กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อยากขยายตลาดต้องรู้! ผู้ประกอบการหาลูกค้าต่างประเทศยังไงให้ขายดีในแวดวงธุรกิจส่งออกทั้งหลายไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นธุรกิจส่งออกเปิดใหม่หรือเป็นธุรกิจมือเก๋าที่ต้องการขยายฐานธุรกิจของคุณเพื่อหาลูกค้าใหม่เพิ่ม ความท้าทายหลักของการหาลูกค้าข้ามชาติก็คือ การหาลูกค้าที่มีความต้องการตรงกับสินค้า/บริการที่คุณจะมอบให้ การขายของหรือเปิดธุรกิจใหม่ในประเทศที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักหรือมีวัฒนธรรม มุมมองความคิดที่แตกต่างในแง่ของการใช้งานสินค้าคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีประเด็นหลายอย่างทั้งเรื่องระยะทางที่ห่างไกลกันมาก วัฒนธรรมที่ต่างกันเหมือนที่ได้กล่าวไป กำแพงภาษาที่ต้องพิจารณาหากสื่อสารกันคนละความหมาย แต่ท่ามกลางปัญหาเหล่านี้ โชคยังดีที่มนุษย์ได้พัฒนาเทคโนโลยีมาระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหนก็เหมือนอยู่ใกล้กัน เรียนรู้ความแตกต่างของกันและกันได้รวดเร็ว ลดกำแพงภาษาที่สื่อสารกันยากออกไป และนั่นก็หมายความว่าคุณก็มีสิทธิ์หาลูกค้าต่างประเทศได้ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นกัน ค้นหาตลาดเพื่อส่งออกสินค้าไปขาย - หาความต้องการซื้อ (Demand) ให้เจอก่อน
ค้นหาและรวบรวมข้อมูลให้ได้ว่าประเทศไหนที่กำลังต้องการสินค้าส่งออกของคุณบ้าง ยกตัวอย่างบ้านเราง่าย ๆ สินค้าส่งออกหลักของเราคือ ยาง อะไหล่ยนต์ คอมพิวเตอร์ และทุเรียน ดังนั้นประเทศนำเข้าสินค้าไทยหลัก ๆ ก็คงหนีไม่พ้น จีน อเมริกา และญี่ปุ่นตามลำดับ คำถามถัดมา เราจะไปหาข้อมูลนี้ได้จากที่ไหน คำตอบนี้ง่ายมากเพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์หน่วยงานราชการ หรือเว็บไซต์ข่าวที่รวบรวมยอดส่งออกรายปีมาให้แล้ว อาทิ สวก. Efinancethai DITP หรือ Prachachart เป็นต้น รับรองว่าคุณจะได้ข้อมูลแน่น ๆ สำหรับวางแผนส่งสินค้าออกไปยังประเทศปลายทางแน่นอน - ตลาดที่คุณจะหาลูกค้าใหม่เป็นตลาดที่มั่นคง (Stable Market) หรือเปล่า
อย่างที่เราเคยเห็นมานักต่อนักสินค้าอะไรที่เป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งคนก็เร่งผลิต นิยมเอามาขายกันมาก พอช่วงกระแสตก สินค้าเหล่านี้ก็กลายไปเป็นขยะพบเห็นได้ทั่วไปอย่างกรณีตัวอย่างของตุ๊กตา Furby ที่เป็นกระแสอยู่เมื่อปี 2555 - 2556 พอภายหลังกระแสตกก็โดนทิ้งกลายไปเป็นตุ๊กตาผีเฝ้าศาลพระภูมิแทน ดังนั้นพึงคำนึงไว้ด้วยว่าสินค้าที่คุณมีเป็นสินค้าในกลุ่ม “ตลาดตามกระแส” หรืออยู่ในกลุ่ม “ตลาดที่มั่นคง” เพราะสินค้าในกลุ่มตลาดที่มั่นคงมีความต้องการสินค้าสูงถึงสูงมาก ไม่มีทางสินค้าจะขาดตลาดแน่นอน และเราขอให้คุณพิจารณาตลาดของประเทศปลายทางด้วยคำถามเหล่านี้ก่อน - ประเทศปลายทางมีการผลิตสินค้าชนิดเดียวกันกับที่คุณจะส่งออกหรือเปล่า?
