• ตั้งค่าหัวครึ่งแสน โจรอหังการบุกชิงเงินแบงค์ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 11 เม.ย. 51 เวลา 10:24:50 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
คนร้ายปฏิบัติการอุกอาจ บุกเดี่ยวเข้าจี้ชิงเงินในธนาคาร กวาดเงินสดไปได้ 1.5 แสนบาท เดินออกจากธนาคารหน้าตาเฉยวางระเบิดทิ้งไว้ข่มขู่ ตำรวจยกกำลังตรวจสอบ ประสานชุดเก็บกู้ระเบิด ตชด.ทำลาย ในขณะที่ตำรวจตั้งเงินรางวัล 5 หมื่น ล่าตัวคนร้ายรายนี้
เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 9 เม.ย.2551 พ.ต.ท.ปริญญา เพชรมี สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้ง มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าเงิน ในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยประตูท่าแพ ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และคนร้ายยังได้วางระเบิดทิ้งไว้ที่ด้านหน้าธนาคาร จึงประสานชุดเก็บกู้ระเบิดมาทำลาย หลังได้รับแจ้งเหตุจึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล อัครเดโชชัย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณา นนท์ รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 32 เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของ กก.ตชด.33 จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ประชาชนจำนวนมาก กำลังมุงดูอยู่ บริเวณหน้าธนาคาร พบกระเป๋าสะพายสีดำใบหนึ่งวางอยู่ เจ้าหน้าที่ จึงได้ปิดถนนราชดำเนิน ทั้งสาย และกันกลุ่มประชาชน ให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด เพราะเกรงว่า ระเบิดจะทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ยางรถยนต์มาครอบ กันกระเป๋าสะพายสีดำใบดังกล่าว ที่คนร้ายนำมาวางทิ้งไว้ที่ด้านหน้าธนาคาร ใกล้กับตู้เอทีเอ็ม หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ จึงได้นำเชือกมากั้น และเข้าไปตรวจสอบภายในธนาคาร เพื่อหาร่องรอย และหลักฐาน ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งจดหมายไว้ 1 ฉบับที่ มีข้อความเขียนไว้ว่า "ผมต้องการเงิน ไม่ต้องการชีวิต อย่าทำให้ผมตกใจ” และเขียนภาษาอังกฤษว่า "Boom" มีระเบิดอยู่เต็มกระเป๋า ได้นำ มาทิ้งไว้ด้านหน้าธนาคารดังกล่าว
จากการสอบสวน นางรุ่งกาญจน์ ชนะนนท์ อายุ 57 ปี ผู้จัดการธนาคารดังกล่าว ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนเอง กำลังจะเดินไปปิดประตูอีกด้านหนึ่ง ได้เห็นคนร้ายเป็นชาย 1 คน ลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อยีนส์ข้างในสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำทับข้างนอก กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกแก๊ป เดินเข้ามา และเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์ซึ่งรับเปิดบัญชี จากนั้นได้ยื่นหนังสือข่มขู่ให้พนักงาน พร้อมกับชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดออกมา ซึ่งตนเองตกใจอย่างมาก และเกรงว่า คนร้ายจะก่อเหตุทำร้ายตน และพนักงาน จึงได้หยิบเงินในลิ้นชักให้คนร้ายไป จำนวน 1.5 แสนบาท จากนั้นตนก็ได้พูดกับคนร้ายว่า อย่าได้ทำอะไรตน และพนักงานเลย ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ซึ่งคนร้ายเมื่อได้เงินไปแล้วก็ได้พูดว่า แค่นี้ก็พอใจแล้ว จากนั้นก็ได้เดินออกจากธนาคารไปอย่างใจเย็น โดยก่อนที่คนร้ายจะไปได้วางกระเป๋าใบหนึ่งไว้ที่หน้าธนาคารดังกล่าวจากนั้นคนร้ายจึงได้สตาร์ทรถจักยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าเวฟสีเทาดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป
