กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันนี้ (27 ก.พ.67) ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่และการประชุมคณะกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์, นายชัชวาลย์ ปัญญา, นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด, นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม
ที่ประชุม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นควันในห้วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ว่าเปรียบเสมือนการชกมวย ซึ่งยกที่หนึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหากเปรียบเทียบกับปี 2566 จุดความร้อนและค่าคุณภาพอากาศลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน นั่นเป็นผลมาจากความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ส่งผลให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันการสำรองจองห้องพัก โรงแรม หลายแห่งเต็มแล้วในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปลายของเดือนกุมภาพันธ์ ได้เริ่มมีจุดความร้อนเกิดขึ้นในโซนใต้ของจังหวัดหลายแห่งโดยเฉพาะอำเภอฮอด ซึ่งถึงแม้สถานการณ์จะดูรุนแรงแต่หากเทียบกับปีที่ผ่านมาในห้วงเวลาเดียวกันแล้วยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จาก 50 เปอร์เซ็นต์ของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ถือเป็นยกที่ 3 คนเริ่มเข้าป่า หาของป่า ล่าสัตว์ อาจมีการใช้ไฟและทำให้เกิดไฟป่าลุกลามได้ จึงต้องหาวิธีดึงคนออกจากป่า โดยให้แต่ละอำเภอตั้งโต๊ะลงทะเบียนผู้ประกอบอาชีพหาของป่าขาย เพื่อหาอาชีพอื่นให้ทำ ซึ่งหากพบมีผู้ฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดีทันที
ขณะที่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์หมอกควันไฟป่าเป็นสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกัน โดยยกแรกเดือนมกราคม เชียงใหม่ผ่านตัวชี้วัดทุกตัวมาได้เฉลี่ยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ได้เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ทางโซนใต้ลุกลามเป็นวงกว้างนั้น ได้มีการวิเคราะห์ ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หามาตรการในเรื่องของความยั่งยืนให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยพบว่าไฟที่เกิดจากทางใต้นั้น เกิดจากความไม่เข้าใจ การมีความเชื่อมีทัศนคติเดิม ๆ อยู่ ประกอบกับกลุ่มป่าทางโซนใต้เป็นกลุ่มป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ในระดับหนึ่ง จึงมีค่านิยมในการหาของป่า ดังนั้นต้องหาแนวทาง โครงการงบประมาณ ปรับเปลี่ยนค่านิยมความเชื่อของคนในพื้นที่ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อลบค่านิยมเก่า ที่ว่า “ไฟมาป่าเป้ง มดแดงเต้ง ผักหวานโป่ง” ให้ได้
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ และภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงาน ได้ร่วมกันเตรียมแผนตั้งรับสถานการณ์ช่วงเผชิญเหตุในเดือนมีนาคมไว้อย่างเข้มข้น ซึ่งนอกเหนือจากการสร้างอาชีพให้กับผู้ที่มีอาชีพหาของป่า หรือผู้ที่มีความสุ่มเสี่ยงในการบุกรุกพื้นที่ป่าแล้ว ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน ตั้งจุดสกัดในพื้นที่เสี่ยง ฝังตัวอยู่ในพื้นที่เพื่อสอดส่องดูแลตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมของอากาศยานป้องกันและดับไฟป่า รวมถึงเตรียมความพร้อมในการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง หรือก่อกวนสภาพอากาศ เพื่อให้เกิดลมแปรปรวนในชั้นบรรยากาศ พัดเอาฝุ่นควันที่ปกคลุมให้ลอยออกไปทันทีอีกด้วย
ข้อมูล: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|