- ถ้าไม่ พวกเขาสามารถผลิตสินค้าได้เองเร็ว ๆ นี้ไหม?
- ความต้องการซื้อของพวกเขาเป็นเทรนด์เฉพาะฤดูกาล หรือเป็นเทรนด์ชั่วคราวหรือเปล่า?
- คาดการณ์ว่าความต้องการซื้อของพวกเขาจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในอีกไม่กี่ปีจากนี้หรือเปล่า?
- ประเทศปลายทางสามารถนำเข้าสินค้าแบบเดียวกันจากประเทศส่งออกอื่นได้ง่ายกว่าของเราไหม?
เรื่องนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องคำนึงถึงในระยะยาว แทนที่จะหวังพึ่งเพียงแค่รายชื่อประเทศนำเข้าอันดับต้น ๆ ว่าพวกเขาจะอยู่กับเราตลอดไป หลังจากนี้คุณอาจเริ่มพิจารณาประเทศที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนั้น ประเทศที่เล็กกว่า แต่ความต้องการทางการตลาดสูงมากและอาจสูงอยู่อย่างนั้นไปสักระยะหนึ่ง ช่วยให้คุณเติบโตและมองหาลูกค้าจากประเทศเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น - ตลาดที่จะส่งออกทำกำไรได้หรือเปล่า
หนึ่งในความท้าทายที่สุดของเหล่านักส่งออกคือการพิจารณา ไตร่ตรอง คำนวณมาแล้วอย่างดีว่าประเทศนำเข้าสินค้านั้นจะสามารถสร้างผลกำไรกลับมาให้ธุรกิจของคุณได้ดี ยังไม่รวมถึงการตั้งราคาที่ต้องมีหลักมีผลในตัวเองและสามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นได้ด้วย ราคาสินค้าที่สูงขึ้นนั่นหมายความว่าสินค้าต้องมีคุณภาพสูงตามไปด้วย พร้อมส่งทันที การแพ็กสินค้าอย่างพิถีพิถัน และการเพิ่มคุณค่าเข้าไปในตัวสินค้าผ่านการทำการตลาด ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกสินค้าให้ได้กำไรก็มีดังนี้ - ราคาอยู่ในขอบเขตที่ลูกค้าต่างประเทศยินดีที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้าของคุณ
- อาจมีราคาเสริมที่ถูกเพิ่มเข้าไปในตัวสินค้าด้วย เช่น ค่าขนส่ง การหักบัญชีและการส่งต่อ ค่าจองตู้สินค้า ค่าพื้นที่วางสินค้า ค่านำสินค้าขึ้น/ลงเรือ ค่าแพ็กเกจและการติดป้าย ประกันขนส่งและใบรับรอง และค่าการตลาด เป็นต้น
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการลดราคาสินค้า - การขอคืนเงินภาษีศุลกากรหรือภาษีสรรพสามิต
- แผนการช่วยเหลือสินค้าส่งออกของไทย
- วงเงินสินเชื่อเพื่อการส่งออก
- การลดกำแพงภาษีของประเทศนำเข้า
- ราคาประมูลสำหรับซัพพลายเออร์คู่แข่งสำหรับสินค้าชิ้นเดียวกัน
- มีกำแพงทางการค้าหรือเปล่า?
