กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ที่ฝาผนังวิหารวัดพระธาตุหริภุญชัยทั้งด้านในและด้านนอกมีภาพวาดพุทธชาดกและพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าประดับไว้
ภาพเหล่านี้จัดทำขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๐๕ ล่วงเลยมาถึง ๖๐ ปีโดยพระธรรมโมลี(อมร อมรปญฺโญ ป.ธ.๗)) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยในสมัยนั้น ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระสุเมธมังคลาจารย์ มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๓
โดยเฉพาะที่ฝาผนังด้านในวิหารมีภาพวาดพุทธชาดกที่สวยงามพร้อมคำบรรยายที่เป็นโคลงที่แต่งขึ้นโดยพระธรรมโมลี(อมร อมรปญฺโญ ป.ธ.๗)
พุทธชาดกหรือทิศชาติชาดก(พระเจ้าสิบชาติ) เป็นเรื่องราวหรือชาดกที่กล่าวถึงการบำเพ็ญบารมีใน ๑๐ ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนที่จะเสวยพระชาติมาเป็นเป็นพระโคตมะพุทธเจ้า(เจ้าชายสิทธัตถะแห่งศากยะวงศ์) แบ่งเป็นเตมียชาดก, มหาชนกชาดก, สุวรรณสามชาดก, เนมิราชชาดก, มโหสถชาดก, ภูริทัตชาดก, จันทชาดก, นารทชาดก, วิทูรชาดกและเวสสันดรชาดก
ที่ฝาผนังด้านหลังวิหารหลวงมีข้อมูลผู้วาดภาพว่า “ภาพวิจิตรศิลป์วาดโดยนายอาคม ไชยสิทธิ์ บ้านหนองช้างคืน หมู่ ๒ อ.เมือง จ.ลำพูน วิจิตรวรรณกรรม ร่ายลิลิตโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ทุกพระวิหารโดยพระธรรมโมลี เจ้าอาวาส”
นายอาคม ไชยสิทธิ์ ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “พ่อครูถา” เกิดที่บ้านหลุก ตำบลเหมืองง่า อำเภอเมืองลำพูน เคยรับราชการเป็นครูสอนที่โรงเรียนบ้านหลุกมาก่อน ต่อมาได้ภรรยาเป็นชาวบ้านหนองช้างคืน ชื่อนางแสงคำ สกุลเดิม สิทธิธรรม มีบุตรธิดา ๓ คน คือ
- นายอุดม ไชยสิทธิ์(เสียชีวิต)
- นายสุคนธ์ ไชยสิทธิ์(เสียชีวิต)
- นางสายสุนีย์ เบ็ญจโภคี ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการกายภาพและสิ่งแวดล้อม สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
หลังแต่งงานได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านหนองช้างคืนและยึดอาชีพวาดภาพพุทธประวัติและพุทธชาดกตามวัดต่างๆ นอกจากนี้ยังวาดภาพเล่าเรื่องประวัติศาสตร์การสร้างเมืองหริภุญชัยอีกด้วย
พระครูสุปุญญาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนทันได้สัมผัสนายอาคม ไชยสิทธิ์ขณะยังรับงานวาดภาพ เล่าว่า
“นายอาคม ไชยสิทธิ์ ชาวบ้านเรียกกันว่า พ่อครูถา เคยเป็นครูมาก่อน รูปร่างสูงใหญ่คล้ายคนสมัยโบราณ เป็นคนเงียบพูดน้อย เดิมเป็นคนบ้านหลุกมาได้ภรรยาคนบ้านหนองช้างคืนชื่อ แสงคำ สิทธิธรรม
“พ่อครูถามีความสามารถทางวาดภาพพุทธประวัติ พุทธชาดกและประวัติเมืองลำพูน รับวาดภาพตามวัดต่างๆ ทั้งในจังหวัดลำพูนและจังหวัดอื่นๆ เคยไปวาดทางจังหวัดภาคกลางด้วย การวาดมักจะเขียนชื่อตัวเองกำกับไว้ด้วยทุกครั้ง
