• บุกห้องสมุด เจอคราบเปรอะ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 04 ก.พ. 51 เวลา 09:55:12 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จากเรื่องราวฉาวโฉ่กรณีกลุ่มเยาวชน นักเรียนนักศึกษาใน จ.นครศรีธรรมราช
แอบเริงรักตามที่สาธารณะ อย่างไม่อายสายตาของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ห้องสมุดประชาชนกลางเมือง สนามเทนนิส ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของสนามหน้าเมือง จนกลายเป็นแหล่งมั่วสุมทางเพศ ขณะที่นางกาญจนา ไชยสุวรรณ หัวหน้าห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ยืนยันว่าไม่มีเยาวชนสร้างพฤติกรรมบัดสีในห้องสมุดตามที่เป็นข่าว แต่ทุก อย่างสวนกับความเป็นจริง เมื่อ “ไทยรัฐ” บุกพิสูจน์แฉข้อมูลและภาพถ่ายอย่างโจ๋งครึ่มนั้น
ต่อมาวันที่ 3 ก.พ. หลังข่าวฉาวนี้แพร่สะพัดทำให้ผู้ปกครองจำนวนหนึ่งเดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ห้องสมุดประชาชน
และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ห้องสมุดว่า ข่าวที่นำเสนอไม่มีมูลความจริง ทางกลุ่มผู้ปกครองจึงขึ้นไปตรวจสอบที่ชั้น 2 ของห้องสมุด พบมีซอกมุมมากมายที่นักเรียน นักศึกษาสามารถเข้าไปแอบแสดงพฤติกรรมทางเพศได้โดยไม่มีใครเห็น ที่น่าสังเกตคือผนังปูนจะมีคราบเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด โดยผู้ปกครองคาดว่าเป็นน้ำอสุจิ ในขณะที่ชั้นวางหนังสือและหนังสือบางส่วนในบริเวณติดกันก็มีคราบติดเปรอะเปื้อนเช่นกัน จนหนังสือบางเล่มไม่สามารถเปิดเรียงหน้าได้ตามปกติ ส่วนผนังห้อง ชั้นวางหนังสือ และหนังสือในจุดอื่นกลับสะอาดสะอ้านไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
จากนั้นกลุ่มผู้ปกครองได้ลงมาสำรวจรอบๆห้องสมุด และพบว่ามีซอกหลืบของตึกจากการออกแบบการก่อสร้างด้านละ 4-5 ซอก
รวมทั้งพื้นที่ว่างระหว่างห้องสมุดกับสนามเทนนิสก็เป็นจุดที่ลับตาคนที่เด็กใจแตกทั้งหลายสามารถใช้ประกอบกามกิจได้เป็นอย่างดี และยังพบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วกระจายเกลื่อนบริเวณ โดยมี รปภ.ของห้องสมุดรีบเก็บกวาดถุงยางไปทิ้ง เมื่อสอบถามพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวถนนท่าช้าง หลังห้องสมุด ต่างยืนยันว่าทราบและเคยเห็นพฤติกรรมของเด็กในทางชู้สาวมานานนับ 10 ปีแล้ว แถมยังมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ด้านนายวีรวัฒน์ รัตนะ ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาและส่งเสริมเยาวชนคนหนุ่มสาวนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนในจังหวัด กล่าวว่า
เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญ มีคุณค่าของชาติ แต่ในปัจจุบันสภาวะความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดสภาพสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี กลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้เยาวชนหลงผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหล้า บุหรี่ ยาเสพติดอื่นๆ รวมทั้งบรรดาสื่อลามกอนาจาร สิ่งเหล่านี้กระทบต่อเด็ก เยาวชนเป็นอย่างมาก เพราะสามารถกระตุ้นให้ เด็กอยากรู้ อยากเห็น อยากลอง หากปล่อยปละละเลยจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตอย่างแน่นอน
“การแก้ปัญหาในเบื้องต้น พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องตระหนักในหน้าที่ โดยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ถือเป็นภารกิจหลักที่สำคัญที่สุด และทุกฝ่ายต้องหาวิธีให้เด็กซึมซับและรับรู้ถึงสภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคม เพื่อให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อ ส่วนเด็กผู้หญิงต้องปลูกฝังเรื่องรักนวลสงวนตัว ส่วนเด็กผู้ชายปลูกฝังไม่ รังแกผู้หญิงซึ่งเป็นเพศแม่ ที่สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องทุ่มเทในการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมให้กับเด็กอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดทางเลือกที่เหมาะสมมากขึ้น” นายวีรวัฒน์กล่าว
|
|
|
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน มีประชาชนโทรศัพท์แสดงความคิดเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย
โดยฝ่ายแรกเป็นกลุ่มของข้าราชการ มองว่าการนำเสนอข่าวในลักษณะนี้ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อีกฝ่ายเป็นกลุ่มเอกชนและประชาชน มองว่าสื่อมวลชนนำเสนอข้อเท็จจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ และเป็นเรื่องที่ดีที่จะกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง
สอบถามนางน้อย อายุ 38 ปี อดีตครูโรงเรียนเอกชน ซึ่งเป็นแกนนำในการร้องเรียนเรื่องนี้กล่าวว่า
ใช้บริการห้องสมุดแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี และมาเกือบทุกวัน สัมผัสได้ว่าเจ้าหน้าที่ก็คาดหวังผลงานที่เป็นตัวเลขรายงานให้หน่วยเหนือว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการห้องสมุดมาก เพื่อหวังเรื่องงบประมาณและการช่วยเหลือให้มากที่สุด โดยใช้ตัวเลขเป็นเครื่องการันตีผลงาน ไม่ได้สนใจว่าคนที่เข้ามามีจุดประสงค์อะไร ได้ประโยชน์อะไรจากห้องสมุดหรือไม่ นางน้อยกล่าวอีกว่า ในแต่ละวันเมื่อเปิดห้องสมุดแล้ว อยากถามว่าเจ้าหน้าที่มีภาระทำอะไรกันบ้าง โดยเฉพาะที่มุม มสธ.ชั้น 2 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึงเวลาปิด 19.00 น. ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่เหยียบย่างเข้าไปตรวจตราเลย ช่วง 2 ปีก่อนยังมี รปภ.ตรวจเป็นระยะๆ และตักเตือนเด็กที่จับคู่แสดงพฤติกรรมเกินเลยในทางชู้สาว แต่ปัจจุบันไม่มี รปภ.แล้ว หากไม่จ้าง รปภ.ก็ควรจะติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมพื้นที่ภายในทั้งหมด
ขณะที่นายโอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวช. โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า
เคยนัดแฟนสาวไปพลอดรักกันในห้องสมุด ทั้งกอดจูบกันตามประสาคนรักในมุมที่ลับตาคนชั้น 2 ของห้องสมุด ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมต้องไปทำในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม นายโอ๋ตอบว่า ไม่มีเงินเปิดห้องพักในโรงแรมหรือม่านรูด เพราะแต่ละวันได้เงินจากผู้ปกครองเพียงวันละ 70-80 บาท เป็นค่ารถ ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นก็หมดแล้ว ส่วนแฟนสาวหลังเลิกเรียนก็โทร.บอกที่บ้านว่าจะแวะอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ผู้ปกครองก็ไม่ติดใจสงสัยอะไร แถมพ่อของแฟนสาวยังชมลูกสาวด้วยว่าขยันเรียนมาก
ส่วนนายเอก อายุ 47 ปี ผู้ปกครองคนหนึ่งกล่าวว่า ต่อไปต้องกวดขันดูแลลูกมากขึ้นและใกล้ชิดมากกว่าเดิม
รู้สึกตกใจมากเมื่อทราบข่าวนี้จากสื่อมวลชน อีกทั้งลูกของตนชอบเข้าห้องสมุดด้วย “ที่ผ่านมาไม่เคยติดใจสงสัยเรื่องการเข้าห้องสมุด เพราะคิดว่าคนที่เข้าห้องสมุดคือคนที่รักการอ่าน ขยันค้นคว้า แต่ต่อไปนี้ต้องติดตามดูแลกันใหม่แล้ว” นายเอกกล่าว คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า เคยไปเยี่ยมห้องสมุดแห่งนี้ พบมีการดึงวัยรุ่นเข้ามาใช้บริการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นในห้องสมุดเลยไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ห้องสมุดเสียกำลังใจ แต่ควรแก้ ปัญหาด้วยการจัดพื้นที่ให้โปร่งอย่ามีมุมลับตา และให้ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ สพฐ.ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้เน้นย้ำเรื่องความประพฤติของนักเรียนเป็นพิเศษ โดยขอให้ตรวจสถานที่ที่อาจจะมีการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ดี อาทิ หอพัก บ้านเช่า บ่อตกปลา แพเธค เป็นต้น และสอนให้ตระหนักในคุณค่าของตัวเองด้วย
ด้านนายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ ผอ.สำนักบริหารการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) กล่าวว่า
ได้สอบถามนายวินัย ไชยทอง ผอ.ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ทราบว่าห้องสมุดประชาชนนครศรีฯ มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างมากและเป็นพื้นที่ร่วมของหลายหน่วยงาน และชั้น 2 ที่เกิดเรื่องเป็นมุมของ มสธ. ยอมรับว่ามีมุมลับตาที่เด็กอาจจะเข้าไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ ดังนั้น คงต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
ขณะที่ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาสังคมเรื้อรังมานาน ที่ผ่านมาการมีเพศสัมพันธ์ ของเด็กเกิดขึ้นในที่สาธารณะหลายสถานที่ทั้งโรงเรียน สวนสาธารณะ ห้องน้ำ หรือแม้แต่ครั้งนี้ก็เกิดขึ้นในห้องสมุดประชาชน เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง สะท้อนให้เห็นว่าสังคมกำลังเน่าเฟะ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ต้องเข้าไปดูแลแก้ไข แต่ปัญหานี้แก้เท่าไหร่ก็ไม่หมด การตีแผ่เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของเด็กลักษณะนี้ถือเป็นการเฝ้าระวัง ทำให้สังคมตื่นตัว อยากให้ทุกฝ่ายต่างมองปัญหาสังคมร่วมกัน และทางออกในการแก้ไขปัญหาสังคมได้ในทิศทางเดียวกัน
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1289 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 04 ก.พ. 51
เวลา 09:55:12
|