มีหลายครั้งอยู่เหมือนกันที่ผู้ส่งออกเหมือนจะหาลูกค้าใหม่ได้แล้วและกำลังส่งออกสินค้าไปให้ แต่ดันเจอกับกำแพงการค้าหรือการกีดกันทางการค้าขึ้นมาก่อน ทำให้การส่งออกติดขัด ตัวอย่างกำแพงการค้าที่เจอได้แก่ เพิ่มภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยประเทศผู้นำเข้า หรือสิ่งอื่นอย่าง การห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภท การบังคับข้อกำหนดด้านคุณภาพของสินค้านำเข้า ข้อกำหนดสำหรับการอนุญาตพิเศษ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น ออสเตรเลียกำลังรณรงค์แบนสินค้าที่ผลิตจากพลาสติกจำนวนมากหรือสินค้าที่มีไมโครพลาสติกรวมอยู่ด้วย เพื่อรักษาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม สินค้าที่ถูกแบนในออสเตรเลีย ทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกำแพงทางการค้าได้คือเปลี่ยนไปส่งออกกับประเทศอื่นที่ไม่ได้มีกำแพงทางการค้าแทนหรือเปลี่ยนสินค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกำแพงทางการค้ากับประเทศเหล่านั้นแทน - สภาพแวดล้อมของประเทศนำเข้าก็มีผลต่อการส่งออก
ก่อนส่งออกสินค้าอะไรก็ตามสำรวจพื้นที่ภูมิประเทศแถบนั้นให้ดีเสียก่อน สภาพเศรษฐกิจ ลักษณะภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสภาวะทางการเมืองของประเทศที่นำเข้า พยายามมองหาตัวชี้วัดสภาวะทางเศรษฐกิจและทางการเมืองที่คาดการณ์ไม่ได้ซึ่งอาจส่งผลกระทบตรงมุมมองผู้ส่งออก พยายามอ่านสภาวะแวดล้อมและข้อกำหนดกฎหมายของประเทศนำเข้าพื้นที่คุณจะไม่ได้ไปบังเอิญเจอกับปัญหาอาการค้าตามมา ทีนี้ก็มาถึงวิธีหาลูกค้าหรือผู้ซื้อให้ธุรกิจของคุณ หาลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ - เขียนเว็บไซต์/ Blog อันดับแรกคือการเตรียมการเว็บไซต์ของคุณให้พร้อม ออกแบบเว็บไซต์ให้น่าดึงดูดและดูมีความเชี่ยวชาญซึ่งจะสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าได้ โดยสิ่งที่ต้องมีในเว็บไซต์ของคุณนั้น ได้แก่ การอัพเดตข้อมูลข่าวสารทั่วไปเกี่ยวกับสินค้าและกระบวนการผลิตคุณ แนบรูปภาพหรือคลิปวิดีโอเพื่อเสริมการบรรยายหรือสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ด้วยการใช้เทคนิคการตลาด SEO จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกจัดอันดับในหน้าผลการค้นหาของ Google ในระดับที่สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ช่วยให้ผู้ซื้อค้นหาคุณง่ายขึ้นอย่าง Search Engine Marketing และ Google Search Console จะช่วยให้หน้าเว็บไซต์ของคุณหรือบล็อกเข้าถึงผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น และเพิ่มอัตรา Traffic และ Conversion Rate ได้มากขึ้น
- Social Media โซเชียลมีเดีย คือสื่อน้ำดีที่มีพลังในการกระจายข้อมูลข่าวสารชั้นเยี่ยมให้กับลูกค้าต่างประเทศ โดยสื่อโซเชียลที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ Facebook, Twitter, Instagram, Linkedin และ YouTube เป็นต้น Siri ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้มากขึ้น ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้มากขึ้นคุณสามารถเข้า ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้มากขึ้นคุณสามารถเข้าร่วมกลุ่มใน Facebook ที่ตรง สินค้าของคุณและความต้องการของผู้ซื้อ และสามารถแชร์ประสบการณ์ ทิป หรือเคล็ดลับต่าง ๆ ในการส่งออกได้