หลังให้ปากคำแล้ว นางรุ่งกาญจน์ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูภาพคนร้ายจาก กล้องวงจรปิด ซึ่งเปิดดูถึงพฤติการณ์ที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ ทราบว่าคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ เวลา 12.52 น. คนร้ายได้ออกจากธนาคาร ไปในเวลา 12.56 น. ซึ่งถือว่า เป็นการลงมือที่ใช้เวลานานถึง 4 นาที ซึ่งภาพภายในกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกลักษณะคนร้ายไว้ได้เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมแว่นตากันแดดสีดำ ไว้ผมสั้นแบบสกินเฮด สูงประมาณ 170 ซม.เศษ อายุประมาณ 35-40 กว่าปี จึงได้คัด ลอกเทปจากกล้องวงจรปิดเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบว่ามีระเบิดอยู่ จึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้ กก.ตชด. 33 ทราบทันที ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ วัตถุระเบิด นำโดย ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศิริเวช รอง สว.กก.ตชด.33 ได้นำกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการทำลาย โดยใช้รถตีนตะขาบเข้าไปเก็บกู้ และเคลื่อนย้ายระเบิดไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นลานโล่งๆ ด้านหลังของจุดขายของที่ระลึก จากนั้นก็ได้ใช้ปืนแรงดันน้ำยิงเข้าใส่กระเป๋าดังกล่าว หลังจากที่ยิงไปแล้วปรากฏว่า มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ พร้อมกับผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันก้มหลบ และหาที่กำบังกันอย่างจ้าละหวั่น หลังจากสิ้นเสียง และเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่แล้วก็พบว่าวัตถุระเบิดดังกล่าวเป็นของจริง
ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศิริเวช รอง สว. กก.ตชด.33 เปิดเผยว่า ระเบิดชนิดนี้เป็นระเบิดที่ทำขึ้นมาเอง โดยใช้สารโปรแตสเซียม กับผงอลูมิเนียม ผสมกันประมาณ 500 กรัม ซึ่งทำการต่อสายชนวนเข้ากับไฟแช็ค เพื่อให้ไฟแช็ค เป็นตัวจุดระเบิด ซึ่งระเบิดชนิดนี้หากโดนความร้อนเป็นเวลานาน หรือโดนแรงกระแทกอย่างรุนแรงก็สามารถจะระเบิดขึ้นมาได้ทันที ส่วนรัศมีการทำลายล้างนั้นมีวงกว้างประมาณ 15 เมตร ซึ่งในกรณีนี้ หากคนร้ายใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุภายในธนาคารก็จะทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงได้เช่นกัน และในการทำลายในครั้งนี้ แรงระเบิดยังสร้างความเสียหายให้กับรถตะขาบที่เข้าเก็บกู้อีกด้วย
ทางด้าน พ.ต.อ.สมพล อัครเดโชชัย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ถือว่าคนร้ายใช้เวลาในการก่อเหตุนานมาก แต่คนร้ายมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี เพราะคนร้ายอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าธนาคาร ไปพักเที่ยงได้ไม่นาน คนร้ายก็เข้ามาก่อเหตุ อีกทั้งคนร้ายก็ไม่มีการหยิบจับ หรือแตะต้องสิ่งของใดๆ ภายในธนาคาร แม้กระทั่งการใช้มือเปิดประตูเข้าไปในธนาคารเลย แต่คนร้ายได้ใช้ไหล่ดันประตูให้เปิดแทน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บจดหมายที่คนร้ายทิ้งไว้ ซึ่งเป็นหลักฐานเพียงชิ้นเดียวที่คนร้ายทิ้งไว้ เป็นหลักฐาน ซึ่งจะได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจากกองวิทยาเขต 32 เชียงใหม่ ตรวจหาลายนิ้วแฝงอีกครั้ง เพื่อที่จะ ได้ใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายต่อไป
สำหรับเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ทางธนาคารติดตั้งไว้บนถนนสายดังกล่าว ทราบว่าก่อนก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้เลยด้านหน้าธนาคารมาเล็กน้อย เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังจากก่อเหตุแล้วได้ขับรถหลบหนีไปทางวัดผ้าขาว แต่อย่างไรก็ดีทางตำรวจจะได้ตรวจสอบตามกล้องวงจรปิดตามถนนเส้นอื่นด้วยว่าคนร้ายผ่านถนนเส้นไหนบ้างและเห็นป้ายทะเบียนหรือไม่ และหากใครที่มีเบาะแสคนร้ายก็สามารถแจ้งมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ซึ่งมีรางวัลค่าหัวคนร้าย 50,000 บาท.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1396 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 เม.ย. 51
เวลา 10:24:50
|