เปิดตำนานรักฉบับชั้นประหยัด ผ่อนก่อนบินไปแต่งที่ ญี่ปุ่นเจ้าตัวเผยวิธีการเลี้ยงลูกแบบประชาธิปไตย ให้สิทธิได้แสดงความคิดเห็นทุกฝ่าย ปล่อยฟรีสไตล์วิจารณ์ข่าวหลังมื้อเย็น
หลังได้รับพระราชทานพระบรมราชโองการ แต่งตั้ง นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี สื่อหลายสำนักต่างตีพิมพ์ถึงประวัติชีวิตกันให้เกร่อแล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักดีถึง หลังบ้าน ผู้มั่นคง และอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแท้จริงของ นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ไม่ใช่อยู่ที่ต่างประเทศ อย่างที่โดนครหา
ทำให้หลายคนอยากจะทำความรู้จักว่า คนข้างกาย หรือ สตรีหมายเลข 1 ของนายกรัฐมนตรีผู้นี้เป็นใคร?
คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก มีอุปนิสัยค่อนข้างเก็บตัว และเป็นข่าวน้อยมากในแวดวงสังคม แบบฉบับผู้อยู่หลังบ้านที่ดี ในขณะที่สามีเป็นข่าวบนหนังสือพิมพ์โดยตลอด
สมัคร เคยพูดถึง ภรรยา ไว้ในหนังสือ การเมืองเรื่องตัณหา ซึ่งเป็นหนังสืออัตชีวประวัติสมัคร สุนทรเวช โดย myst-man นำมาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ พันธ์ทิพย์ ว่า ไปพบรักกับภรรยาที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์และการเมือง โดยขณะนั้นตนเองเรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ ส่วนคุณหญิงสุรัตน์เรียนอยู่ทีคณะบัญชี
...ตอนที่ผมโตเป็นหนุ่มขึ้นมาแล้ว ผมก็รู้จักชอบ รู้จักรักผู้หญิงเหมือนกับชายหนุ่มทั้งหลาย และสำหรับชายที่บังเอิญมาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย คนที่ไปรักไปชอบนั้นก็เห็นจะไม่พ้นคนที่เรียนหนังสืออยู่สำนักเดียวกัน เพราะยังงั้นหลังจากที่ได้มีโอกาสรู้จักมักคุ้นมีเพื่อนมีฝูงทั้งใกล้ทั้งไกลมากมายอยู่พักหนึ่งแล้ว คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมจนถึงขั้นจะตกลงปรงใจกันก็เป็นชาวท่าพระจันทร์ด้วยกันนั่นแหละ ผมเรียนกฎหมาย คุณเธอเรียนบัญชี...
...ถึงตอนนี้ผมอยากจะขออนุญาตเล่าลงไปให้ถึงรายละเอียดสักนิดเพื่อให้ ไอ้บรรดาคอลัมนิสต์ เลวชาติ ทั้งหลายมันได้รู้กันว่าคนอย่างผมนั้น เริ่มก่อร่าง สร้างตัว ขึ้นมาจากความไม่มีอะไรโดยไม่ต้องทุจริตคดโกงอย่างที่พวกมันหลับหูหลับตาคิดกันอย่างไร...