“ระหว่างวาดภาพก็เปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ฟังเพลงและรายการอื่นไปด้วย อาตมาเคยเห็นขณะที่พ่อครูถาวาดภาพที่วิหารบ้านหลุกและที่วัดสามัคคีธรรมาราม ขณะนั้นอายุมากแล้ว ขณะนั้นอาตมารับไปกิจนิมนต์ไปเห็นก็ไปยืนดู นอกจากวาดภาพแล้ว ข้อความบรรยายก็เขียนเอง ลายมือธรรมดาไม่สละสลวยมากนัก
“ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย พระธรรมโมลีเจ้าอาวาสว่าจ้างพ่อครูถาไปวาดพุทธประวัติและพุทธชาดกที่วิหารหลวง ทราบว่าต่อมาเมื่อมีการบูรณะเปลี่ยนหลังคาวิหารหลวงได้ว่าจ้างพ่อครูถาไปวาดเติมสีที่ซีดจางให้เข้มชัดอีกครั้งหนึ่ง จำปี พ.ศ.ไม่ได้
“ที่วิหารวัดหนองช้างคืน พ่อครูถาก็ทำหน้าที่วาดพุทธประวัติไว้ในวิหาร ต่อมาวิหารเก่ารื้อไปและสร้างใหม่ ได้ว่าจ้างพ่อครูถามาวาดพุทธประวัติระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๔-๒๕๔๕ ใช้เวลา ๑ ปีเศษ ค่าจ้างวาดหากเป็นภาพใหญ่ภาพละ ๑๐,๐๐๐ บาท ภาพเล็กภาพละ ๒,๕๐๐ บาท
“การวาดภาพนั้นพ่อครูถาทำหน้าที่วาดเพียงคนเดียว มีคนช่วยเหลือทำนั่งร้านสำหรับวาดที่ฝาผนัง ชื่อ นายมนูญ สิทธิธรรม ซึ่งเป็นหลาน และช่วยวาดกรอบรูปด้วย เท่าที่ทราบพ่อครูถาเคยวาดภาพที่วัดบ้านหลุกก่อนที่จะเสียชีวิต”
ผู้ที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือนายอาคม ไชยสิทธิ์หรือพ่อครูถาวาดภาพประดับฝาพระวิหารหรืออุโบสถ คือนายมนูญ สิทธิธรรม ปัจจุบันอายุ ๖๓ ปี เป็นคนบ้านหนองช้างคืน เคยทำงานโรงแรมในเมืองเชียงใหม่ต่อมากลับมาทำงานที่บ้านและทำหน้าที่ช่วยเหลือนายอาคม ไชยสิทธิ์วาดภาพ โดยนายอาคม ไชยสิทธิ์มาแต่งงานกับนางฟองคำ สิทธิธรรมซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า(พี่สาวของพ่อ)
นายมนูญ สิทธิธรรมเล่าความทรงจำเกี่ยวกับการทำงานเป็นลูกมือของนายอาคม ไชยสิทธิ์ว่า
“ผมกลับมาเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและทำงานกับพ่อครูถาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ ขณะนั้นพ่อครูถามีอายุ ๖๐ ปีเศษแล้ว เริ่มที่วิหารวัดป่าตึง ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน พ่อครูถามอบหมายให้ผมทำหน้าที่เขียนกรอบภาพซึ่งเป็นกรอบลายไทยขนาดกรอบกว้างประมาณ ๕ นิ้ว โดยพ่อครูถาทำแบบเป็นกระดาษฉลุลายไทยไว้ นำกระดาษฉลุมาทาบและใช้ดินสอเขียนลายไว้ ต่อมาก็มาลงสีมักใช้สีเหลืองหรือสีแดง
“ปกติเมื่อพ่อครูถารับงานวาดภาพตามวัดต่างๆ มีผมและนายมานพ แสนบริบูรณ์ คนบ้านหนองช้างคืนมาช่วยเหลือทำกรอบภาพและช่วยทำนั่งร้านให้พ่อครูถาขึ้นไปวาดภาพ
“การวาดภาพของพ่อครูถาไม่ใช้ดินสอร่างภาพ แต่ใช้พู่กันจุ่มสีและวาดลงที่ฝาผนังวิหารเลย ลงสีจางก่อนและต่อมาลงสีเข้ม ส่วนแบบนั้นมีสมุดภาพพุทธประวัติประจำตัว เปิดสมุดภาพและวาดตาม
“พ่อครูถาทำงานจริงจัง ทำงานตลอดทั้งวัด กินข้าวเช้าเสร็จก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานที่รับไว้ ขณะนั้นใช้รถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อซูซูกิสภาพเก่า จนประมาณ ๔ โมงเย็นจึงกลับบ้านพักผ่อน ส่วนผมและนายมานพ ซึ่งรับผิดชอบวาดกรอบภาพมักทำเสร็จก่อน วันหนึ่งทำได้ ๓-๔ กรอบ ทำเสร็จก็กลับบ้านทำงานอื่นได้
