กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
คดีแก๊ง ตชด.อุ้มยัดยานรกแล้วรีดเงินค่าปล่อยตัว ที่นำโดย ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ นรต.รุ่น 55 สังกัด ตชด.ที่ 42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ กก.ตชด.ที่41 จ.ชุมพร ยิ่งสาวยิ่งลึก หลังจากผู้เสียหายที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายรายเข้าให้ข้อมูลพฤติกรรมโฉดของ ตำรวจนอกแถวกลุ่มนี้ และยังมีพยานหลักฐานพัวพันไปถึง พ.ต.ท.สุรกิตติ์ คล้ายอุดม รอง ผกก.ตชด.41 ผู้บังคับ บัญชาของผู้กองนักอุ้ม ที่ต่อมาถูกเรียกตัวมารับทราบข้อหาเพิ่มอีกรายด้วย
ที่ สน.บางพลัด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ม.ค. นายภิญโญ ตรงฉาก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 4 ต.ปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพคนขับรถส่งไก่สดเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด อ้างเป็นเหยื่ออีกรายที่เคยถูกแก๊ง ตชด.ของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ อุ้มไปทำร้ายร่างกายก่อนยัดยาบ้าแจ้งข้อหายาเสพติด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 50 ขณะกลับบ้านปราณบุรีเพื่อเตรียมเดินทางไปงานศพที่ จ.กระบี่ แต่มีคนรู้จักมาว่าจ้างให้ไปส่งชาย 2 คน ที่ กทม. เนื่องจากไม่ชำนาญทาง ในราคา 2,000 บาท จึงตกลงพาไปส่งโดยพาภรรยาและลูกขึ้นรถมาด้วย
นายภิญโญกล่าวว่า ระหว่างทางชายทั้ง 2 คนได้สั่งให้แวะจอดที่โรงแรมแฮปปี้อินน์ ใน จ.เพชรบุรี แล้วให้ตนกับครอบครัวรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม กระทั่งมีชายฉกรรจ์ 3 คน กรูเข้ามาล็อกตนกับภรรยาและลูกไปแยกห้องขัง จำได้ว่าเป็นกลุ่มลูกน้องของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ได้ใช้ไฟฟ้าช็อต ขู่บังคับรีดเงิน 500,000 บาท ถ้าไม่ให้ จะยัดยาบ้า 500 เม็ด เมื่อไม่มีเงินให้ กลุ่มคนร้ายในคราบตำรวจ ตชด.จึงให้พาไปบ้านนายอานนท์ สงวนสัตย์ เพื่อนของตน เพื่อจับกุม ก่อนพาไปขังที่โรงแรมตำหรุอินน์ อ.ปราณบุรี ใช้ไฟฟ้าช็อตบังคับให้รับสารภาพค้ายาบ้าคนละ 50 เม็ด ทำสำนวนบันทึกจับกุมที่ ตชด.41 ไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี ดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ ระหว่างประกันตัว เมื่อเห็นข่าวว่า กลุ่ม ตชด.พวกนี้ถูกจับกุม จึงเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว
ขณะที่นายเอนก บุญเลิศ อายุ 35 ปี และนางอุไร ท้วมผึ้ง อายุ 55 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความแทนนางระวิวรรณ บุญเลิศ อายุ 37 ปี และนางสมใจ ล้อมจันทร์ อายุ 34 ปี ผู้เสียหายที่ถูกกลุ่ม ตชด.ยัดข้อหาค้ายาบ้าจนถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำขณะนี้ โดยนำบันทึกจับกุมที่มี พ.ต.ท.สุรกิตติ์ คล้ายอุดม รอง ผกก.ตชด.41 ร่วมจับกุมมายืนยันด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 50 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. นำโดย ร.ต.อ.