• สัมภาษณ์พิเศษ:''สนธิ ลิ้มทองกุล''...."มีคนต่อสายมาหา แต่ผมไม่เคยคุยกับทักษิณ |
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 08 ก.พ. 51 เวลา 23:41:29 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เปิดใจ'สนธิ ลิ้มทองกุล' หลังเงียบหายไปนาน กับการกลับมาอีกครั้งด้วยไอเดีย"การเมืองแนวใหม่" เป็นทางออกการเมืองน้ำเน่า ลั่นไม่เคยกลัว'ทักษิณ' บอก'มีคนต่อสาย..แต่ไม่คุย'
หลังจากหลบเร้นจากความวุ่นวายทางโลก ไปอยู่ในร่มเงาแห่งธรรมะเป็นเวลากว่า 1 เดือน “สนธิ ลิ้มทองกุล” กลับคืนสู่สมรภูมิการเมืองพร้อมด้วยข่าวคราวการรวมตัวกันของ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” แต่การกลับมาครั้งนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “สนธิ”คนใหม่ ที่ไม่บู๊ล้างผลาญ วู่วาม ดุดัน เหมือนเดิม วันนี้ "สนธิ" ตกผลึกทางความคิดขึ้น ทำให้มุมมองมีความลุ่มลึกมากขึ้น มองโจทย์ของสังคมใหม่ที่ไม่จำกัดอยู่แค่ “ท๊ากกก ษิณ ออกไป” เท่านั้น
ชีวิตหลังจากที่สึกออกมาเป็นอย่างไร
เดินสายขึ้นศาล เพราะการเมืองในอดีต
พอผมสึกออกมาความคิดก็ตกผลึกขึ้น มานั่งคิดว่าผมทะเลาะกับทักษิณแทบตายสุดท้ายมันก็จะมีทักษิณ 2 ทักษิณ 3 ขึ้นมามันคือผีทักษิณ วิญญาณทักษิณ เป็นสันดานมนุษย์ที่มันไม่รู้จักพอ ผมสรุปว่าประชาธิปไตยเมืองไทยมันเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีธรรมาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยเป็นเรื่องของเสียงส่วนใหญ่ ถ้าเราเลือกโจรเข้ามาเป็นส่วนใหญ่แล้วโจรยกมือให้ไปปล้นบ้าน ในหลักประชาธิปไตยมันชนะ ที่เป็นอย่างนี้เพราะที่มาของคนที่มาเป็นส.ส.มันผิดหมด และเรายังมีกกต.แบบนี้อีกไปกันใหญ่ ถ้าประชาธิปไตยมาได้ด้วยการซื้อเสียงแล้วจะมีมันไปทำไม ถ้าอย่างนั้นประเทศไทยใครมีเงินคนนั้นปกครอง ได้ประเทศไทยไปเลย
สังคมไทยต้องลุกขึ้นมาพูดเรื่องนี้ โดยเฉพาะรากหญ้า พวกนักการเมืองก็บอกจะประชานิยม จะช่วยรากหญ้า ผมเห็นด้วยที่จะช่วยรากหญ้า แต่ต้องไม่ใช่การเอาเงินไปซื้อเขา ต้องให้เขาสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง สถานการณ์เช่นนี้คนที่ซวยที่สุดคือชนชั้นกลาง เงิน 2-3 หมื่นบาท ต้องจ่ายภาษีเต็มๆหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แล้วนักการเมืองก็อาภาษีอากรพวกเราไปซื้อรากหญ้าต่อ เพื่อให้เขาเข้ามาแล้วทำนโยบายประชานิยม แต่คนชั้นกลางถูกบีบตลอดเวลา กิจการเล็กๆถูกกิจการใหญ่รังแก โชห่วยถูกแมคโคร โลตัส รังแกเพื่อไม่ให้เขาเกิด ลูกหลานคนชั้นกลางไม่สามารถมีกิจการเป็นของตัวเองได้ ผมว่าคนชั้นกลางทุกจังหวัด เหมือนคนที่ถูกน้ำมันราดเพราะเขามีทุกข์เหลือแค่คนจุดไม้ขีดโยนเข้าไปก็ติดทันที
แสดงว่าหลังจากสึกออกมามองโจทย์ของสังคมเปลี่ยนไปจากเมื่อตอนเคลื่อนไหวในนามพันธมิตรฯ
