ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นในระดับสูงครั้งใหม่ จากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าลงขณะที่ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลังราคาน้ำมันดิบทะยานสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ ทะยานขึ้นหนือ 108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับสูงครั้งใหม่ จากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์ ที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับค่าเงินหลักๆ ประกอบกับความกังวลในเรื่องกำลังการผลิต ซึ่งตลาดค้าน้ำมันนิวยอร์ค สหรัฐ และลอนดอน อังกฤษ ได้ทะยานในระดับสถิติ ทำให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐ ได้ส่งสัญญาณว่าจะส่งรองประธานาธิบดีดิค เชนีย์ เรียกร้องเป็นการส่วนตัวต่อซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นชาติหลักในโอเปค ให้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต
โดยในช่วงปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์ค สหรัฐ รอบส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.75 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 107.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังช่วงก่อนหน้านั้นแตะที่ 108.1 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ที่ตลาดลอนดอนของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 104.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนดัชนีหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลังราคาน้ำมันดิบทะยานสูงขึ้นตลาดหุ้นวอลสตรีทวันนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง หลังราคาน้ำมันดิบ ทะยานขึ้นเหนือระดับ
108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประกอบกับปัจจัยกังวลเกี่ยวกับสัญญาณต่างๆ ที่มาจากการธุรกิจภาคการเงิน อย่างเช่น ผลประกอบการขาดทุนในช่วงไตรมาสแรกของบริษัทแบล็คสโตน กรุ๊ป เป็นต้น ทำให้ดัชนี อุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดิ่งลงกว่า 150 จุด และในช่วง 3 วัน ดิ่งลงเกือบ 515 จุด โดยในช่วงปิดตลาด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดิ่งลง 153.54 จุด หรือ 1.29 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ11,740.15 จุด ขณะที่ดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ลดลง 20.00 จุด หรือ 1.55 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 1,273.37 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 43.15 จุด หรือ 1.95 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 2,169.34 จุด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|