ชัยรัตน์ จันทร์เกตุ หัวหน้าชุด ได้เข้าจับกุมนายอำนาจ เรืองจุ้ย อายุ 24 ปี ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมยาบ้า 1,198 เม็ด หลังจากนั้นก็ได้นำกำลังมาเฝ้าที่หน้าบ้านเลขที่ 8/19 ต.บ้านใต้ อ.เมืองกาญจนบุรี ของภรรยานายอำนาจ บังเอิญนางสมใจ ล้อมจันทร์ ขับรถมาเยี่ยมพอดีเลยถูกจับกุมยัดข้อหาว่า มารับเงินค่ายานรกจากนายอำนาจ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยังบังคับให้นัดนางระวิวรรณ บุญเลิศ เจ้าหนี้ที่โทรศัพท์เข้าเครื่องมือถือพอดีไปพบบริเวณหน้าโรงเรียนท่าม่วงราชบำรุง แล้วอุ้มนางระวิวรรณขึ้นรถตู้ไปข่มขู่ มี ร.ต.อ.ชัยรัตน์ พยายามลวนลามจึงถูกนางระวิวรรณถีบตกรถตู้จนสลบเป็นเจ้าชายนิทรามาถึงทุกวันนี้ แต่กลุ่ม ตชด.ที่เหลือได้ คุมตัวสาวทั้งคู่ไปที่บังกะโลแห่งหนึ่ง ตรงข้ามโรงแรมริเวอร์แคว เพื่อทำร้ายร่างกาย และรีดไถเงิน 8 แสนบาทจากนางสมใจ และขออีก 5 แสนบาท จากนางระวิวรรณ เมื่อทั้ง 2 ไม่มีให้จึงถูกจับดำเนินคดี
อีกราย จ.ส.อ.สมบัติ บุตรเตือน อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการทหารสังกัดศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี เข้าแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 48 นางชลอ แก้วเกิด อายุ 38 ปี ภรรยา ถูกแก๊ง ตชด.ที่มี ร.ต.อ.ณัฏฐ์ เป็นหัวหน้าชุดอุ้มยัดยาบ้าและกรรโชกทรัพย์ ไปขังในเซฟเฮาส์ 3-4 วัน บังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็มกดเงินไปจำนวน 7 แสนบาท สุดท้ายภรรยาถูกดำเนินคดี ศาลพิพากษาจำคุก 25 ปี เรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันได้ว่าภรรยาบริสุทธิ์ นอกจากนี้ หลานสาวอายุ 18 ปี ยังถูกตำรวจแก๊งเดียวกันอุ้มไปบังคับให้รับสารภาพว่า มียาบ้าไว้ในความครอบครอง 200 เม็ด ไม่เช่นนั้นจะจับข่มขืน และศาลตัดสินจำคุก 5 ปี จึงต้องการเดินทางมาร้องของความเป็นธรรมแทนทั้งสองคน
ต่อมา พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. เดินทางไปสอบปากคำ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ คล้ายอุดม รอง ผกก.ตชด.41 เพิ่มเติม ก่อนนำ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ คล้ายอุดม ออกจากห้องควบคุมเพื่อไปฝากขังศาลจังหวัดตลิ่งชัน ปรากฏว่า พ.ต.ท.สุรกิตติ์เกิดอาการเคร่งเครียดระบายอารมณ์ใส่กลุ่มผู้สื่อข่าวว่า อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วย ตนถูกตำรวจระดับนายพลกลั่นแกล้ง อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.พงศพัศเปิดเผยว่า ขอประชาสัมพันธ์ว่า หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ หรือชุดไหนก็ตาม ให้ผู้เสียหายเดินทางไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุนั้น ไม่ต้องเดินทางมา ที่ สน.บางพลัด และขอฝากบอกไปยังพนักงานสอบสวนทุกโรงพักว่า ให้รับเรื่องไว้ ไม่ต้องส่งตัวผู้เสียหายมาที่ สน.บางพลัด เพื่อจะได้ไม่ให้เป็นภาระกับผู้เสียหายที่ต้องเสียเวลาเดินทาง ส่วนการสอบปากคำ พ.ต.ท.