กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สาธารณสุขเผยวัคซีนเอดส์ต้องรอผลการวิจัยเดือนกรกฎาคมนี้ หากได้ผลการทดลองว่ารักษาโรคเอดส์ได้ถึงร้อยละ 80เตรียมผลิตเชิงพาณิชย์ ไทยได้โอกาสซื้อก่อนและถูกกว่าประเทศอื่น แต่หากล้มเหลวเตรียมเลิกทำ ขณะที่สถิติเอดส์ในเชียงใหม่ก็ยังสูงแม้ลดลงกว่าอดีต
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2551 น.พ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ระยะหลังการดูแลปัญหาเรื่องเอดส์เริ่มมีความชัดเจนและแม้ว่าสถิติผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์จะลดลงกว่าอดีต แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่เพราะที่ทราบข้อมูลนั้นเป็นเพียงกลุ่มที่มารายงานและตรวจสุขภาพ แต่กลุ่มที่ไม่เปิดเผยตัวก็ยังมีอยู่สูง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเรื่องเพศสัมพันธ์และยาเสพติด
ทั้งนี้สำหรับสถิติผู้ป่วยเอดส์ในเชียงใหม่สะสมรวมกว่า 21,000 คน มีชีวิตอยู่ประมาณ 16,000 คนส่วนมากอยู่ในกลุ่มอายุ 20-44 ปี อำเภอเมืองมีมากสุดรองลงมาเป็นหางดง ฝาง สันทราย สันป่าตองและแม่ริม ตามลำดับ ส่วนผู้ติดเชื้อมีอยู่กว่า 8,000 รายมีชีวิตอยู่กว่า 7,400 รายและไม่สามารถระบุจำนวนที่ไม่มีข้อมูลได้อีกจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดนั้นแม้จะมีข่าวดีเรื่องวัคซีนที่กรมควบคุมโรคกำลังศึกษาทดลองอยู่แต่ก็ต้องรอกลางปีถึงจะยืนยัน
เรื่องดังกล่าว ทางน.พ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรคได้ชี้แจงไว้ว่า ความคืบหน้าของโครงการศึกษาวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ชนิด "ปูพื้น-กระตุ้น" ระยะที่ 3 นั้นได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวัคซีนเอดส์ระยะที่ 3 ที่สหรัฐ เช่น สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร บริษัท แว็กซ์เจน บริษัท อเวนตีส ปาสเตอร์ สถาบันโรคภูมิแพ้ และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เพื่อทำแผนปฏิบัติการ (Road Map) หลังสรุปผลการวิจัยของโครงการในเดือนกรกฎาคม 2551
ทั้งนี้โดยที่ประชุมวางแผนปฏิบัติการไว้ 3 แบบ คือ 1.หากโครงการสำเร็จโดยมีผลการวิจัยยืนยันว่าวัคซีนเอดส์ที่ทดลองได้ผล 80% ขึ้นไป จะยุติการติดตามผลในอาสาสมัครทั้ง 16,000 คน และจะผลิตเพื่อการพาณิชย์ 2.หากโครงการมีแนวโน้มว่าจะสำเร็จคือ มีผลการทดลองยืนยันว่าได้ผล 50-79% จะต้องมีการทดลองและติดตามผลต่ออีก 2 ปี และ 3.หากโครงการล้มเหลว โดยมีผลการวิจัยยืนยันว่าได้ผลไม่ถึง 50% จะล้มเลิกโครงการทันที
อย่างไรก็ตาม หากการทดลองได้ผลอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนหลอกจะได้รับการฉีดวัคซีนจริงให้ทั้งหมด ซึ่งหากวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ชนิด "ปูพื้น-กระตุ้น" ระยะที่ 3 ได้ผลจริงประเทศไทยในฐานะที่เป็นพื้นที่หลักในการวิจัยจะได้รับประโยชน์ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการ คือ จะได้ซื้อวัคซีนชนิดนี้ก่อนประเทศอื่น และซื้อในราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่นๆ.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|