| • วิ่งราวสร้อยร้านทองเชียงใหม่ |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 03 ก.พ. 51 เวลา 11:06:58 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
โจรเยือนร้านทองอีกแล้ว วางมาดทำทีเลือกดู เจ้าของร้านใจดี หยิบมาให้ดูทีเดียว 3 เส้น สบโอกาสคว้าติดมือ วิ่งหนีออกร้าน ไปสตาร์ท รถจักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจรุดตรวจสอบ ภาพกล้องทีวีวงจรปิด ถึงกุมขมับ ทางร้านเปิดทิ้งไว้เฉย แต่ไม่ได้อัดภาพ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 1 ก.พ.นี้ ร.ต.ต.ณัฐพงษ์ คชสาร พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก เจ้าของร้านทองแต้ยืนยง อยู่ตรงข้ามตลาดหนองหอย ถนนสายเชียงใหม่ - ลำพูน ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่า มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำในร้าน หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่ปิง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจากกองวิทยาการเขต 32 เชียงใหม่
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงทราบชื่อว่า นางเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่ และให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนนั่งทำงานอยู่ภายในร้าน ก็มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 กว่าปี สูงประมาณ 170 ซม. ลักษณะการแต่งกาย สวมเสื้อยืดสีชมพูลายแนวตั้ง สวมแว่นตาดำ กางเกงยีนส์ ไว้ผมทรงสกินเฮด ผิวขาวเหลือง ได้เข้ามาในร้าน และบอกว่า จะมาขอซื้อทองน้ำหนัก 1 บาท และก็ซักชวนคุยพร้อมกับขอดูสร้อยคอทองคำเส้นต่างๆ โดยตนได้นำออกมาให้ดูจำนวน 3 เส้น ขณะที่ตนนั้นเผลอและหันหลังให้แค่ไม่ถึงนาที คนร้ายก็อาศัยช่วงจังหวะดังกล่าว วิ่งหลบหนีออกนอกร้านแล้วไปสตาร์ทรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นมีโอ สีขาวมุก ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไป ซึ่งตนตรวจสอบพบว่าสร้อยทองที่นำมาวางไว้หายไปแล้ว จะวิ่งตามออกไปก็ไม่ทันแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น ราคา 45,000 บาท หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับกุมคนร้ายตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าจะหลบหนีแต่ก็ไร้วี่แวว
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 32 เชียงใหม่ ได้เดินทางมาถึง และได้ทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่บริเวณตู้กระจกไว้ พร้อมกับได้ตรวจเช็คภาพ จากกล้องวงจรปิดภายในร้าน แต่ปรากฏว่า กล้องวงจรปิดนั้นเปิดไว้แต่ไม่ได้กดอัดไว้ จึงไม่ได้บันทึกช่วงเวลาเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยังร้านทองต่างๆ ตามลักษณะรูปพรรณของสร้อยทองที่ได้ถูกคนร้ายก่อเหตุไป ซึ่งคนร้ายนั้นหลังเกิดเหตุอาจจะนำไปจำหน่ายตามร้านทองต่างๆ แต่จากการดูลักษณะพฤติกรรม ของการก่อเหตุแล้วคนร้าย ที่ก่อเหตุครั้งนี้ไม่ใช่มืออาชีพ เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้นั้นยังติดป้ายทะเบียนรถอยู่ แต่เจ้าของร้านนั้นจำไม่ได้ ซึ่งหากเป็นมืออาชีพแล้วป้ายทะเบียนรถก็จะไม่มีการติดไว้แบบนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้รีบตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงดังกล่าวเพื่อจะใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2059 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 03 ก.พ. 51
เวลา 11:06:58
|
