• เสนอไอเดียเคอร์ฟิว4ทุ่ม ห้ามเด็กแว้นออกจากบ้าน |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 13 ก.พ. 51 เวลา 10:01:07 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จากปัญหาสังคมที่เด็กและเยาวชนชายหญิง รวมกลุ่มกันยามค่ำคืนเป็น เด็กแว้น-สาวสก๊อย ซิ่งรถจักรยานยนต์ยึดถนนประลองความเร็ว สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน จนตำรวจต้องระดมกำลังจับกุมส่งดำเนินคดีกันนับร้อย ขณะที่เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ถูกส่งไปบ้านเมตตา-ปรานี เข้าโปรแกรมช็อกบำบัดจิตใจ 5 วัน เพื่อไม่ให้หวนกลับมากระทำความผิดอีก เช่นเดียวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย เริ่มกระเตื้องออกลูกเสนอมาตรการป้องกันการแข่งขันท้ามฤตยูของเด็กและเยาวชน เช่นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หยิบไอเดียสร้างสนามแข่งของอดีต รมว.พม.มาปัดฝุ่นใหม่ ตามที่เสนอข่าวไปตามลำดับ
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.พ. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ. สมบัติ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เดินทางไปตรวจเยี่ยมเด็กและเยาวชนชาย 29 คน หลังถูกจับ ดำเนินคดีแข่งรถบนทางสาธารณะในท้องที่ สน.ตลาดพลู และ สน.ท่าข้าม เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา มีนายไพศาล วิเชียรเกื้อ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมคณะผู้บริหารกรมพินิจฯ ให้การต้อนรับและนำตรวจความเรียบร้อย โดยนายสมพงษ์กล่าวให้โอวาทเด็กสรุปว่า ทุกคนยังมีสิทธิของความเป็นพลเมืองทุกอย่าง รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม พร้อมดูแลให้กลับออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีประวัติด่างพร้อย เชื่อว่าหลังทุกคนผ่านโปรแกรมช็อกเทอราปีแล้ว จะสำนึกผิดไม่กลับไปซิ่งอีก ทุกคนเกเรได้แต่ต้องอยู่ในขอบเขต
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ ว่า สมัยตนยังเด็กก็เกเร แต่เด็กเหล่านี้เกเรกว่า ต้องหาวิธีบำบัดพร้อมให้กำลังใจ รวมทั้งให้ครูอาจารย์ผู้ปกครองร่วมกันดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เพราะตำรวจหรือเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ นอกจากนี้ยังได้รับรายงานจากอธิบดีกรมพินิจฯว่า มีเด็กที่ผ่านไปประสบเหตุแต่ถูกจับกุมไปด้วย ในส่วนนี้ต้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกับกรณีเสนอเปิดสนามแข่งรถให้เด็กประลองความเร็ว ความเห็นตนเชื่อว่าเด็กคงไม่ไป เพราะธรรมชาติเด็กชอบความท้าทาย หากแข่งรถแล้วหนีตำรวจได้สนุกกว่า ตื่นเต้นกว่า อย่างไรก็ตาม การลงโทษผู้กระทำผิดในปัจจุบัน ผู้กระทำผิดเพียงเล็กน้อย หรือคดีไม่อุกฉกรรจ์ ควรให้ไปทำงานบริการสังคมดีกว่าติดคุก เปิดโอกาสให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ส่งไปฝึกวิทยายุทธ์ในเรือนจำ โดยมาตรการดังกล่าวรัฐบาลจะแถลงให้ทราบในวันแถลงนโยบายต่อไป
ด้านนายแบงก์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี กล่าวว่า อยากขอความเป็นธรรม เพราะขณะเกิดเหตุ ตนขี่รถจักรยานผ่านไปเห็นกลุ่มรถซิ่งแถวตลาดพลู ด้วยความสนใจอยากรู้จึงหยุดรถยืนมอง กลับถูกตำรวจยึดรถจักรยาน และจับไปรวมกับกลุ่มรถซิ่งทั้งที่ไม่ได้ทำผิด ถูกจับมาอยู่ในบ้านเมตตาอึดอัดมาก คืนแรกนอนไม่หลับ อยากได้รถจักรยานคืน อยากกลับบ้าน ส่วนเพื่อนที่ถูกจับมาพร้อมกัน ไม่เคยรู้จักมาก่อน
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนประพฤติตัวไม่เหมาะสมในเวลากลางคืน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กไปเที่ยวเตร่ มั่วยาเสพติด มั่วเพศ แข่งรถซิ่ง หรือลุ่มหลงอบายมุขจนหมดอนาคต ตนเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ห้ามไม่ให้เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ออกจากบ้านหลัง 22.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กและเยาวชนมีโอกาสเสี่ยงสูงสุดในการกระทำผิดกฎหมาย หรือกระทำผิดศีลธรรม ในประเทศที่เจริญแล้ว อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา หรือประเทศออสเตรเลีย มีนโยบายห้ามเด็กออกจากบ้านหลัง 22.00 น. มาบังคับใช้ สามารถพิสูจน์ได้ว่าเด็กและเยาวชนทั้ง 2 ประเทศ เติบโตอย่างมีคุณภาพจนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เป็นผู้นำของโลกในทุกแขนง ส่วนข้อวิตกว่าเด็กและเยาวชนส่วนหนึ่งต้องออกทำงานหรือกลับจากเรียนพิเศษ สามารถออกเอกสารรับรองเหตุผลติดตัวไว้ได้
ข่าวจาก ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1349 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 13 ก.พ. 51
เวลา 10:01:07
|