาอยู่ที่หอผู้ป่วยตึกสงฆ์ ชั้นที่ 4 ในช่วงวันที่ 20-26 กรกฎาคม 2564 ขณะนี้ทางโรงพยาบาลกำลังตามผู้ป่วยทุกรายที่นอกพักรักษาตัวที่ตึกสงฆ์ชั้นที่ 4 วันที่ 20-26 กรกฎาคม 2564 เพื่อมาตรวจป้ายเชื้อและสังเกตอาการ หลังจากวันที่ 26 กรกฎาคม ได้ย้ายไปพักที่ห้องพิเศษ จากนั้นได้ย้ายไปพักรักษาตัวที่ ICU ศัลยกรรม แพทย์ พยาบาล ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยก็จะทำการกักตัว และตรวจคัดกรองเชื้อทุกคนดังนั้นทางโรงพยาบาลลำพูนจึงประกาศ งดเยี่ยมทุกกรณี จนกว่าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะคลี่คลาย
ข่าวโดย นายอานนท์ บุญมาตุ้ย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 804 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 06 ส.ค. 64
เวลา 15:41:04
|