สุรกิตติ์ เจ้าตัวได้ให้ข้อมูลเป็นที่น่าพอใจ และรับปากในฐานะ ตชด. คนหนึ่งว่า เมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วจะพูดคุยกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ และลูกน้องทั้งหมดที่ถูกจับว่าให้พูดความจริง พร้อมทั้งยินดีชดใช้ความผิดที่เกิดขึ้น และจะไม่ก่อความเดือดร้อนให้กลุ่มประชาชนอีก ที่ผ่านมาได้สำนึกแล้วว่าสิ่งที่ทำไปนั้นสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวอีกว่า อดีตตำรวจกลุ่มนี้มีผลการจับกุมในระดับดี แต่วิธีการไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรายอมรับไม่ได้ วันนี้เกิดปรากฏการณ์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ส่วนใหญ่เป็นประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี ดังนั้น ประชาชนควรได้รับการเยียวยาจากกระบวนการยุติธรรม พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.สั่งการให้ประสานกระทรวงยุติธรรม เพื่อวางแนวทางเยียวยาผู้เสียหายและดูแลความปลอดภัย รวมทั้งช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ถูกควบคุมในเรือนจำ ขณะเดียวกัน ได้ประสานอธิบดีอัยการฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด ช่วยเหลือผู้เสียหายที่คดีอยู่ในชั้นศาล ส่วนตำรวจจะมีเวลาเพิ่มขึ้นในการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีอาญา
วันเดียวกัน ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่อ้างถูกแก๊ง ตชด.ตัวแสบทำร้ายร่างกายยัดข้อหาไปร้องเรียนและเข้าแจ้งความตามหน่วยงานต่างๆ อาทิ ที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นางแป๋ม (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พร้อมลูกสาวเข้าพบ พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.จ. สุราษฎร์ธานี เพื่อร้องเรียนหลังถูกแก๊งผู้กองณัฏฐ์จับยัดข้อหาแล้วรีดทรัพย์ไปเกือบ 2 แสนบาท เมื่อวันที่ 18 พ.ย.50 เหยื่อสาวให้การว่า มี ตชด.ขับรถปาดหน้าพาตนและบุตรสาว รวมทั้งภรรยาหลวงของสามีไปไว้ที่เซฟเฮาส์ กล่าวหาว่าค้ายาเสพติด ก่อนทำร้ายร่างกายให้ยอมรับสารภาพว่าครอบครองยาบ้า 201 เม็ด ตนไม่ยอมเพราะไม่ได้ทำผิด ต่อมา ร.ต.อ.ณัฏฐ์ได้สั่งให้ ลูกน้องนำลูกสาวตนขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้านพักแล้วนำตนตามขึ้นไป เห็นลูกสาวถูกถอดเสื้อผ้าเหลือเพียงชุดชั้นใน มีชายฉกรรจ์ 3-4 คนพยายามปลุกปล้ำ ตนทนไม่ไหวจึงต้องยอมรับสารภาพกลับยังถูกปืนจี้บังคับพาไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม 130,000 บาท ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเข้าเรือนจำไม่ได้รับการประกันตัว กระทั่งญาติทราบว่า ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวกถูกจับกุมจึงยื่นขอประกันตัวมาร้องขอความเป็นธรรม
ส่วนนายเรวัฒน์ รองเมือง อายุ 23 ปี คนงานร้านทำเบาะ อ.เมืองภูเก็ต เข้าพบ พ.ต.อ.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ให้สืบสวนข้อเท็จจริงกรณีตัวเองกับนายสวัสดิ์ รองเมือง น้าชายและเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน ถูก ร.ต.อ.ณัฏฐ์อุ้มไปช็อตไฟฟ้าทำร้ายร่างกายยัดยาบ้า 182 เม็ด เมื่อเดือน ก.ย.49 ขณะที่นายนุกูล เมตตาจิตร อายุ 46 ปี เข้าร้องพนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน จ.ชุมพร หลังถูกชุด ปส.ตชด.กก.41 จับขึ้นรถเอาผ้าผูกตา ถุงคลุมหัว ใช้ไฟฟ้าช็อตแล้วยัดยาบ้า 11 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ด้านนายพิศ ดับดี อายุ 46 ปี และภรรยาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ณรงค์ ชนะชัยกุล พงส. (สบ 3) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ยืนยันถูกกลุ่ม ตชด.นอกแถวทำร้ายร่างกายและยัดยาบ้า เมื่อปี 49 พร้อมปล้นเอาเงินสดไปอีก 9 หมื่นบาทเศษ
