• แพทย์เตือน ต้องเฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะลุ่มเสี่ยง เด็ก และหญิงตั้งครรภ์ส่งผลต่อพัฒนาสมอง เพิ่มอัตราเกิดโรคออทิสติก |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 06 ก.พ. 66 เวลา 19:05:25 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลเฝ้าระวังโรค พบฝุ่น PM 2.5 นอกจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบตรง คือ ผู้ป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว ยังมีกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพเป็นพิเศษ คือผู้ที่มีปัญหาระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดหัวใจขาดเลือดทั้งแบบฉับพลัน และระยะยาว สร้างความเสียหายต่อระบบพฤติกรรม สมอง โดยเฉพาะเด็กอายุ 0-6 ปี กระทบพัฒนาสมอง ส่งผลให้ IQ – EQ ลด หลายประเทศพบ PM 2.5 ทำให้เกิดออทิสติกมากขึ้น อีกกลุ่มที่ต้องระวังคือหญิงตั้งครรภ์ เพราะข้อมูลชัดว่า PM 2.5 ทำให้เกิดภาวะการคลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย หรือพิการแต่กำเนิดได้ แนะควรเช็คระดับค่าฝุ่น PM 2.5 ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ชี้ฝุ่นละออง PM 2.5 คือฝุ่นขนาดเล็ก เด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากตัวเล็ก ปอดกำลังพัฒนา ชอบเล่นในที่กลางแจ้ง อัตราการหายใจเร็ว มีแนวโน้ม ไม่ใส่เครื่องป้องกันฝุ่น มีโอกาสได้รับฝุ่นเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวมากกว่าผู้ใหญ่ในช่วงเวลาเท่ากัน ในขณะเดียวกันผู้ป่วยโรคหืดจะมีความไวต่อการกระตุ้นจากฝุ่น PM 2.5
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตยากร อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผย PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งขนจมูกไม่สามารถกรองได้ และอาจมีสารพิษเกาะติดมาด้วย สามารถเข้าสู่ ทางเดินหายใจเข้าไปยังถุงลมและแทรกซึมผ่านเข้าไปยังหลอดเลือดฝอยและเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น ไปรบกวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้น ได้แก่ ทำให้ไอ จาม ระคายเคืองตา แสบตาตาแดง ระคายเคืองผิวหนัง เกิดผื่นคัน และก่อให้เกิด ผลกระทบระยะยาวต่อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ มะเร็งปอดระบบหัวใจและหลอดเลือด หัวใจวาย ความดันโลหิตสูง คลอดก่อนกำหนด ทารกคลอดน้ำหนักตัวน้อย นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อพัฒนาการและระบบสมองของทารก
นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า การดูแลและป้องกันเด็กให้ปลอดภัยจาก PM 2.5 ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ควรติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ ดูแลให้เด็กดื่มน้ำสะอาด8-10 แก้วต่อวัน ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิดและเปิดพัดลม ให้อากาศหมุนเวียน ไม่จอดรถและติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน เมื่อ PM 2.5 อยู่ในระดับ > 26 มคก./ลบ.ม. ดูแลเด็กให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวควรดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีอาการไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ให้รีบไปพบแพทย์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 306 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 06 ก.พ. 66
เวลา 19:05:25
|