• ด่วน! ศาลแพ่ง ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว พรรคภูมิใจไทย ห้าม ชูวิทย์ ป่วนเวทีปราศรัยใหญ่ ชี้เป็นการจำกัดสิทธ์เกินสมควร |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 11 พ.ค. 66 เวลา 15:17:41 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ พรรคภูมิใจไทย โจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลยต่อศาลแพ่งเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ในคดีหมายเลขดำที่ พ.๒๑๗๖/๒๕๖๖ โดยกล่าวหาว่าจำเลยกระทำ
การละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายแก่เสรีภาพ เสียหายต่อทรัพย์สิน เสียหายแก่สิทธิในชื่อเสียงหรือ
เกียรติคุณหรือทางเจริญของโจทก์ เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหายและตัดทอนคะแนนนิยมในการหาเสียง
โดยชอบด้วยกฎหมาย และยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาเป็นกรณีฉุกเฉิน
ห้ามมิให้จำเลยเข้าใกล้บริเวณสถานที่หาเสียงปราศรัยของโจทก์ และห้ามมีให้จำเลยกล่าว แถลงข่าวหรือพูดแสดงความคิดเห็นถึงโจทก์ และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรูของโจทก์ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ในลักษณะทำนองเดียวกับที่ถูกฟ้อง และไม่ว่าจะแสดงออกทางภาพ เสียง คลิป ข้อความ ป้ายโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ อิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อโซเชียลใด ๆ หรือขึ้นเวที่ต่าง " ตั้งแต่วันนี้ป็นต้นไปจนกว่าจะพ้นวันเลือกตั้ง ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว เห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๕ บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำการใดๆ ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ยังรับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการเดินทาง และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นและเดินทางเพื่อเข้าฟังการปราศรัยที่จัดขึ้นเป็นสาธารณะได้ การห้ามมีให้จำเลยเข้าใกลับริเวณที่หาเสียงปราศรัยของโจทก์จึงเป็นการจำกัดเสรีภาพของจำเลยเกินสมควร ทั้งยังไม่แน่ว่าจำเลยจะเข้าไปบริเวณพื้นที่หาเสียง
ปราศรัยของโจทก์ในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖ และกระทำการก่อความวุ่นวายหรือไม่ หากจำเลยมี
พฤติการณ์ที่จะก่อความวุ่นวายหรือเป็นการใช้เสรีภาพเกินขอบเขตจนกระทบต่อเสรีภาพหรือความปลอดภัยของบุคคลอื่น ถึงขั้นที่เป็นการละเมิดกฎหมาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา และโจทก์สามารถที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับจำเลยเพื่อระงับความเสียหายได้อยู่แล้ว จึงยังไม่สมควรที่จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้
ในส่วนคำขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกล่าว แถลงข่าวหรือพูดแสดงความคิดเห็นถึงโจทก์
และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของโจทก์นั้น เป็นคำขอที่มีลักษณะห้ามมิให้จำเลยกล่าวหรือไขข่าวถึงเรื่องตามฟ้องอันเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็น การพูดการเขียน การพิมพ์การโฆษณาและสื่อความหมายโดยวิธีอื่น อันมีลักษณะเป็นการทั่วไปต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๓๔ ซึ่งเป็นการไม่แน่นอนว่าจำเลยจะได้กล่าวอ้างหรือพูดแสดง
ข้อความอันเป็นเท็จอันเป็นการใส่ความโจทก์หรือไม่ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย
ข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง จำเลยย่อมจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์ตามที่โจทก์ฟ้องอยู่แล้ว อีกทั้งข้อความที่โจทก์อ้างว่าจำเลยกล่าวหรือไขข่าวตามฟ้องนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเป็นก ารกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปย่อมมีวิจารณญาณว่าสมควรเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองโจทก์หรือไม่ การจะสั่งห้ามจำเลยมิให้กระทำการใดในอนาคตที่ยังไม่แน่นอนว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ย่อมเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของจำเลยเกินสมควร กรณียังไม่สมควรที่จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ยกคำร้อง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 332 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 พ.ค. 66
เวลา 15:17:41
|