มุมมองของผมลึกขึ้นมหาศาล ผมมองเห็นว่าทักษิณเป็นแค่จิ๊บจ๊อย สำหรับผมแล้วทักษิณไม่มีความหมายเลย เขาเป็นผลพวงของความน่าขยะแขยงของสังคมแบบนี้ พอคิดได้ผมก็นั่งนึกว่าถ้าจะออกมาอีกครั้งจะออกแบบไหน ผมอยากจะออกไปสร้างชาติกันใหม่ ผมจะขอให้คนร่วมอุดมการณ์มาร่วมกับผม หาทางสร้างกรอบของแผ่นดินกันใหม่ อุปมาอุปไมย เหมือนรถคันนี้คือประเทศ จะไล่คนขับกี่คนแต่รถมันสกปรก มันเหม็น ผมจะลงจากรถคันเก่าแล้วเดินไปสร้างรถคันใหม่ หาเป้าสังคมที่โปร่งใส ธรรมาธิปไตย เงินไม่ใช่พระเจ้า ไปหาสังคมที่คนตัวเล็กอยู่ได้ ไม่ต้องมาขับไล่คนขับรถอีก และผมเชื่อว่ามีคนมาร่วมกับผมเยอะ ถ้าไม่สร้างสังคมใหม่ อีกไม่นานการปฎิวัติ แล้วทุนสามานย์ก็กลับมา แล้วก็จะมีการปฎิวัติอีก แล้วทุนสามานย์กลับมาอีก สุดท้ายทุนสามานย์ชนะ พอเป็นอย่างนั้นสังคมไทยก็ไม่น่าอยู่ เพราะทุกอย่างซื้อได้ด้วยเงิน คุณธรรม จริยธรรม เอาเงินจ่ายแล้วหลับตาข้างนึง เป็นประเทศที่ผมไม่อยากอยู่
รูปแบบการเคลื่อนไหวจะเป็นอย่างไร
ผมก็จะเดินสายพูดให้คนฟัง อาจจะเช่าโรงแรม หอประชุมแล้วเชิญคนมาฟังโดยไม่คิดเงิน แล้วเราจะขายความคิด ขายสังคมใหม่ ขายโมเดลของชาติแบบใหม่ แต่การเดินขบวน สำหรับผมยังไม่มี แต่คนอื่นไม่รู้ และเรื่องนี้ผมได้แชร์ความคิดกับเพื่อนๆในพันธมิตรฯแล้วเขาก็เห็นด้วย แต่ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง พิภพ ธงไชย สุริยะใส กตะศิลา ก็จับตา เดินหน้ากดดันรัฐบาลกันไป ส่วนผมก็จะเดินสายขายความคิดไม่รู้จะใช้เวลากี่ปี อาจจะ 1 ปี หรือ 5 ปี หรือผมอาจจะตายก่อนก็ได้ แต่ในกรณีที่ถ้ารัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้ พยายามดำเนินการเพื่อฟอกตัวคุณทักษิณ อย่างน่าเกลียด ไม่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม หรือรังแกคนที่ตั้งใจทำงานอย่างคตส. บีบให้กรมสรรพากร หรือหน่วยงานราชการพลิกคำให้การ ก็อาจจะมีการชุมนุมกันได้ แล้วผมจะเข้าร่วมด้วย และผมเชื่อว่าถ้าพวกเราออกอีกครั้งหนึ่งจะมีคนเอากับเรามากกว่าเดิมทั้งคนเก่าและคนใหม่ที่มองเห็นว่ารัฐบาลนี้มันน่าขยะแขยง ไม่มีอุดมการณ์เป็นเพียงการสมสู่กันในทางการเมือง ผสมพันธุ์เพียงเพื่อต้องการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันเท่านั้น นี่เป็นการเมืองยุคสุดท้ายของคุณบรรหาร ศิลปอาชา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ คุณเสนาะ เทียนทอง
มีข่าวว่าเครียดหนักหลังจากที่พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ผมไม่ได้เครียดอะไรทั้งสิ้นสาบานได้เลย ทุกวันนี้ยังนั่งอ่านมังกรคู่สู้สิบทิศ เป็นรอบที่สามได้อย่างสบายใจ สนุกสนาน คนที่เครียดจะมีอารมณ์อ่านหนังสือได้เหรอ(หยิบหนังสือมาโชว์) ที่เครียดเรื่องเดียวคือจะหาเงินมาใช้จ่ายในเอเอสทีวีเท่านั้น สิ้นเดือนจะเอาเงินที่ไหนจ่ายลูกน้อง คอลัมน์หนังสือพิมพ์บอกผมเครียดเพราะจะมีพีทีวี ไม่จริงเลยเพราะทุกวันนี้พีทีวีก็ออกอยู่แล้ว บางคนบอกผมเป็นอัมพาต (ลุกขึ้นกระโดดให้ดู) นี่หรืออัมพาตๆ(หัวเราะ)
