กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตามที่ทีมสืบสวนนครบาลแกะรอยช่วยเหลือนางเพียงจิต พึ่งอ้น อายุ 42 ปี
เจ้าของธุรกิจโรงงานกางเกงยีน ย่านฝั่งธนบุรี ที่ถูกแก๊งคนร้ายอุ้มไปพร้อมลูกชายอีก 2 คนเรียกค่าไถ่ 8 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นจะฆ่าเด็กทิ้ง โดยขังเหยื่อไว้ในเซฟเฮาส์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 เขตพญาไท กทม. สาวใหญ่เศรษฐินีเลยจำเป็นต้องยอมเบิกให้ตามคำขู่ คนร้ายถึงปล่อย 3 แม่ลูกเป็นอิสรภาพ เมื่อ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. รับทราบข้อมูล ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. นำหน่วยอรินทราช 26 ประสานกองสืบสวน บก.น.1 และ บก.น.7 บุกเข้าจู่โจมจับกุมแก๊งคนร้ายได้เกือบยกทีม มี ร.ต.อ.สังกัด ตชด. เป็นหัวหน้าพาลูกน้องในหน่วยก่อคดีฉาววงการสีกากี
บช.น. เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ม.ค.
พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมแก๊ง ตชด. เรียกค่าไถ่ ผู้ต้องหา 12 คน มี ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ รอง สว.หน่วยปฏิบัติการงานการข่าว กก.ตชด.ที่ 41 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 55 พร้อมลูกน้องในสังกัด ประกอบด้วย ส.ต.ท.อัครเดช คชกฤษ ส.ต.ต.ชาตรี พันการุ่ง ส.ต.ท.มานพ สุขคงมิตร จ.ส.ต.เชาวลิต สุมน ส.ต.ท.เนรมิตร จัตุมิตร ส.ต.ต.รุ่งโรจน์ เกร็จจุ และ ส.ต.ต. อาคม สุดใจ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือเป็นพลเรือน มีนายภากร มฤคพันธ์ อายุ 37 ปี น.ส.สิริอาภา ทิพยานนท์ อายุ 25 ปี น.ส.ศิรินทิพย์ โหมดสกุล อายุ 25 ปี และ น.ส.จุรีพร บุญญเมธานันท์ อายุ 27 ปี ของกลางเงินสด 5,596,200 บาท ปืนสั้น 9 กระบอก กระสุนปืนกว่า 200 นัด และแมกกาซีน 13 อัน แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ซ่องโจรเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่เอาเด็กอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย
|
|
|
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อสายวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
กลุ่มคนร้ายแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปภายในห้องของนางเพียงจิต พึ่งอ้น อายุ 42 ปี เลขที่ 754/412 อาคารคอมมอนเวลท์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. ควบคุมตัวนางเพียงจิตและลูกชายอีก 2 คน อายุ 15 ปี และ 10 ขวบ นักเรียน ร.ร.ทิวไผ่งาม ไปขังไว้ที่อารีย์เรสซิเดนท์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ก่อนบังคับพานางเพียงจิตไปถอนเงินจากธนาคารจำนวน 8,680,000 บาท แล้วจึงได้ปล่อยตัวนางเพียงจิตกับลูกชายทั้ง 2 คน เมื่อวันที่ 22 ม.ค. สาวใหญ่ผู้เสียหายเลยเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. เร่งรัดสืบสวนคดีนี้อย่างเร่งด่วน และตั้งชุดทำงานประกอบด้วย พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบก.ตปพ. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางพลัด พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.พญาไท พ.ต.อ.ไพฑูรย์ มณีอินทร์ ผกก.2 บก.ตปพ. และ พ.ต.ต.สุทิน สวนดอกไม้ สว.งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.ตปพ. แกะรอยกระทั่งทราบว่ากลุ่มคนร้ายยังกบดานอยู่ที่เซฟเฮาส์อารีย์เรสซิเดนท์ ทีมสืบสวนพร้อมด้วยหน่วยอรินทราช 26 จึงตัดสินใจปฏิบัติการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบสามารถล็อกตัวแก๊ง ร.ต.อ.ตำรวจนอกแถวได้ 12 คน
