• แค้น! ไม่แบ่งสมบัติ คลั่งยิง4ศพ เมีย |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 28 เม.ย. 51 เวลา 10:06:52 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ฉุนถูกไล่ออกจากบ้าน ควง9ม.ม.ซัด3ศพรวด ขับรถหนี-เจอด่านตร. ระเบิดหัวหนีความผิด
หนุ่มใหญ่คลั่งยิง 4 ศพ แค้นเมียไล่ออกจากบ้านแล้วขอแบ่งสมบัติไม่ยอมให้ ซัด 9 ม.ม.ตายคาบ้านจังหวะนั้นพี่เมียกับคู่เขยเห็นเหตุการณ์เลยตามไปไล่ยิงตายสยองทั้งคู่ ก่อนขึ้นรถกระบะขับหนีแต่ไปได้ไม่ไกลเจอด่านตร. ตัดสินใจระเบิดขมับตัวเองหนีความผิดเป็นศพที่ 4
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 เม.ย. พ.ต.ท.สุชาติ ศิริรัตนพงษ์ พนักงานสอบสวนสภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันตาย 3 ศพที่บ้านเลขที่ 51/1 ม.6 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ชำนาญ แท่นม้วน ผกก. หน่วยกู้ภัยสายชล และแพทย์เวรร.พ.ท่าแซะ ระหว่างนั้นพ.ต.ท.วิเชียร ครามวุฒิ พนักงานสอบสวนสภ.ต.มาบอมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร รายงานมายังผบก.ภ.จว.ชุมพร ว่ามีเหตุยิงตัวตายบนท้ายรถกระบะก่อนถึงด่านตำรวจบ้านพละ ทางแยกเข้าบ้านมาบอมฤต อ.ปะทิว
พล.ต.ต.พัฒนีนำเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเหตุยิงกันตาย 3 ศพก่อน โดยบ้านเกิดเหตุอยู่ในซอยโบสถ์คริสต์ เข้าไปในสวนกาแฟและปาล์มห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 2 ก.ม. เป็นบ้านชั้นเดียวเนื้อที่นับร้อยไร่ มีกองมะพร้าวหลายสิบกองกระจายทั่วบริเวณ พบศพนางพาทิพย์ เพชรคีรี อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าว เป็นคนมีฐานะร่ำรวยในละแวกนั้นจากการทำสวนกาแฟและปาล์ม สภาพศพถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าโหนกแก้มและคิ้วซ้าย 2 นัด
ห่างไปอีกประมาณ 30 เมตรที่บ้านเลขที่ 51 ของพี่สาวผู้ตาย เจ้าหน้าที่พบศพนางอุทิศ นิลสังข์ อายุ 40 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้ากลางหลังและแขนขวา โดยนางอุทิศเป็นพี่สาวของนางพาทิพย์ และยังพบศพนายบุญโชค นิลสังข์ อายุ 51 ปี สามีนางอุทิศ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าท้ายทอย 2 นัด
จากการสอบสวนทราบว่า มือปืนรายนี้คือนายบุญเลี่ยม หอมแดง อายุ 41 ปี สามีนางพาทิพย์ หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บฉ 4207 ประจวบคีรีขันธ์ หลบหนีไปทางถนนเพชรเกษมขาขึ้นกรุงเทพฯ โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่นางพาทิพย์กำลังเตรียมอุปกรณ์เพื่อออกไปรับซื้อมะพร้าว นายบุญเลี่ยม สามี เรียกไปคุยเพื่อตกลงเกี่ยวกับเรื่องแบ่งที่ดิน แต่นางพาทิพย์ไม่คุยด้วย นายบุญเลี่ยมจึงใช้ปืนจ่อยิงภรรยาจนตายคาที่ แล้วเดินไปบ้านนางอุทิศ ลงมือยิงพี่สาวภรรยา และนายบุญโชค คู่เขยตายคาที่เป็นศพที่ 3 จากนั้นขึ้นรถขับหลบหนีไปทางจ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อถึงก.ม.ที่ 444 ก่อนถึงด่านตรวจตำรวจบ้านพละ นายบุญเลี่ยมใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายเพื่อหนีความผิด
ต่อมาพล.ต.ต.พัฒนี พร้อมด้วยตำรวจสภ.มาบอมฤต รุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุนายบุญเลี่ยมยิงตัวตายบนท้ายรถกระบะ มิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 4207 ประจวบฯ ใกล้ด่านตำรวจประมาณ 500 เมตร สภาพศพยิงด้วยปืน 9 ม.ม.เข้าขมับซ้าย กระสุนตุงแก้มขวา โดยมือขวายังกำปืน 9 ม.ม.ทูตมัจจุราชไว้
จากการสอบสวนทั้ง 2 คดีแล้วนำมาประมวลสันนิษฐานเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องทรัพย์สิน โดยนางพาทิพย์มีอาชีพทำสวนและรับซื้อมะพร้าวขายส่ง มีเงินหมุนเวียนวันละหลายแสนบาท โดยร่วมทำกับนางอุทิศ พี่สาว และนายบุญโชค พี่เขย ส่วนนายบุญเลี่ยมก่อนหน้านี้ถูกไล่ออกจากบ้าน เพราะไม่ทำการทำงานมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้งจนนางพาทิพย์ขอเลิก
ล่าสุดเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาทั้งคู่มีปากเสียงกันรุนแรง นางพาทิพย์ไล่นายบุญเลี่ยมออกจากบ้านอย่างรุนแรง กระทั่งก่อนเกิดเหตุนายบุญเลี่ยมกลับมาขอแบ่งที่ดินและสมบัติ โดยทั้งคู่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่นางพาทิพย์ไม่ยอมจึงสร้างความไม่พอใจให้กับนายบุญเลี่ยมอย่างมาก กระทั่งใช้ปืน 9 ม.ม.ยิงภรรยาตายคาที่ จังหวะนั้นพี่สาวภรรยา และคู่เขยคงเห็นเหตุการณ์ นายบุญเลี่ยมจึงตามไปสังหารทั้งคู่เป็นศพที่ 2 และ 3 ก่อนขับรถหลบหนีไปกระทั่งตัดสินใจยิงตัวตายเพื่อหนีความผิดเป็นศพที่ 4 ในที่สุด
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1310 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 28 เม.ย. 51
เวลา 10:06:52
|