- Email Marketing หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่เก่าแก่ที่สุดแต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถส่งจดหมายข่าว โปรโมชั่น และดีลราคาพิเศษที่จะมอบให้กับผู้ซื้อรอบโลกได้ผ่านอีเมล การทำการตลาดผ่านอีเมลจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย คุณสามารถวางโครงร่างรายชื่อลูกค้าพี่จะต้องได้รับอีเมลโดยอาศัย Database ที่คุณมี และพึงจำไว้ว่าการทำ Email Marketing ควรทำให้ถูกหลักการการตลาด เพราะไม่อย่างนั้นอีเมลของคุณอาจกลายไปสแปมได้
- เว็บไซต์ B2B เป็นเว็บไซต์ e-commerce ที่เป็นสื่อกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้ส่งออกและผู้นำเข้าสินค้า อาทิ Alibaba, Amazon, Lazada, Shopee, Global Sources, DHgate, Made in China และ Tradewheel เป็นต้น เว็บไซต์เหล่านี้ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการขยายฐานลูกค้าให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแพลตฟอร์มเหล่าจะดึงดูดผู้ซื้อและผู้ขายนับล้านทั่วทั้งโลก
หาลูกค้าผ่านช่องทางออฟไลน์ - เข้าร่วมงานแสดงสินค้าหรืองาน Expo ต่าง ๆ คุณสามารถเอาสินค้าและเจ้าหน้าที่ทางการตลาดเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศผู้นำเข้าได้ ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศได้เป็นเจ้าภาพงานแสดงสินค้าหลากหลายประเภทมาแล้วหลายปี ดึงดูดผู้ซื้อและผู้ขายนับพันนับหมื่นคน ยกตัวอย่าง หากคุณกำลังมองหารถยนต์ EV ที่วิ่งระยะทางไกลได้จากต่างประเทศคุณก็ไปเข้าร่วมงานแสดงรถยนต์ประจำปีได้ หรือถ้าหากคุณไม่รู้ว่างานแสดงสินค้าจัดขึ้นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์หรือหน้าเพจเกี่ยวกับการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศนั้น ๆ ได้โดยตรง และที่งานแสดงสินค้าคุณสามารถแสดงตัวอย่างสินค้าให้กับผู้ซื้อได้ ตอบคำถามและข้อสงสัยรวมไปถึงการทำสัญญาสินค้ากับผู้ซื้อ เพราะการทำสัญญากับผู้ซื้อแบบตัวต่อตัวในงานแสดงสินค้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อได้
- ติดต่อหน่วยงานส่งเสริมสินค้าส่งออก ด้วยความช่วยเหลือจากภาครัฐผู้ขายสามารถร้องขอให้ช่วยหาลูกค้าต่างประเทศได้ องค์กรเหล่านี้จะช่วยให้ข้อมูลและช่วยจัดคณะเยี่ยมชมพาคุณไปสำรวจตลาดของประเทศต้นทางหรือเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่นั่นได้
- ตัวแทนต่างประเทศ บริษัทการค้าที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก ซึ่งบริษัทตัวแทนนี้ก็มีอยู่หลากหลายบริษัทมากขึ้นอยู่กับความแตกต่างของสินค้าแต่ละประเภท
- ตัวแทนซื้อ ผู้ซื้อหลายรายเป็นตัวแทนที่กำลังมองหาสินค้านำเข้าจากประเทศไทย ผู้แทนบางคนก็ทำงานให้กับตัวแทนต่างประเทศ ดังนั้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนต่างประเทศและตัวแทนซื้อสามารถพบเจอได้ที่สถานกงสุลหรือสถานทูตของประเทศผู้นำเข้าในไทย
- ผู้ค้าส่งต่างประเทศ มีผู้ซื้อหลายรายที่รับหน้าที่เป็นพ่อค้าปลีกในประเทศผู้นำเข้า ดังนั้นพวกเขาก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นพ่อค้าคนกลาง การทำสัญญาทางการค้ากับพวกเขาจะดำเนินการได้เร็วกว่าการติดต่อตัวแทนต่างประเทศของรัฐบาล ถึงแม้ว่าจะได้ส่วนต่างน้อยกว่าก็ตาม
- Commission Agents ตัวแทนต่างประเทศที่เป็นเชื่อมโยงผู้ค้าส่งต่างประเทศดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นกับซัพพลายเออร์สินค้าในประเทศอื่น แต่จะแตกต่างกันที่ว่าพวกเขาจะได้รับค่าคอมมิชชั่นด้วย
- พนักงานขายของบริษัทคุณเอง มีของดีกับตัวแล้วจะเก็บไว้ทำไม พนักงานขายของคุณที่รับหน้าที่ส่งสินค้าไปยังประเทศปลายทางจะช่วยให้คุณหาลูกค้าที่จะซื้อสินค้าของคุณได้ พนักงานขายที่ดีจะต้องทำวิจัยการตลาด และรับหน้าที่เป็นผู้นำในการต่อรองราคา ดำเนินการจัดเรียงสินค้าและบริการหลังการขายรวมไปถึงการจัดการบัญชีของคุณอีกด้วย
- บริษัทที่รับวิจัยการตลาด เมื่อคุณเข้าไปสู่การตลาดแหล่งใหม่ครั้งแรก การรวบรวมข้อมูลและจัดเตรียมสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉะนั้นบริษัทที่รับหน้าที่วิจัยการตลาดแหล่งนี้อยู่แล้วจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ด้วยรายชื่อผู้ซื้อที่พวกเขาแนะนำ ความเชี่ยวชาญในท้องตลาดหรือในแวดวงอุตสาหกรรมของคุณ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงผู้นำเข้าไปต่างประเทศได้โดยตรง
- หาจากแหล่งข้อมูลในอุตสาหกรรมหรือผู้ติดต่อส่วนบุคคลของคุณ บุคคลเหล่านี้ก็คือ หุ้นส่วน ผู้ร่วมลงทุน เพื่อน หรือครอบครัวของคุณ ที่มีคอนเนกชันติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศได้
ทิปเล็กน้อยสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังจัดเตรียมแผนส่งออกสินค้า - วางแผนทางธุรกิจของคุณให้เรียบร้อยก่อนออกหาผู้ซื้อพร้อมกับทำวิจัยสภาวะแวดล้อมของประเทศผู้นำเข้าให้ชัดเจน รวมถึงกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ จากทั้งไทยและเทศว่ารองรับการน้ำเข้า-ส่งออกมากแค่ไหน ลองถามตัวเองละเอียด ๆ อีกครั้งว่ามีความสามารถพอที่จะเข้าสู่ตลาดใหม่ได้หรือเปล่า
- หลังจากออกแบบเว็บไซต์แล้ว ต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถแปลภาษาเป็นภาษาของประเทศปลายทางได้? หรือทางที่ดีที่สุดคือเขียนคอนเทนต์เป็นภาษาของประเทศนั้นไปเลย
- เลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียให้เหมาะสมกับประเทศปลายทาง แพลตฟอร์มที่ไม่ได้ถูกบล็อกหรือถูกระงับจากประเทศนั้น ๆ เช่น จีนและรัสเซียที่บล็อก Facebook, Twitter, YouTube และ Instagram ถ้าคุณเชี่ยวชาญในการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเหล่านี้ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มของประเทศปลายทางเองจะดีที่สุด อาทิ Weibo, Xiaohongshu (小红书), Douyin (TikTok) เป็นต้น
- ระมัดระวังลักษณะทางวัฒนธรรมของประเทศปลายทางที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าจากไทย ไม่อย่างนั้นสินค้าของคุณอาจเผชิญกับการล่วงละเมิดทางวัฒนธรรมของประเทศอื่นได้ ตัวอย่าง การแบนสินค้านำเข้าชนิดเพื่อการคุมกำเนิด เช่น ถุงยาง ยาคุมกำเนิดในประเทศอิสลาม
- รู้และเข้าใจข้อกำหนดกฎหมายของประเทศไปทางนั้น ๆ
- สื่อสารให้ชัดเจนกับผู้ซื้อและโน้มน้าวพวกเขาให้เข้าถึงสินค้าของคุณ หรือนำเสนอตัวอย่างสินค้าหรือสินค้าต้นแบบให้พวกเขาเชื่อใจในธุรกิจของคุณ
- สร้างชื่อเสียงของแบรนด์เพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้า ด้วยการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันใจกับลูกค้า ซึ่งจะทำให้เกิดการตลาดแบบบอกต่อ หาลูกค้าใหม่ได้ในทางอ้อม
หากคุณกำลังมองหา Digital Marketing Agency ที่ใช่ ถูกใจ พร้อมดูแลคุณเคียงข้างทุกโปรเจกต์เหมือนเป็นหนึ่งในเพื่อนคู่คิดหรือพาร์ทเนอร์ให้กับทีม In-house Marketing กับ Cotactic Media เอเจนซี่ด้านการตลาดออนไลน์ เรายินดีให้คำปรึกษาคุณและพร้อมวางแผนกลยุทธ์การตลาดให้เข้าใจโดยสรุปแบบฟรี ๆ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ติดต่อหาเราได้ที่เบอร์ 065 095 9544 Facebook : Cotactic Media - Digital Marketing Agency https://www.cogoport.com/blogs/the-great-export-challenge-how-to-find-buyers-for-your-products
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|