• มารู้จัก "โอไมครอน" โควิด19 สายพันธุ์ใหม่ ติดง่าย ลดประสิทธิภาพวัคซีนเหลือ40% |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 27 พ.ย. 64 เวลา 11:39:37 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เครดิต ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha
สรุปข่าวช่วงเช้า (26/11/2021) กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้ส่งสัญญาณเตือนถึงสุดยอดไวรัสโคโรน่ากลายพันธุ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่จะทำให้วัคซีนทั้งหลายนั้นมีประสิทธิภาพน้อยลง 40 %
พวกเขาได้ส่งสัญญาณความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นกำเนิดในแอฟริกาใต้ซึ่งงานนี้ทำให้อังกฤษและอิสราเอลได้สั่งการให้หยุดการเดินทางที่มาจากภูมิภาคแอฟริกาใต้แต่บรรดาผู้โดยสารนั้นยังคงเดินทางไปยังอเมริกาอยู่
สายพันธุ์ดังกล่าวถูกเชื่อว่ามีต้นกำเนิดใน Botswana ซึ่งเป็นสถานที่ๆไม่มีเที่ยวบินไปยังอเมริกาโดยตรง
จีนเองก็ได้รายงานว่าได้พบเคสติดเชื้อสายพันธุ์ดักล่าวจากผู้โดยสารที่เดินทางไปฮ่องกงซึ่งได้เดินทางมาจากแอฟริกาใต้และงานนี้ได้ทำให้ผู้ที่อยู่ในโรงแรมเดียวกันได้ติดเชื้อไปด้วย
Dr Eric Feigl-Ding นักระบาดวิทยาและคนของสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกันได้กล่าวว่า
- ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้มาจากสายพันธุ์ดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่น่ากังวลและควรจะมีคำสั่งให้ปิดชายแดน
- ดูเหมือนว่า ความสามารถในการหลบหลีกวัคซีนของสายพันธุ์นี้จะเป็นของจริงโดยคนไข้ 2 รายที่ติดไวรัสตัวนี้ในฮ่องกงนั้นทั้งคุ่ได้ฉีดวัคซีน 2 เข็มของ Pfizer ไปแล้ว
- มันเป็นไวรัสที่แพร่ทางอากาศ แขกในโรงแรมนั้นอาศัยอยู่คนละห้องและจากการเก็บตัวอย่างด้านสภาพแวดล้อมได้ตรวจพบไวรัส 25 ครั้งจากการซุ่มตัวอย่างทั้งหมด 87 ครั้งในห้องพักของลูกค้าทั้ง 2 ราย
สายพันธุ์ดังกล่าวนั้นจะถูกตั้งชื่อว่า NU โดย WHO ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าโดยมันมีคุณสมบัติดังนี้
- ทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพน้อยลง 40 %
- มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากกว่า 30 ครั้งในสายพันธุ์ NU ซึ่งมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆที่เคยมีมาและมากกว่า Delta ถึง 2 เท่า ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า มันมีความสามารถในการต่อต้านวัคซีนและแพร่ระบาดได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆที่เคยมีมาก่อน
ล่าสุดในคืนที่ผ่านมา WHO ตั้งชื่อโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ว่า ‘โอไมครอน’ (Omicron) และจัดเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล
ขณะที่สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ประกาศควบคุมการเดินทางใน 7 ชาติแอฟริกาแล้ว และเบลเยี่ยมเป็นประเทศแรกในยุโรปที่พบผู้ติดเชื้อโควิด ‘โอไมครอน’
คณะกรรมการด้านโรคโควิด-19 ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า ได้จัดให้เชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ B.1.1.529 อยู่ในรายชื่อ ‘เชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวล’ (Variant of Concern) และตั้งชื่อเรียกตามลำดับอักษรกรีกว่า โอไมครอน (Omicron)
‘โอไมครอน’ เป็นเชื้อตัวแรกในรอบ 6 เดือนที่ถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ต่อจากสายพันธ์ ‘เดลตา’เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และนับเป็นเชื้อกลายพันธุ์ตัวที่ 5 ที่ WHO จัดให้เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวล ต่อจาก อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา
ส่วนสายพันธุ์ แลมบ์ดา และ มิว ปัจจุบันยังถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในความสนใจ (Virant of Interest) ซึ่งมีความร้ายแรงต่ำกว่า
สายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในพื้นที่มีจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในภายระยะเวลาเดียวกันกับที่ตรวจพบสายพันธุ์โอไมครอน
ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า สายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ มีการกลายพันธุ์จำนวนมาก และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะกลับมาติดเชื้อซ้ำได้ เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลสายพันธุ์อื่น
มีการรายงานการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ ‘โอไมครอน’ เพิ่มขึ้นในแทบทุกจังหวัดของแอฟริกาใต้ โดยที่ชุดตรวจแบบ PCR ยังสามารถใช้ตรวจจับสายพันธุ์ใหม่นี้ได้ แต่การที่จำนวนการตรวจพบเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ เป็นสัญญาณที่น่ากังวล
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 804 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 27 พ.ย. 64
เวลา 11:39:37
|