ระหว่างที่มีการประชุมสภาเมื่อวันที่ 28มกราคม ที่ผ่านมา ที่มีการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช ได้รับคะแนนโหวตจากเสียงข้างมาก โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าชิงชัย ท่ามกลางการจับตาดูของคนทั้งประเทศซึ่งเป็นไปตามคาดไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นและเป็นจุดดึงดูดสายตาของผู้ชมที่ชมการถ่ายทอดสดทางทีวี ซึ่งมีล่ามแปลภาษามือสำหรับคนหูหนวก
เมื่อกล่าวถึง ผู้ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีทั้งสองคนซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับนายสมัคร ล่ามทำท่า ยกมือขึ้นมาครอบจมูก ส่วนนายอภิสิทธิ์ ทำท่าเอามือปาดหน้าแล้วยกนิ้วโป้ง
ผู้เชี่ยวชาญภาษามือ "จุฑามาศ สุธนวัฒนาเจริญ" ล่ามภาษามือ สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ได้อธิบายถึงที่มาของสัญลักษณ์แทนหัวหน้าพรรคทั้งสองคนว่า ท่าทางต่างๆที่สื่อสารกันระหว่างคนหูหนวกนั้น ไม่ได้คิดหรือตั้งขึ้นมาเอง ส่วนใหญ่เป็นภาษาที่ล่ามกับผู้พิการหูหนวกทำความเข้าใจร่วมกันแล้ว หรือบางทีก็ดูจากคนหูหนวกเป็นหลักว่าเขาใช้อย่างไรก็จะใช้แบบนั้น และถือได้เลยว่าเป็นสากลในคนหูหนวกไทย เพราะทุกคนเข้าใจร่วมกัน
ดังนั้นเมื่อเอ่ยถึงหัวหน้า 2 พรรคใหญ่ที่เข้าชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศ จึงได้ดึงจุดเด่นของแต่ละคนออกมา โดยนายสมัคร มึจุดเด่นบนใบหน้าที่จมูก ล่ามจึงทำท่า ครอบจมูก เป็นอันให้คนหูหนวกเข้าใจว่า นั่นคือนายสมัคร สุนทรเวช ส่วนนายอภิสิทธิ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีดีกรีว่าเป็นนักการเมืองหนุ่มรูปงาม ล่ามก็เอามือปาดไปบนใบหน้าก่อนจะยกนิ้วโป้ง แสดงให้เห็นว่า หน้าตาดี นั่นก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหล่อใหญ่ว่าที่ผู้นำฝ่ายค้าน
ล่ามผู้แปลภาษามืออธิบายเพิ่มเติ่มอีกว่า การแสดงท่าทางของแต่ละคนจะดูจากจุดเด่นของบุคคลไม่ใช่จุดด้อย ดูจากจุดเด่นบนใบหน้าเป็นหลัง ดูจากบุคคลิกเป็นหลัก หรือ ตำแหน่งที่เป็น อย่างเช่น คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่มีท่าทางที่เป็นลักษณะเด่นในตัว ล่ามจึงทำท่าทางเอามือประสานกัน หมายความถึง ภรรยา และยกนิ้วชี้ขึ้นฟ้า ซึ่งเป็นท่าทางของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นท่าประจำของอดีตนายกฯ เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่ง
สำหรับคนปกติจะมีฉายาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่คนทั่วไปเรียกว่า "แม้ว"-"เหลี่ยม" ในมุมมองของคนหูหนวกจะมองไปที่ท่าทางซึ่งอดีตนายกฯ ชอบทำคือ ท่าทาง ตาดูดาวเท้าติดดิน ชูนิ้วชี้กับนิ้วโป้งขึ้นมาแล้ว ชี้ขึ้นฟ้า มากกว่า
ส่วนใครที่ไม่มีลักษณะเฉพาะตัวหรือไม่มีตำแหน่งใด ล่ามอาจจะต้องใช้วิธีทำภาษามือเป็นการสะกดแต่ละตัวอักษรไป แต่วิธีนี้จะเสียเวลามากเพราะกว่าจะสะกดเสร็จ คนพูดก็พูดไปไกลแล้ว
