| • สั่งเฝ้าระวังวัยโจ๋ พลีกายฉลองวาเลนไทน์ |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 14 ก.พ. 51 เวลา 10:19:05 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วัฒนธรรมเฝ้าระวังพฤติ-กรรมวัยโจ๋วันแห่งความรัก เกรงปัญหาค่านิยมพลีพรหมจรรย์กับคู่รักที่เสี่ยงติดโรคสูงและก่อปัญหาสังคมอื่นตามเพียบ วอนครอบครัวและหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เด็กตระหนักหันสนใจด้านธรรมะวันสำคัญมาฆบูชา เจ้ากระทรวงใหม่จี้ทำงานเต็มที่พร้อมให้ทำคู่มือแจกและแนะสถานที่เสี่ยง-พฤติกรรมล่อแหลมเตือนหญิงวัยโจ๋ด้วยก่อนสังเวยรับวาเลนไทน์
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2551 นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักปีนี้สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องพฤติกรรมเยาวชนและเป็นข้อห่วงใยที่กระทรวงวัฒนธรรมได้มีการสั่งกำชับทุกพื้นที่โดยเฉพาะเมืองใหญ่ที่มีเด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษาอยู่จำนวนมาก ซึ่งเชียงใหม่ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ให้การสั่งเฝ้าระวังพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทางสังคมตามมา เช่น การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ทำให้เกิดปัญหาเสี่ยงเรื่องโรคเอดส์ ท้องไม่พึงประสงค์ กระทั่งเป็นปัญหาสังคมตามมาหลายอย่าง
ทั้งนี้ปัจจุบันพบว่า กลุ่มเยาวชนมีความเสี่ยงต่อภัยด้านสังคมสูงมากขึ้น เนื่องจากการรับเอาวัฒนธรรมต่างถิ่นต่างแดนเข้ามาโดยปราศจากการไตร่ตรองสังเคราะห์ถึงความเหมาะสม มีการสื่อสารที่ไร้พรมแดนโดยเฉพาะด้านอินเตอร์เน็ท ซึ่งห้ามกันยาก จึงมีสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานทางวัฒนธรรมก็ไม่ประสงค์ที่จะต้องมาเฝ้าระวังเรื่องเหล่านี้ น่าจะมีเรื่องที่สร้างสรรค์หรือส่งเสริมในสิ่งที่ดีๆ กับสังคมมากกว่ามาตามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วย แต่ด้วยหลายปัจจัยหากไม่เฝ้าระวังหรือมาดูแลก็จะเป็นภัยมากขึ้นกับสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เชียงใหม่นั้นเป็นเมืองใหญ่ลำพังจะให้เจ้าหน้าที่ไปเฝ้าระวังอย่างครอบคลุมนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากกำลังก็มีน้อยอยู่แล้ว สำคัญที่สุดต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลและรวมถึงตัวของเด็กเยาวชนด้วยที่ต้องคำนึงถึงอนาคตของตนเอง อย่าทำอะไรที่ไม่ได้ไตร่ตรองหรือไม่ยั้งคิดถึงความเหมาะสม เพราะอาจถึงขั้นทำลายอนาคตตนเองได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือครอบครัวจะมีส่วนที่ทำให้เด็กเยาวชนมีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง แต่หากครอบครัวมีปัญหาหรือขาดการใส่ใจแน่นอนว่าเด็กและเยาวชนก็มีความเสี่ยงต่อสิ่งมอมเมาในสังคมได้ง่าย
ผอ.สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่กล่าวอีกว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีวันสำคัญทางศาสนาคือวันมาฆบูชาที่ควรจะสร้างสำนึกในด้านนี้มากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมคนใหม่นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ได้ให้นโยบายย้ำแล้วว่า ต้องขอความร่วมมือพ่อแม่ ผู้ปกครอง โรงเรียน ครู อาจารย์ ช่วยกันให้คำแนะนำสอดส่องดูแล ไม่ให้เยาวชนประพฤติตนออกนอกลู่นอกทาง มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ส่วนตำรวจจะต้องกวดขันสถานบันเทิง โรงแรม หอพัก หรือสถานที่ล่อแหลมต่างๆ ไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุม รวมทั้งห้องสมุดด้วย ส่วนการที่เยาวชนมีความเห็นว่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เป็นสิทธิส่วนบุคคลนั้น เรื่องนี้ผู้ใหญ่ต้องชี้แจงให้เด็กเข้าใจระหว่างเรื่องสิทธิกับการสร้างจิตสำนึกและค่านิยมที่เหมาะสม ซึ่งเราไม่ได้ขัดขวางเรื่องนี้ แต่อยากส่งเสริมค่านิยมที่เหมาะสมกับเด็กมากกว่าปล่อยให้เด็กเข้าใจผิดๆ ว่าต้องมีเพศสัมพันธ์ในวันนี้
