วันนี้ (18 มี.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต. วันนี้ ยังไม่สามารถลงมติสำนวนยุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตยได้ เนื่องจากมีประเด็นการตีความข้อกฎหมาย ในมาตรา 103 (2) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. จึงมอบหมายให้คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของสำนักงาน กกต. ที่มีนายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน โดยจะหารือนัดแรกในที่ 20 มี.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การส่งตีความข้อกฎหมาย ไม่ได้เป็นการยื้อเวลาเรื่องการยุบพรรค แต่ต้องการทำทุกอย่างให้เกิดความชัดเจน
เลขาธิการ กกต.กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรา 103 (2) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. เป็นประเด็นที่ที่ประชุม กกต. ติดใจ เพราะเห็นว่าข้อกฎหมายไม่ชัดเจน คือ กรณีกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งกระทำการทุจริต โดยกรรมการบริหารพรรคคนอื่นไม่มีส่วนรู้เห็น จะสามารถนำไปสู่การยุบพรรคได้หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวในข้อกฎหมาย อาจหมายถึงกรรมการบริหารคนอื่นต้องมีส่วนรู้เห็นด้วย ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคทำเอง
นายสุทธิพล กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กกต. ยังมีมติให้ส่งสำนวนยุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย แก่นายทะเบียนพรรคการเมือง ตามมาตรา 95 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง เพราะเห็นว่าความผิดเรื่องยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา 94 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง จะต้องผ่านการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมืองก่อน เพื่อเสนอให้ที่ประชุม กกต. มีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง
วันเดียวกัน นายถวิล อินทรักษา ผู้รับมอบอำนาจจาก กกต. นำสำนวนคดีพิจารณาให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน และประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น.ที่ผ่านมา ซึ่งคำร้องมีความหนากว่า 1,000 หน้า จำนวน 1 ชุด
ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ในวันพฤหัสที่ 20 มี.ค.นี้ เวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่นายถวิล กล่าวว่า ต่อจากนี้ไปต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลฎีกาจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่ง กกต.เคารพในคำตัดสินของศาล ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ตาม
นอกจากนี้ นายถวิล ยังไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ให้ตัวแทนเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับ กกต. ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
|