เครียดเพราะเรื่องที่คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ถอนการสนับสนุนหรือไม่
ไม่เกี่ยว ผมเป็นคนตัดคุณประชัยเอง ข้อเท็จจริง คือคุณประชัยชอบทวงบุญคุณ ชอบพูดว่าที่ให้โฆษณาเอเอสทีวีแล้วไม่สำนึกบุญคุณเขา ไม่สนับสนุนเขาตอนเลือกตั้ง พอเราวิจารณ์คุณประชัย ก็หาว่าเราไปด่าเขา แล้วไปเชียร์ประชาธิปัตย์ เคยพูดว่าเราไม่รู้จักข้าวแดงแกงร้อน มาออกรายการก็ยังพูด มาด่าคุณคำนูณ (สิทธิสมาน) ในรายการอย่างนี้ ผมก็เลยประกาศไปว่าถ้างั้นไม่ต้องมาให้โฆษณาผม ผมไม่มีกินผมก็จะอยู่ของผมอย่างนี้ แต่จะมาพูดกับผมอย่างนี้ไม่ได้ สมัยก่อนผมสู้ทักษิณตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ผมยังกล้า แล้วคุณประชัยเป็นใคร เอางี้ดีกว่า ถึงผมไม่มีเงินแล้วผมต้องปิดเอเอสทีวี ผมก็ปิด ไม่เห็นมีอะไรเลย ผมไม่ยึดติด ไม่เสียใจ ไม่ใช่ว่าสนธิไม่มีเอเอสทีวีแล้วกินไม่ได้นอนไม่หลับ เผลอๆผมจะมีสันติสุขในใจเสียด้วยซ้ำ วันนี้ผมได้บรรลุธรรมถึงขั้นที่ว่าทุกสิ่งเป็นเรื่องสมมติไปหมดแล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องอนิจจัง ผมรู้จักปล่อยวาง นี่เป็นสิ่งที่ผมได้รับจากการบวช
กลัวถูกเช็คบิลหรือไม่
ผมไม่กลัวการล้างแค้นแม้แต่นิดเดียว วันที่ทักษิณ มีเสียง 377 เสียง กุมอำนาจรัฐทุกประการ เล่นเกมใต้ดินสกปรกกับผมสารพัด ผมยังไม่กลัวเลย แล้วผมจะกลัวคุณทักษิณ ในวันนี้ทำไม ผมไม่เคยกลัวคุณทักษิณ ไม่ว่าจะวันที่เขามีอำนาจเบ็ดเสร็จหรือไม่เบ็ดเสร็จ เพราะคุณทักษิณ ต้องเผชิญกฎแห่งกรรม เช่นเดียวกับผม แต่ผมเชื่อว่าผมทำสิ่งที่ถูกต้อง กรรมดีจะส่งผลให้ผมได้ดี
ข่าวคุณสนธิ เกี๊ยะเซี๊ยะกับกลุ่มคุณทักษิณ
มีคนต่อสายมาหาผมตลอดเวลา แต่ผมไม่เคยคุย ผมไม่เคยรับสาย มีคนมาผมถึงที่นี่(บ้านพระอาทิตย์) แต่ผมไม่ได้คุยกับเขา ผมเพียงแต่บอกว่าผมไม่มีอะไรกับเขา ถ้าเขาอยากกลับประเทศไทย ก็กลับมาสิ เข้ามาเผชิญหน้ากับกฎหมาย ถ้าซื้อกระบวนการยุติธรรมได้ก็ซื้อไปเป็นปัญหาของศาลที่จะต้องแก้กันเอง แต่อย่ามาฟอกตัวละกัน
คุยกับอาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หนึ่งใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย บ้างหรือไม่
สมคิดเป็นเหมือนน้องผม วันนี้เขาก็ขาดจากคุณทักษิณ ชัดเจนแล้ว เขาก็โทรมาหาผมบ้าง นานๆก็เจอกันที เขาก็ถามผมถึงปัญหาบ้านเมือง ถามผมว่าทำไมเดี๋ยวนี้พี่ไม่ค่อยออกความเห็น ผมบอกว่าผมขี้เกียจ คือตัวผมเดี๋ยวนี้ไม่ต้องอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน ผมก็รู้ว่าการเมืองมันจะเดินไปยังไง ผมทะลุถึงขนาดนั้น
เสถียร วิริยะพรรณพงศา
ที่มาจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1450 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 08 ก.พ. 51
เวลา 23:41:29
|