พ่อ หมูแฮม ยันลูกขับชนท้าย ปอ .รอบ 2 แค่อุบัติเหตุ อ้างเคยให้หยุดขับแล้วต่อไปจะไม่ให้ขับอีกตลอดชีวิต ท้าเชิญคนขับรถบอกความจริง ระบุลูกเป็นเด็กดี-มีมารยาท
นายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ บิดาของ “หมูแฮม” หรือนายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้ต้องหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ถึงเหตุการณ์ที่หมูแฮมขับรถยนต์ “ฮอนด้า แอคคอร์ท” ชนท้าย รถเมล์ปรับอากาศ สาย 545 และมีอาการเกร็งอีกครั้ง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพาหมูแฮมไปสงบจิตใจและอารมณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น และเหตุการณ์คราวที่แล้ว ซึ่งหมูแฮมขับรถเบนซ์พุ่งชนคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อก.ค.ปี 2550 นั้น ก็ไม่มีใครทราบว่าหมูแฮมเป็นอะไร
นายกัณฑ์เอนก กล่าวว่า ตนเพิ่งรู้ว่าเกิดเหตุดังกล่าวเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา และทราบว่าหมูแฮมขับรถชน มีอาการตกใจ และกำลังนอนพักอยู่ที่ป้อมตำรวจ ซึ่งหมูแฮมต้องมีอาการตกใจแน่นอน เพราะหมูแฮมยังเป็นเด็ก มีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์คันดังกล่าว ซึ่งได้บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากอุบัติเหตุที่หมูแฮมไม่สามารถหลบรถได้ทันจริงๆ จนทำให้ชนท้ายรถเมล์ และต้องเสียค่าซ่อมแซมไปจำนวน 2,000 บาท
เมื่อถามว่า หมูแฮมเพิ่งเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่เมื่อก.ค.ปี 2550 เหตุใดนายกัณฑ์เอนกจึงอนุญาตให้หมูแฮมขับรถอีก นายกัณฑ์เอนก กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งที่ผ่านมาเป็นอุบัติเหตุครั้งแรกของหมูแฮม จึงยังไม่มีใครทราบว่าหมูแฮมเป็นอะไร พร้อมกับย้อนถามพิธีกรว่า “คนขับรถชน แล้วต้องหยุดขับรถกันทุกคนเลยหรือ” และว่า อย่างไรก็ตาม ตอนแรกๆ ที่เกิดอุบัติเหตุครั้งแรก ตนได้บอกให้หมูแฮมหยุดขับรถแล้ว
ส่วนกรณีที่มีความสงสัยว่า หมูแฮมมีอาการฝังใจกับรถเมล์ปรับอากาศหรือไม่และหมูแฮมอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้อีกในอนาคตนั้น นายกัณฑ์เอนก กล่าวว่า หมูแฮมไม่ได้ฝังใจแน่นอน เพราะอุบัติเหตุครั้งที่ 2 เป็นอุบัติเหตุจริงๆ ทั้งนี้ อยากเสนอให้พิธีกรเชิญคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์มาออกรายการ ทุกคนจะได้ทราบความจริงและทราบว่าหมูแฮมเป็นเด็กดีมีมารยาท เนื่องจากก่อนที่จะลากัน หมูแฮมได้ยกมือไหว้คนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ด้วย นอกจากนี้ ตนยังได้ขอโทษคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ด้วย ถึงกรณีที่เคยพูดไม่ดีกับคนขับรถและกระเป๋ารถเมล์
“ตอนนี้กลัวแล้ว ตอนนี้จะไม่ให้หมูแฮมขับรถอีกตลอดชีวิต ก่อนหน้านี้หมูแฮมเคยขอขับรถตอนกลางวัน และปกติแล้ว เขาก็อยู่บ้านตลอด แต่จะขับรถเป็นบางครั้ง เนื่องจากไม่เรียนหนังสือแล้ว เพราะมีอาการชัก จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ไม่มีอะไร แต่ชนท้ายกลับกลายเป็นประเด็นใหญ่ เด็กช็อค ก็เพราะกลัว ซึ่งเขาคงไม่ปกติอะไรแน่ ซึ่งแพทย์ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร เนื่องจากเขาเคยชักมา 2 - 3 ครั้ง เมื่อตอนอายุ 1 ขวบ อาจไปเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเขาให้ช้าลง” นายกัณฑ์เอนก กล่าว
กัณฑ์เอนก กล่าวต่อว่า ตอนนี้กลัวว่าหมูแฮมจะแอบเอากุญแจรถไปขับอีก หากตนจ้างคนขับรถให้หมูแฮม หมูแฮมก็อาจแอบเอากุญแจจากคนขับรถไปอีกก็ได้ ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงและโมโหหมูแฮม แต่เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา หมูแฮมยังใจเสีย จึงยังไม่ได้ดุ นอกจากนี้ ตนกลัวว่าคนทั่วไปจะเกลียดครอบครัวตน ทั้งที่คุณพ่อของตนได้ประกอบคุณงามความดีมาโดยตลอด
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา “หมูแฮม” ได้ถูกยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพระโขนง ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายพนักงานขับรถ ขสมก. และขับรถยนต์เบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารเสียชีวิต และบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2550 ซึ่งหมูแฮมให้การปฏิเสธ และนายกัณฑ์เอนก ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท เพื่อขอประกันตัวหมูแฮมระหว่างต่อสู้คดี โดยขณะนี้หมูแฮมยังอยู่ระหว่างการประกันตัว
ข้อมูลจาก