อย่างไรก็ตามกระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้เกี่ยวกับผลเสียของการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การตั้งท้องก่อนวัย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการป้องกันตัวหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าว ต้องการให้เยาวชนทราบว่า วันวาเลนไทน์นั้นคืออะไร ไม่ใช่มีความเข้าใจที่ผิดๆ ว่า วันวาเลนไทน์จะเป็นค่านิยมของชู้สาว หรือการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ขณะเดียวกันจะช่วยรณรงค์โน้มน้าวให้เด็กและเยาวชนไทยหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชา วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ โดยหวังจะดึงความสนใจเยาวชนให้ ทำกิจกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม เข้าวัดมากขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 14-21 กุมภาพันธ์นี้ ที่สำคัญอยากแนะนำให้เด็กและเยาวชนซื้อดอกมะลิมอบให้กันแทนดอกกุหลาบที่มีราคาแพงมากเกินไป ซึ่งในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ราคากุหลาบจะพุ่งสูงหลายเท่าตัว ควรส่งเสริมให้เด็กประหยัดและหันมาสนใจกับวันสำคัญทางศาสนาอย่างวันมาฆบูชามากขึ้น แต่ต้องมีการรณรงค์อย่างจริงจังและใช้เวลาในระยะยาวจึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน
ด้าน น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวถึงค่านิยมการมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักว่า เกิดขึ้นเนื่องจากปัจจุบันพ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลลูกเท่าที่ควร ทำให้เด็กวัยรุ่นหันหน้าเข้าหาเพื่อน ซึ่งในวัยใกล้เคียงกัน วุฒิภาวะระดับเดียวกัน ทำให้ไม่มีใครสามารถแนะนำสิ่งดีแก่กันได้ ส่งผลให้ค่านิยมดังกล่าวแพร่ไปในหมู่เด็กอายุใกล้เคียงกัน ซึ่งสิ่งที่โพลล์นำเสนอออกมานั้นเป็นการฟ้องผู้ใหญ่ในสังคมว่า ควรดูแลเอาใจใส่เด็กให้มากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ที่ควรสอนให้เด็กเข้าใจตนเอง รู้จักรักนวลสงวนตัว การให้เกียรติเพศตรงข้าม และการรู้จักปฏิเสธ เพื่อให้เขามีทักษะในการเอาตัวรอด โดยพ่อแม่ควรมีการสื่อสารกับลูกๆ ในครอบครัวตลอดเวลา
จากการศึกษาทำแบบสำรวจของสำนักวิจัยโพลล์ พบว่าเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวในปัจจุบันบางส่วน (ชาย 25 % หญิง 12 %) ยังมีแนวคิดมุ่งมั่น ตั้งใจจะมีเซ็กซ์ครั้งแรกกับคู่รักของตน โดยอาศัยจังหวะ และ หาโอกาสในคืนวันวาเลนไทน์ แต่อย่างไรก็ตาม ก็พบว่า คู่รักหนุ่มสาวจำนวนมากมีเซ็กซ์ครั้งแรกในคืนวันวาเลนไทน์ หรือโอกาสพิเศษอื่น ๆ อันไม่ได้เกิดขึ้นจากความตั้งใจ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะบรรยากาศพาไปหรืออยู่กันสองต่อสองในสถานที่ลับหูลับตา ซึ่งสถานที่ที่เยาวชนหญิงควรหลีกเลี่ยงและต้องระมัดระวังตัวเองเพื่อไม่ให้สบโอกาสแห่งความล่อแหลมที่เยาวชนควรพึงจดจำไว้ 6 แห่งสำคัญคือ โรงภาพยนตร์ สวนสาธารณะ สถานบันเทิงเริงรมย์ โรงแรม บ้านหรือหอพักของฝ่ายชาย และบ้านของเราเองอย่าลืมว่าที่ที่ปลอดภัยที่สุดอาจเป็นที่ที่อันตรายที่สุด นอกจากนี้ได้มีการจัดทำคู่มือเตรียมพร้อมรับมือกับเพื่อนชายที่ต้องการทำร้ายผู้หญิง ซึ่งเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงง่าย ๆ ที่เยาวชนหญิงควรปฏิบัติ คือ 1. อย่าเปิดโอกาส อย่าคิดว่าผู้ชายดี ๆ ที่เห็นหน้าทุกวันจะไม่คิดชั่ว ที่เขายังไม่เคยลงมืออาจเป็นเพราะไม่มีโอกาสก็ได้ 2. อย่าโชว์ของ ควรเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือรัดรูปร่างที่โค้งเว้า เพราะเป็นการยั่วยุอารมณ์ทางเพศของฝ่ายชาย 3. อย่าเปิดไฟเขียว ควรปฏิเสธบ้าง และรู้จักเทคนิคการเจรจา และ 4. รู้จักป้องกัน คือรู้จักป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การตั้งครรภ์ และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งถ้าเลี่ยงไม่ได้.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1547 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 14 ก.พ. 51
เวลา 10:19:05
|