เวลา 17.00 น. นายเกษม โต๊ะส้า อายุ 41 ปี เจ้าของกิจการผลิตเครื่องดื่มสมุนไพร อยู่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สมบัติ จำปา-ทอง พนักงานสอบสวน (สบ2) สภ.ท่าศาลา เพื่อให้ดำเนินคดี ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวนิชย์ กับพวก สังกัด กก.ตชด. ที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย หลังจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 49 ร.ต.อ.ณัฏฐ์ กับพวก ได้เข้าตรวจค้นบ้านตนโดยไม่มีหมายค้น ยึดเอาเงินสดไป 118,000 บาท แล้วยัดกัญชาแห้งจำนวน 15 ห่อ น้ำหนักรวม 23 กรัม ตั้งข้อหาว่ามีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้นใช้ผ้าผูกตา ผูกปากไปที่ค่าย ก่อนซ้อมให้เซ็นชื่อยอมรับสารภาพ ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
รายสุดท้าย นายศุภโชค จันทร์แพทย์ อายุ 21 ปี เข้าร้อง พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ จับกุมขณะบวชเป็นพระอยู่ที่วัดท่าทอง เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 50 นำไปขังในเซฟเฮาส์ขู่บังคับให้สึก พร้อมยัดของกลางเป็นยาบ้า 5 เม็ด เพื่อต่อรองให้เป็นสายล่อซื้อยาบ้า แต่ไม่สำเร็จ จึงนำนายศุภโชคส่งดำเนินคดี
ที่ห้องประชุมสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพนายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.วัจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนร่วมประชุมหารือแนวทางช่วยเหลือผู้เสียหายที่เป็นเหยื่อ โดยเฉพาะรายของนางจุฑาภรณ์ นุ่นรอด ที่ถูกทำร้ายร่างกายบังคับให้สารภาพคดีค้ายาเสพติดจนต้องคลอดลูกในเรือนจำ
นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการเรือนจำทั่วประเทศให้แจ้งผู้ต้องขังที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายถูกอดีตตำรวจกลุ่มนี้กลั่นแกล้ง ให้เขียนคำร้องขอความเป็นธรรมส่งมายังกรมราชทัณฑ์ ถ้าคดียังไม่เด็ดขาดจะประสานตำรวจ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. หรืออัยการ ศาล ส่วนคดีเด็ดขาด หากเข้าเงื่อนไขรื้อฟื้นคดีพิจารณาใหม่จะเสนอกระทรวงยุติธรรมเร่งดำเนินการ ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขรื้อคดีใหม่ แต่ถูกกลั่นแกล้งเป็นผู้บริสุทธิ์จริง กรมราชทัณฑ์จะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้ เบื้องต้นในส่วนของกรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานว่ามีผู้ต้องขังร้องขอความเป็นธรรม 8 ราย ประกอบด้วยเรือนจำจังหวัดสมุทรปราการ 1 ราย เรือนจำกลางคลองเปรม 1 ราย ทัณฑสถานหญิงกลาง 5 ราย และเรือนจำจังหวัดตรัง 1 ราย ข้อมูลทั้งหมดจะส่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผบช.ตชด. เปิดใจต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องฉาวโฉ่ของลูกน้องในสังกัดว่า ได้ เรียก พ.ต.อ.สิงหนาท สีกาแก้ว ผกก.ตชด.41 เข้ามาช่วยราชการประจำ บช.ตชด. เป็นเวลา 30 วัน ตนในฐานะตัวแทนของ ตชด. อยากขอโทษประชาชนด้วย แต่นับเป็นโอกาสดีที่จะกำจัดตำรวจนอกแถวออกจากสารบบ เวลานี้ได้กำชับให้หัวหน้าหน่วย ตชด.ระดับต่างๆทั่วประเทศสอดส่องดูพฤติกรรมและความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาว่า มีความผิดปกติหรือไม่ อย่างไร เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ดังกล่าวซ้ำขึ้นมาอีก ต่อไปนี้ ในการทำงานปราบปรามยาเสพติดให้ประสาน บช.ปส.อย่างเดียว พร้อมเปลี่ยนฐานะจากผู้ปฏิบัติไปเป็นผู้ให้ข่าวสารแก่ตำรวจท้องที่แทน “ผมยอมรับว่า หลังเข้ามารับตำแหน่งได้มีตำรวจ ตชด. ถูกคำสั่งออกจากราชการ 345 ราย มีจำนวน 100 กว่ารายเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนก่อนหน้านี้มีการตั้งกรรมการสอบแก๊ง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ แล้วยังไม่มีความคืบหน้า ได้ตั้งกรรมการสอบสวนอีกชุดเพื่อสอบคณะกรรมการชุดเดิมว่ามีเหตุขัดข้องอะไร ทำไมผลการสอบถึงยังไม่เสร็จสิ้นทั้งที่กินเวลามานานแล้ว หากพบมีการช่วยเหลือกัน คณะกรรมการชุดดังกล่าวอาจถูกพิจารณาข้อบกพร่องด้วย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. กล่าวย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่เกี่ยวกับสถาบัน ตำรวจมีกว่า 2 แสนคน จะเป่าเพี้ยงเดียวให้มันเรียบร้อยคงเป็นไปไม่ได้ และตำรวจไม่ดี ไม่มีหลักฐานก็เอาออกไม่ได้ ทำอะไรต้องอยู่ในกรอบ ใช้ความละเอียดและใช้เวลา ซึ่งได้หารือกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ไปแล้ว ต้องกวาดให้หมด พยายามสืบสาวหาพยานหลักฐานถึงใครให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมายมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ไม่ให้ ตชด. ดำเนินการ เพราะอาจเป็นเรื่องพี่น้อง มีการช่วยเหลือกันแล้วจะไม่ได้ความจริง ไม่ถึงผู้บังคับบัญชาที่ปล่อยปละ ละเลย ไม่สนใจหรือรู้เห็นเป็นใจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงต้องสอบสวนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีนายตำรวจระดับสูงกว่านี้ ที่ร่วมขบวนการหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่อยากพูดเกินพยานหลักฐาน เพราะในเบื้องต้นมีประชาชนเข้ามาแจ้งหลายราย แต่ยังเอาแน่ไม่ได้ บางคนถูกตำรวจแก๊งตชด.นี้ข่มขู่รีดไถ อุ้มทำร้ายร่างกาย ยัดของกลางจริง ก็สมควรที่จะมาแจ้ง และสมควรที่จะต้องได้รับโทษ แต่บางทีมีปลอมเข้ามาเหมือนกัน ค้ายาเสพติดจริง ถูกดำเนินคดีจริง พอถึงเวลาเพื่อที่จะให้ตัวเองพ้นผิดก็รุมมาตรงนี้เลยฉะนั้น ก่อนทำอะไร ต้องชัดเจน แม้กระทั่งสื่อมวลชนก่อน วิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ต้องชัดเจน ไม่ใช่เห็นเป็นข่าวก็ไปวิจารณ์กันใหญ่โตเกินไป ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชอบธรรม หรือพยานหลักฐาน อย่างนี้ไม่ถูก
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