"จุฑามาศ" บอกว่า บุคคลเด่นๆ ที่มีท่างทางเป็นของตัวเองในแวดวงการเมืองนั้นเมื่อเราได้เห็นล่ามทำท่าทางก็อาจจะร้อง "อ๋อ" ได้ทันที หรือบางคนอาจจะยังไม่รู้ทันทีด้วยเพราะมุมมองของคนที่หูหนวกกับมุมมองของคนปกติแตกต่างกัน ยกตัวอย่างนักการเมืองไทยเช่น
"บรรหาร ศิลปอาชา" หัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นคนตัวเล็ก ล่ามก็จะทำท่า "ฝามือคว่ำลงแล้วเอาวางไว้ต่ำกว่าหัวไหล่ ให้เห็นว่าตัวเล็ก พร้อมกับทำสัญลักษณ์ ตัว บ. ใบไม้ คือชูนิ้วสี่นิ้ว"
"หนูนา" กัญจนา ศิลปอาชา มีสัญลักษณ์ที่ "กระบังผม" ล่ามก็จะทำมือปาดจากซ้ายไปขวา พร้อมกับไขว้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแสดงถึงสัญลักษณ์ ก. ไก่ ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวต้นของชื่อจริง
"เสี่ยอ่าง" ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ล่ามภาษามือทำท่า ตวัดนิ้วไปบนมุมปากทั้งสองข้างแสดงให้เห็นว่ามี "หนวด" เพราะสัญลักษณ์ของนายชูวิทย์บนใบหน้าคือหนวดนั่นเอง
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีผู้กำลังอำลาตำแหน่งของพวกเรา ล่ามก็ทำมือ 'วันทยหัตถ์' เป็นสัญลักษณ์ของทหาร ให้รู้ว่าเป็นทหาร และนำมือไปชี้ที่บริเวณดั้งจมูก เพราะนายกสุรยุทธ์ของเรามีไฝบนดั้งจมูก
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีก็มีท่าทางที่เมื่อได้เห็นก็จะร้อง "อ๋อ" ทันที "ยกมือขึ้นทำท่าวันทยหัตถ์ พร้อมกับทำมือกลมๆบริเวณตา ก่อนที่จะจบลงด้วยการเอามือมาครอบบริเวณคาง ด้วยเหตุผลว่า เป็น "ทหาร ใส่แว่น ที่มีคางเยอะ"
นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี มีท่าทางที่เมื่อเห็นแล้วรู้ได้ทันทีเหมือนกัน เพราะล่ามทำท่าที่เป็นสัญลักษณ์ของทรงผมโดยการ ทำมือปาดจากซ้ายไปขวา ตรงกระบังผมด้านหน้า ซึ่งก็จะคล้ายๆกับหนูนาแต่ต่างกันตรงที่ การทำท่าตัวอักษรนำหน้าชื่อของแต่ละคน
คนสุดท้ายประธานสภา "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ล่ามบอกว่าโดยส่วนตัว ยังไม่มีภาษามือเป็นของตนเอง แต่ในฐานะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็จะสื่อให้เห็นโดยการ ทำมือตีไปที่แขน แสดงให้เห็นถึงท่าทางของประธานสภาที่มีค้อนเป็นอาวุธในการทำงาน
ล่ามภาษามือได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าท่าทางภาษามือจะแสดงถึงแต่ละคนด้วยท่าทีใด บุคคลิกแบบไหน แต่คนพิการหูหนวกต่างยืนยันชัดเจนว่า ไม่ได้มีเจตนาล้อเลียนหรือเสียดสีใคร มันเป็นเพียงการดึงจุดเด่นมาเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในหมู่คนพิการหูหนวกด้วยกันเพียงเท่านั้น
หวังว่าคนหูดีที่ไม่พอใจท่าทางของคนหูหนวกสื่อสารกันคงไม่ถึงขึ้นยกมือขึ้นมาปาดที่คอ "เชือด" คนพิการเพียงเพราะว่าทำท่าไม่ถูกใจ
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต