กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แห่ถวายความอาลัยสิ้น พระพี่นาง
.....................ถวายความอาลัย.................
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการพลเรือนในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีประชาชนเข้าร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระศพอย่างล้นหลามท่ามกลางความโศกเศร้า ด้านจังหวัดต่างๆ แห่ถวายความอาลัย ส่วนทางกระทรวงสาธารณธสุขสั่งให้รพ.ตั้งโต๊ะหมู่บูชาจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจ ถวายความรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงมีต่อวงการแพทย์และสาธารณสุข และประชาชนชาวไทย เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมจัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 มกราคม 2550 นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี ถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ ห้องโถงอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประชาชนข้าราชการพลเรือนมีความเสียใจอย่างสุดซึ้งและ ได้เข้าร่วมในพิธีกันถวายน้ำสรงพระศพอย่างพร้อมเพรียง ซึ่ง หลังจากที่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เสด็จประทับรักษาพระอาการประชวร ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่15 มิถุนายน 2550 ซึ่ง คณะแพทย์ ได้ พยายามร่วมกันถวายการรักษาพระอาการประชวรของพระองค์
ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ได้มีแถลงการณ์ถึงความคืบหน้าของพระอาการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2551 สำนักพระราชวัง ได้มีแถลงการณ์ ว่าพระอาการของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงมีพระอาการโดยรวมทรุดโทรมลง , ไม่รู้สึกพระองค์ , หายพระทัยอ่อนลง พระวักกะ ( ไต ) ไม่ทำงาน คณะแพทย์ได้ทำการถวายการรักษาพระอาการอย่างใกล้ชิด ในที่สุด วันที่ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศต้องหลั่งน้ำตาก็มาถึง เมื่อเวลา2 นาฬิกา 54 นาที ของวันที่ 2 มกราคม 2551สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ฯ ได้สิ้นพระชนม์ รวมพระชันษา ทั้งหมด 84 พรรษา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พระองค์ ทรงได้อุทิศพระวรกายของพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพสกนิกรไม่ว่าพื้นที่เดือดร้อนเหล่านั้นจะอยู่ในเขตทุรกันดารห่างไกลสักเพียงใดพระองค์ก็จะเสด็จไปเยี่ยมเยียนพสกนิกรเหล่านั้นจนถึงที่ ซึ่งพระองค์ทรงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพของคนในชนบทที่อยู่ห่างไกล จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระพระราชชนนี (พอ .สว. ) และโครงการมูลนิธิ หน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ ทำหน้าที่ดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยของประชาชน นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นองค์ประธานของมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และ พระราชกรณียกิจอย่างอื่นอีกนานัปการ ส่งผลทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงพสกนิกรชาวไทย ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ได้ประกาศให้หน่วยงานทุกภาคส่วนมีการไว้ทุกข์ร่วมกันทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดลำพูนว่า นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่าในจังหวัดลำพูน ร่วมกันลงนามถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยจังหวัดลำพูน ได้อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ไปประดิษฐานอย่างสมเกียรติ เพื่อให้ประชาชนได้ถวายความอาลัย
ผู้ว่าฯ นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ กล่าวว่า "ในนามของพสกนิกรชาวลำพูน ได้รับทราบข่าวสารการสิ้นพระชนม์ด้วยความเศร้าสลดและเสียใจอย่างมาก พร้อมทั้งเชิญชวนพสกนิกรได้ถวายความจงรักภักดีและถวายความอาลัย ด้วยการไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน และเชิญชวนลงนามถวายความอาลัย โดยจังหวัดลำพูนเปิดให้ประชาชนลงนามถวายความอาลัย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ได้ทุกวัน ณ ศาลากลางจังหวัดลำพูน"
ในขณะเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชน ชาวเชียงรายทุกหมู่เหล่า แต่งกายด้วยเครื่องแบบปกติขาว ไว้ทุกข์ และชุดสีดำไว้ทุกข์ ร่วมลงนามถวายอาลัย หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตามที่ สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เสด็จประทับรักษาพระอาการพระประชวร ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2550 เป็นต้นมา พระอาการประชวนได้ทรุดลงตามลำดับ แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ จนกระทั่ง เวลา 2 นาฬิกา 54 นาที วันพุธที่ 2 มกราคม 2551 และสำนักพระราชวัง แถลงการณ์ฉบับที่ 39 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์เมื่อ
นำความเศร้าโศกเสียใจแก่ประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศ ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธง ครึ่งเสา มีกำหนด 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2551 เป็นต้นไป และให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจไว้ทุกข์ มีกำหนด 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2551 เป็นต้นไป
นางงามนิตย์ ราชกิจ นักวิชาการ 9 ด้านส่งเสริมพัฒนา สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า "ในฐานะที่เป็นสมาชิก พอ.สว. รวมทั้งสมาชิก พอ.สว.และประชาชนชาวเชียงราย ทุกคนต่างรู้สึกเสียใจต่อการ สิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งพระองค์เคยเสด็จทรงงานกับ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่าฯ ที่ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นและพวกเราชาว พอ.สว.พร้อมสานปณิธานของพระองค์ในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวไทยภูเขาเผ่าอิ้วเมี่ยนหรือเผ้าเย้าบ้านห้วยแม่ซ้าย ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย นำโดยนายบุญศรี อภืญญาวิศาล อดีต.ผู้ใหย่บ้านหมู่ 11 บ้านห้วยแม่ซ้าย ต.แม่ยาว ได้นำชาวบ้านแต่งกายด้วยชุดชาวเขาประจำเผ่าไปทำพิธีไว้อาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ฉายภาพคู่กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมชมเผ่าอิ้วเมี่ยน(เย้า)พร้อมได้ทำการอ่านหนัอสือชีวประวัติของทั้ง 2 พระองค์ท่านที่ได้ทรงงานในพื้นที่ จ.เชียงราย
โดยนายบุญศรี กล่าวว่า "ชาวเขาทุกเผ่ามีความรู้สึกเศร้าเสียใจต่อการจากไปของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นทางชนเผ่าต่างๆได้ร่วมกันทำพิธีสู่ขวัญเพื่อขอให้พระองค์หายจากอาการป่วย แต่ก็มาสิ้นพระชนม์เมื่อคืน พอทราบข่าวก็ตกใจกันมากเพราะพระองค์เป็นที่รักเคารพสักการะชาวเขาทุกเผ่า เป็นร่มโพธ์ร่มไทรให้กับชนเผ่าต่างๆซึ่งพระองค์ได้ช่วยเหลือประชาชนในทุกๆด้านมาตลอด จึงขอให้พระองค์ไปสู่สรวงสวรรค์ชึ้นดาวดึงส์"
ส่วนที่ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยได้นำเอาผลงานและชีวประวัติต่างๆ รวมทั้งจัดฉายวีดีทัศน์ภาระกิจของพระองค์ท่านให้กับประชาชนและนักศึกษาได้ชมพร้อมร่วมลงนามถวายอาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ที่ได้จัดตั้งไว้ภายในศูนย์ฯ น.ส.แวนุรตัสนีม ปารามัล ชาว จ.นราธิวาส นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สำนักพยาบาลศาสตร์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจเมื่อทราบว่าพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์
หลังจากได้ติดตามอาการทางสื่อมวลชนมาทุกระยะและท่านเป้นผู้ที่มีบทบาทต่อการพยาบาลเป็นอย่างมาก ส่วน น.ส.อมรรัตน์ ดีบุญโญ ชาว จ.สุโขทัย นักศึกษาชั้นปี 1 สำนักพยาบาลศาสตร์ กล่าวด้วยว่า รู้สึกใจหายเมื่อได้ทราบข่าวการจากไปของพระองค์รู้สึกเสียใจและเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งและขอให้พระองค์ไปสู่สรวงสวรรค์
ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายแพทย์สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวด้วยความเศร้าเสียใจ ต่อการสิ้นพระชนม์ ของ สมเด็จพระพี่นาง เมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะร่วมกันสานงาน ของ มูลนิธิ พอ.สว.ต่อไปให้ดีที่สุด ตามประชารปณิธาน ของสมเด็จพระพี่นาง ซึ่งมูลนิธิ พอ.สว.จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นมูลนิธิอีกแห่งหนึ่ง ที่สมเด็จพระพี่นาง ฯ ได้เสด็จทรงเยี่ยมมาถึง 3 ครั้ง เนื่องจากความเป็นห่วง ต่อพสกนิกรที่ยากจนและอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร และห่างไกล รวมทั้งสมเด็จพระพี่นาง ฯ ยังทรงโปรดฟังเพลง ที่ พอ.สว.ร้องถวายให้ฟังเมื่อคราวเสด็จเยี่ยม พอ.สว.และถือเป็นครั้งแรก ของ พอ.สว.ทั่วประเทศ
สำหรับ พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นจังหวัดแพทยท์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ( พอ.สว. ) เมื่อปี 2512 และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เคยเสด็จเยี่ยม จังหวัดแม่ฮ่องสอนถึง 3 ครั้ง ซึ่งในปีงบประมาณ 2550 ทาง พอ.สว.แม่ฮ่องสอน ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 19 หมู่บ้าน 25 ครั้ง มีผู้มารับบริการ รวม 2,218 ราย นอกจากนั้น ยังมีโครงการนำร่อง โทรศัพท์เพื่อการรักษาพยาบาลและช่วยเหลือผู้ป่วย ในสถานีอนามัย 21 แห่ง
และเมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ ( 2 ) หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ พอ.สว.และพ่อค้าประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนประมาณ 150 คน นำโดย นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมพิธีลงนามไว้อาลัยให้กับ สมเด็จพระพี่นาง ณ บริเวณศาลาประชาคม จังหวัดแม๋ฮ่องสอน หลังจากร่วมลงนามเสร็จ ก็ได้มีการร่วม ร้องเพลงประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน คือเพลงแม่ฮ่องสอนแดนไพร ซึ่งเพลงดังกล่าวเป็นเพลงที่ สมเด็จพระพี่นางทรงโปรดมาที่สุดด้วย สำหรับในช่วงเย็น ของวันเดียวกัน เวลา 19.00 น. ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ เจ้าหน้าที่ พอ.สว.โจะได้จัดให้มีการสวดพระอภิธรรม ณ โรงพยาบาลศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน
นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า พสกนิกรชาวจังหวัดตากส่วนราชการ ตำรวจทหาร พ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า รู้สึกอาลัยต่อการ สิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ในส่วนของจังหวัดตาก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า โดยพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินยังจังหวัดตาก ตรวจเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดาน ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวไทยภูเขาจำนวนมาก
ทางด้าน นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวังเรื่องสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์เมื่อเวลา 02.54 น. วันที่ 2 มกราคม 2551 ภายหลังเสด็จประทับรักษาพระอาการประชวร ที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2550 นั้น ในวันนี้ (2 มกราคม 2551) กระทรวงสาธารณสุขได้จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสั่งการให้หน่วยงานและโรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ แต่งกายไว้ทุกข์ และลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 15 วัน พร้อมตั้งโต๊ะหมู่บูชา ดอกไม้ธูปเทียน เครื่องทองน้อย หน้าพระฉายาลักษณ์ และจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมไว้อาลัย ถวายความรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง ที่ทรงมีต่อวงการแพทย์และสาธารณสุข และพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดพระชนม์ชีพ
ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงสานต่อพระปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนี ที่ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ซึ่งขณะนี้มีจังหวัด พอ.สว.รวม 51 จังหวัด มีสมาชิก พอ.สว. 48,402 คน โดยเสด็จ ฯ เยี่ยมประชาชนในทุกพื้นที่ และได้รับสั่งว่าขอให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง เข้มแข็ง เพื่อนำความเข้มแข็งไปบริการให้ครอบคลุมประชาชนในทุกพื้นที่ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงเมตตาดูแลประชาชนทั้งที่เจ็บป่วย ผู้พิการ และผู้มีพัฒนาการช้า อาทิ มูลนิธิขาเทียม มูลนิธิโรคไต และอื่น ๆ ที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์อีกมากมาย
นอกจากนี้ ได้ทรงพระราชทานนาม “ราชนครินทร์” แก่โรงพยาบาลในสังกัดกรมสุขภาพจิต 10 แห่ง และโรงพยาบาลประจำจังหวัดนราธิวาส 1 แห่ง พระราชทานรางวัลเจ้าฟ้าสุขภาพจิตนานาชาติ (Mental Health Princess Award) สำหรับผู้ที่มีผลงานด้านสุขภาพจิตดีเด่นในระดับนานาชาติ ทำให้งานด้านสาธารณสุขก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินงานสืบสานแนวปณิธานของพระองค์ท่าน และโครงการเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ เช่น โครงการผ่าตัดหัวใจ 8,000 ดวงเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ84 พรรษาสมเด็จพระพี่นางฯ ต่อไป
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
