นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชน จัดรายการสดสนทนาประสาสมัครครั้งที่ 2 ในช่วงเช้าวันนี้ โดยมีหัวข้อ "เศรษฐกิจบนเศษสตางค์ " ซึ่งจะเป็นเรื่องราวเชิงสารคดีจากประสบการณ์ตรงส่วนตัว เพื่อชี้ให้เห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นให้ประชาชนรับฟัง นอกจากนี้ หลังจากจบการจัดรายการความยาวประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วนายกรัฐมนตรีจะเข้าประชุมคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ในเวลา 15.30น.ซึ่งจะมีวาระสำคัญ โดยจะมีการซักซ้อมและเตรียมการเพื่อแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและจัดอันดับผู้อภิปราย

          ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงฉากและเก้าอี้ใหม่ นอกจากนี้ยังมีชาวฉะเชิงเทราเข้าขอความเป็นธรรมต่อนายกฯ เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนกรณียื่นฟ้องคดีความล้มละลายต่อศาลบังคับคดีจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งคดีมีมูลคากว่า 2 ล้านบาท และใกล้หมดอายุความรวมทั้งพบว่ามีเจ้าหน้าที่ รู้เห็นให้ความช่วยเหลือจำเลย ซึ่งนายกฯให้เลขานุการส่วนตัวรับเรื่องแทน

          นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้บริหารบริษัทฟาติมา ผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ที่ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงการยุติรายการของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ทางสถานีวิทยุคลื่นเอฟเอ็ม 105 วิสดอมเรดิโอ เพราะเรื่องดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาล หลังมีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ทราบข้อเท็จจริง พร้อมมั่นใจสามารถปรับปรุงการนำเสนอข่าวและรายการของช่อง 11 ให้ทันสมัย นำเสนอตรงไปตรงมาได้แน่นอน พร้อมติงนักวิชาการที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้

          พร้อมตำหนิการเสนอข่าวในทางให้ร้ายต่อรัฐบาล โดยไม่มีมูลความจริง อาทิ มาตรการกันเงินสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งข่าวผลการสอบสวนของอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต. มีมติให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช มีความผิดในการเลือกตั้ง ทั้งที่ยังไม่ได้มีผลสรุปอย่างเป็นทางการออกมาชัดเจน ทำให้เกิดความเสียหายต่อนายยงยุทธ ต่อ กกต. จึงทำให้เห็นว่ามือที่มองไม่เห็นยังมีความพยายามรังควานการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง จึงขอถามกลับว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร 

          นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวสนับสนุนให้การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ส่วนการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคมนี้ รัฐบาลได้สนุบสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมกล่าวย้ำทุกส่วนราชการทุกหน่วยร่วมกันให้ความร่วมมือด้วย

          นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร เกี่ยวกับวันมาฆบูชาที่ 21 กุมภาพันธ์ นี้ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทราบปัญหาจากประชาชนหลายเรื่อง โดยสิ่งที่ได้รับฟังบ่อยครั้งคือเรื่องราคาสินค้าแพง สอดคล้องกับหลักธรรมในวันมาฆบูชานี้ ในข้อทุกข์ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ขณะที่ราคาสินค้าแพงนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้า มีการท้วงติงว่าเหตุใดเนื้อหมูถึงราคาแพงมาก ปัจจุบันมีการขายอยู่ที่ 120 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม จึงจะลงไปแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน ขณะเดียวกันเห็นว่าราคาสินค้าที่ปรับขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเนื้อหมูที่จะต้องขึ้นตามความเหมาะสมของต้นทุนจริง แต่สินค้าทุกชนิดก็ต้องพิจารณาตามหลักเดียวกัน พร้อมกล่าวชมนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ แม้จะไม่มีการมอบนโยบายเป็นเรื่องเฉพาะ

          นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า จากนี้นโยบายกำหนดราคาสินค้าในประเทศต้องดูตั้งแต่ต้นทาง ว่าต้นทุนจริงในการผลิตสินค้าแต่ละชนิด มีการปรับเพิ่มเท่าใด โดยฝ่ายที่รับผิดชอบต้องเดินหน้าตรวจสอบ เพื่อป้องกันการแอบอ้างเอาเปรียบประชาชน พร้อมมอบนโยบายแก้เศรษฐกิจด้วยเศรษฐสตางค์ ในการใช้จ่ายอย่างประหยัดที่จะช่วยให้ปัญหาต่างๆ หมดไป

         นอกจากนี้ นายกฯ ยังระบุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาสินค้า 33 รายการ โดยใช้แนวคิดแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์ ซึ่งจะมีการคำนวณราคาสินค้าและต้นทุนว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ รวมทั้งได้ยกตัวอย่าง ในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าของอเมริกาที่ทำเป็นระบบ หากประเทศไทยทำได้โดยหันมาเก็บเศษสตางค์ และไม่เปิดเผยการประกาศขึ้นเงินเดือน เชื่อว่าทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อนและทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกัน

          นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลมี 6 พรรคซึ่งทุกพรรคจะร่วมกันช่วยคิดและแก้ไขปัญหาในแต่ละเรื่องที่เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น โดยมีสื่อคอยตรวจสอบ

ข้อมูลและภาพประกอบจาก