หลังจากที่รักใคร่ชอบพอกันแล้ว สมัคร ก็ตัดสินใจขอหมั้น คุณหญิงสุรัตน์ ก่อนที่จะไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ โดยสัญญากันเป็นหมั่นเหมาะว่าหากเรียนจบกลับมาแล้วค่อยแต่งงานกัน
...ผมตกลงกันว่า เรียนหนังสือเสร็จแล้ว ผมจะทำงานเก็บเงิน เพื่อให้คู่หมั้นผมบินไปแต่งงานกันที่โน่น
แต่แล้วด้วยความที่ไม่ต้องการให้เกิดการสิ้นเปลือง จากเดิมที่วางไว้ว่าจะไปทำพิธีแต่งงานที่สหรัฐฯ ก็ได้เปลี่ยนแผนมาแต่งที่ญี่ปุ่นแทน เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยทั้งคู่จัดพิธีแต่งงานที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีท่านอุปทูตเป็นประธาน เมื่อปี 2511
...ท่านผู้อ่านคงจะนึกสงสัยว่าทำไมผมสองคนถึงได้ดิ้นรนอยากจะออกมาแต่งงานเมืองนอก คำตอบที่บอกได้โดยไม่ต้องอาย ก็คือเราไม่มีเงิน เพราะเราเคยนั่งคิดกันแล้วว่าในฐานะที่เคยเป็นชาวมหาวิทยาลัยที่ออกจะเป็นคนมีเพื่อนฝูงมากทั้งคู่ ถ้าแต่งงานแล้วมีเลี้ยงดูกันอย่างพอสมควรในเมืองไทย ค่าใช้จ่ายเห็นจะไม่หนี 4-5 หมื่นบาท เงินขนาดนั้นผมจะไปหากันมาจากที่ไหน แต่ถ้าเลือกไปแต่งงานที่สถานทูตในญี่ปุ่นตอนที่ผมเดินทางกลับจากเรียนหนังสือ คู่หมั้นผมเพียงแต่เสียค่าเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว ราคา 7,300 บาท โดยวิธีซื้อแบบบินก่อนผ่อนที่หลัง เพียงเดือนละ 300 กว่าบาท เท่านั้นเอง...
เห็นได้ชัดว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเรา เป็นตัวอย่างที่ดีของ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้
สำหรับบุตรนั้น นายกฯ สมัครของเรา ฝีมือชั้นเซียน ยิงนัดเดียวได้ถึง 2 คือได้ลูกแฝดสาวออกมาน่ารักสมใจ วันเวลาผ่านไปแฝดสาวทั้งสองก็เติบใหญ่ และร่ำเรียนจบจากต่างประเทศ ได้แก่ นางกาญจนากร (สุนทรเวช) ไชยสาส์น จบมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ABAC / MBA. มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด USA. CONN. ปัจจุบันทำงานอยู่ฝ่ายการเงินของ ป.ต.ท. (สผ.) และ น.ส.กานดาภา สุนทรเวช จบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / MBA.มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด USA. CONN. ปัจจุบันทำงานกระทรวงการต่างประเทศ
ครั้งหนึ่ง นายสมัคร เคยให้สัมภาษณ์ผ่านนิตยสารสกุลไทย เมื่อครั้งรับรางวัล ครอบครัวส่งเสริมประชาธิปไตย ประจำปี 2544 ถึงการอบรมเลี้ยงดูลูกๆ ว่า ดูแลเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิดในช่วงอายุ 1-6 ปีแรก ให้ความเอาใจใส่เรื่องการเรียนของลูก ในช่วงชั้นประถมและมัธยมต้น ให้ลูกเป็นตัวของตัวเองในช่วงมัธยมปลาย รวมทั้งการตัดสินใจเข้าเรียนต่อในชั้นอุดมศึกษา ร่วมหาสถานที่เรียนให้ลูกในการเรียนต่อต่างประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ลูกโตแล้ว ก็ให้สิทธิเสรีภาพในการไปไหนมาไหน แต่ต้องบอกเวลาไปและประมาณเวลากลับ
ยามที่ปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัว วิธีการแก้ไขปัญหาคือการตั้งวงสนทนาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแสดงแนวคิดในการแก้ไขปัญหา และแสดงท่าทีให้ลูกเห็นว่า พ่อแม่พร้อมที่จะร่วมมือในการแก้ปัญหาเสมอ ลูกทั้งสองคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ในขณะเดียวกันลูกทั้งสองก็ฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ การได้กินข้าวพร้อมกัน ดูทีวีช่วงข่าวพร้อมกัน มีการแสดงความคิดเห็นต่อการรายงานข่าวก็ร่วมกันแสดงความเห็นของตนเอง เมื่อเห็นว่ามีสิ่งที่ควรแสดงความเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ยังทำอยู่แม้จนปัจจุบันที่กินข้าวร่วมกันทั้ง 6 คน ในครอบครัว นายสมัคร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 310 เสียงลงมติเลือก สมัคร ขึ้นแท่นนายกฯ คนที่ 25
- สัมภาษณ์ สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน
- มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้ง สมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี
- สมัคร เปิดใจกับ พลังประชาชน อยู่อีกไม่นาน!
ข้อมูลและภาพประกอบจาก