จากการสอบสวนได้ความว่า
ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิ-วณิชย์ หัวหน้าแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นับล้านบาท เดิมสังกัด ตชด.ที่ 42 จ.นครศรีธรรมราช แต่มาช่วยราชการงานสืบสวน ตชด.ที่ 41 รับผิดชอบพื้นที่ จ.ชุมพร จ.ระนอง และ จ.สุราษฎร์ธานี ได้จับกุมแก๊งค้ายาบ้ามีผู้ต้องหา 2 คน ของกลางยาบ้า 1,700 เม็ด จึงขยายผลติดตามคนร้ายเข้ามาใน กทม. ปรากฏว่า น.ส.ศิริทิพย์ โหมดสกุล 1 ในผู้ต้องหา เคยทำงานโรงงานตัดเย็บกางเกงยีนของอดีตสามีนางเพียงจิตที่แยกทางกันแล้ว มอบเงินกว่า 20 ล้านบาทให้นางเพียงจิตเพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูลูก น.ส.ศิริทิพย์จึงแนะนำให้รู้จักกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ นายตำรวจหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีพาไปเที่ยวเตร่มั่วสุมกันเป็นประจำ เมื่อรู้ว่าเหยื่อมีเงินอยู่ในธนาคารเกือบ 10 ล้านบาท เลยวางแผนอุ้มเรียกค่าไถ่
|
|
|
สำหรับประวัติแก๊งตำรวจนอกรีตกลุ่มนี้เคยถูกชาวบ้านร้องเรียนว่า
มีพฤติกรรมจับกุมผู้ต้องหาค้า ยาเสพติดไปรีดเงินเพื่อแลกอิสรภาพเป็นประจำ จนถูกต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบสวน แต่ก็รอดพ้นความผิดออกมาก่อเหตุอีก และยังมีผู้ต้องหาร่วมแก๊งที่เป็นตำรวจสังกัดเดียวกันหลบหนีอีก 5 นาย คือ ส.ต.ต.ธีรศักดิ์ กล่ำ-ตะโก จ.ส.ต.อนุชิต พรมอุบล ด.ต.ประสาร สอนทวี จ.ส.ต.อนุสิทธิ์ เนตรสุวรรณ และ จ.ส.ต.วิโรจน์ ศรีขาว พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว ล่าสุด พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผบช.ตชด. มีคำสั่งให้ทั้งหมดออกราชการแล้วเช่นกัน พร้อมตั้งกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยว่า มีนายตำรวจระดับที่เหนือไปจากนี้อยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีอื้อฉาวเสื่อมเสียองค์กรตำรวจที่เกิดขึ้นว่า
ต้องตรวจสอบการปฏิบัติของผู้บังคับบัญชาในหน่วย ตชด.ว่าปล่อยให้ ข้าราชการตำรวจเหล่านี้ทำความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน ปล่อยมาเป็นโจรได้อย่างไร ทำไมไม่กำกับดูแล และมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ต้องสอบผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดระดับ ผกก.ให้ได้ข้อเท็จจริงว่า รับผิดชอบอย่างไรบ้าง ถ้าผู้บังคับบัญชาที่ดีเข้มงวดกวดขันการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชา พวกนี้จะออกมาไม่ได้ การมีข้าราชการตำรวจที่ใช้กำลังออกมากระทำความผิดกฎหมายได้ เพราะผู้บังคับบัญชารู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่านทำความเดือดร้อนประชาชน บางครั้งผู้บังคับ บัญชาต้องถูกดำเนินคดีในฐานะผู้สนับสนุน หรือตัวการกระทำความผิดด้วย “เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ผมได้สั่ง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถ้าพยานหลักฐานเกี่ยวข้องคดีอื่นให้ดำเนินคดีด้วย เป็นเรื่องบุคคล ไม่ใช่องค์กร คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 13 คน แต่ตำรวจทั้งหมด 2 แสนนายจะมีตำรวจเลวเป็นร้อย เป็นพันไม่มาก ต้องกำจัดคนระยำออกจากองค์กรให้ได้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
ข่าวจาก ที่นี่ดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|