“งานวาดภาพตามวัดต่างๆ มักวาดที่ฝาผนังประมาณ ๑๐ ภาพเศษ โดยพ่อครูถาซื้อสีน้ำมันมาเอง ใช้เวลาประมาณ ๔ เดือนก็เสร็จ การรับงานวาดแต่ละครั้งค่าจ้างประมาณ ๘๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ บาท รวมค่าสีที่พ่อครูถาออกเงินซื้อเอง ส่วนผมและนายมานพ ได้รับค่าจ้างคนละ ๖,๐๐๐ บาท
“สมัยนั้นพ่อครูถาได้ชื่อว่าเป็นช่างฝีมือดีของจังหวัดลำพูน มีทางวัดมาจ้างวาดไม่ขาด ส่วนช่างวาดภาพตามวัดคนอื่นๆ ที่รับงานกรณีที่พ่อครูถาไม่ว่าง เช่น ช่างราชัน เหล็กสมบูรณ์ คนบ้านศรีทรายมูล อีกคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์พ่อครูถาเป็นคนอำเภอบ้านโฮ่ง
“เคยไปวาดร่วมกับพ่อครูถาที่วัดป่าตึง ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน, โบสถ์พระเจ้าทันใจที่วัดพระธาตุหริภุญชัย, วัดประตูโขง ใกล้ห้างบิ๊กซีเมืองลำพูน ผมทำงานกับพ่อครูถา ๔ ปีก็ออกมาเล่นการเมืองท้องถิ่นที่หมู่บ้าน
“ภายหลังพ่อครูถาวาดภาพเองตามลำพัง ครั้งหลังสุดทราบว่ารับวาดภาพที่วัดป่าขามใหม่ ตำบลเหมืองง่า อำเภอเมืองลำพูนก่อนที่จะหยุดรับงานวาดภาพ
“พ่อครูถาเคยได้รับคัดเลือกเป็นเป็นศิลปินดีเด่นของจังหวัดลำพูนด้านช่างศิลป์ไทย(จิตรกรรม) ได้รับโล่จากศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดลำพูนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ มีภาพการรับโล่รางวัล และเคยมีการเสนอให้เป็นศิลปินแห่งชาติ แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก”
นอกจากมีผลงานวาดภาพตามวัดในเขตจังหวัดลำพูนแล้วนายอาคม ไชยสิทธิ์ยังเคยไปรับจ้างวาดภาพต่างจังหวัดอีกด้วย เช่นที่วัดวชิรธรรมสาธิตที่กรุงเทพฯ โดยครูบาศรีนวลเจ้าอาวาสวัดซึ่งเป็นคนอำเภอป่าซางจ้างไปวาด นอกจากนี้เคยไปรับวาดที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระแก้วและจังหวัดอื่นทางภาคกลางอีกด้วย ตลอดชีวิตของนายอาคม ไชยสิทธิ์คาดว่าทิ้งผลงานการวาดภาพพุทธประวัติ พุทธชาดก ภาพประวัติศาสตร์การก่อตั้งนครหริภุญชัยและภาพประเพณีวัฒนธรรมล้านนาประมาณ ๒๐-๓๐ แห่ง
นายอาคม ไชยสิทธิ์หรือพ่อครูถาเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘ ขณะอายุ ๙๒ ปีโดยป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตกที่บ้าน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ต่อมากลับมารักษาตัวที่บ้านประมาณ ๑ ปีเศษและเสียชีวิตลงเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘ ขณะอายุ ๙๒ ปี มีพิธีทำบุญและฌาปนกิจศพที่สุสานบ้านหนองช้างคืน ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
ผลงานภาพวาดพุทธประวัติ พุทธชาดกฯ ยังคงปรากฏให้ผู้ไปทำบุญกุศลตามวัดต่างๆ ได้พบเห็นทำให้จิตใจโน้มนำไปสู่เส้นทางธรรม ประพฤติปฏิบัติตามแนวคำสอนขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นบุญกุศลทั้งแก่ตัวเองและส่งไปสู่ผู้วาดไว้คือนายอาคม ไชยสิทธิ์ แห่งบ้านหนองช้างคืนผู้ล่วงลับ.
พ.ต.อ.อนุ เนินหาด รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน เรียบเรียง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|