• ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ไม่แนะนำ ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เชื้อตาย+mRNA ในเด็ก |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 13 ก.พ. 65 เวลา 15:03:16 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
11 กุมภาพันธ์ 2565 นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันแม้การติดเชื้อโควิดในเด็กส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง แต่ใน 2% ของเด็กที่ติดเชื้อมีอาการ ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่ง 1 ใน 3 ของจำนวน (2%)นี้ ต้องเข้าห้องไอซียู
และหากเด็กติดเชื้อโควิด เด็กบางกลุ่มอาจเกิดภาวะ ‘มิสซี (MIS-C)’ หรือ อาการอักเสบของหลายอวัยวะขึ้นได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุ 5-12 ปี การฉีดวัคซีนในเด็กจึงถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก
ส่วนข้อแนะนำจากกระทรวงสาธาณสุข การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ‘ซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม+ไฟเซอร์’ ในเด็กนั้น วีคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.ไทย ให้นำฉีดในเด็กได้ แต่โดยส่วนตัวมองว่า การฉีดวัคซีน ‘เชื้อตาย’ (ซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม) ตามด้วยวัคซีนชนิด mRNA (ไฟเซอร์) จะช่วยลดปริมาณการฉีดวัคซีนเชื้อตายหลายเข็มได้ เนื่องจากการฉีดเชื้อตาย 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันยังขึ้นไม่ดีนัก ส่วนการฉีดไขว้ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นเทียบเท่าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม
อย่างไรก็ตาม แม้การฉีด ‘วัคซีนสูตรไขว้’ ในเด็กสามารถทำได้ แต่จริง ๆ ไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน 2 ชนิด เพราะวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มก็มีเพียงพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นให้เด็กต้องฉีดวัคซีนสูตรไขว้
กรณีคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค สธ. อนุมัติการฉีดสูตรไขว้เด็กอายุ 6-11 ปี เหมือนเด็กอายุ 12-17 ปีด้วย นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แนะนำเข็มแรกควรเป็นชนิด mRNA หรือไฟเซอร์ แต่ถ้าหากฉีดเข็มแรกเป็นเชื้อตายมาแล้วก็สามารถฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์
แต่ทางที่ดีที่สุดคนที่ยังไม่ฉีดเข็มแรก ขอให้ฉีดเป็นชนิด mRNA และตามด้วยเข็ม 2 วัคซีนชนิดเดียวกัน ยกเว้นว่าก่อนหน้านี้ฉีดเชื้อตาย อย่างซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม มาก่อน ก็ต้องฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์ ซึ่งราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ได้ออกคำแนะนำไว้แล้ว
ส่วนข้อกังวลการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ข้อมูลจากสหรัฐฯ และแคนาดาระบุว่า ฉีดไฟเซอร์ในเด็ก 2 เข็ม เว้นระยะห่างราว 8 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงกว่าการฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ ราว 10 เท่า และลดการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ก็ได้แนะนำเช่นนั้นด้วย
ส่วนการฉีดบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 ในเด็ก ยังไม่แนะนำ ยกเว้นเด็กกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งต้องฉีดกระตุ้นเป็นระยะ ๆ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 574 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 13 ก.พ. 65
เวลา 15:03:16
|