• จยย.-จักรยาน ก็ห้ามโทรขับ ติดไฟแดงก็ไม่ได้ เริ่มวันพรุ่งนี้แล้ว! |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 07 พ.ค. 51 เวลา 10:31:32 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตร.เผยมาตรการจับปรับโทรศัพท์ขับรถ ที่จะเริ่มวันพรุ่งนี้ จะเริ่มด้วยการตักเตือนก่อนไปจนถึงวันที่ 19 พ.ค. หลังจากนั้น จะจับปรับทันที ประสานเครือข่ายเมาไม่ขับและค่ายโทรศัพท์มือถือ ส่งข้อความทางมือถือประชาสัมพันธ์โทร.ไม่ขับ เชื่อถ้ากฎหมายได้ผลจะลดอัตราเกิดอุบัติเหตุได้ ระบุการห้ามโทร.ขับใช้กับรถจยย.และจักรยานด้วย รวมทั้งรถติดไฟแดงก็ห้าม ส่วนการจับจะใช้กล้องตรวจจับความเร็วของจราจรกลางและทางหลวงมาใช้ รวมทั้งสอนเทคนิคถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลให้ตร. เพื่อจะได้ไม่ต้องมีข้อโต้แย้งจากคนทำผิด
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.กำกับดูแลงานจราจร ให้สัมภาษณ์ถึงกฎหมายไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 8 พ.ค. นี้ ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มอบนโยบายมาแล้ว โดยเป็นห่วงว่าจะมีการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง จึงประสานไปยังมูลนิธิเมาไม่ขับ น.พ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ จะมีการรณรงค์โทร.ไม่ขับ รวมทั้งประสานไปยังผู้สร้าง บริษัท ละคร ที่จะผลิตละคร ให้ช่วยกำกับเขียนบท ในกรณีมีการใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นตัวอย่างด้วย
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า นอกจากมูลนิธิเมาไม่ขับแล้ว ยังได้ประสานเครือข่ายผู้ให้บริการมือถือ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ผ่านข้อความโทรศัพท์มือถือด้วยว่า กฎหมายใช้บังคับวันที่ 8 พ.ค. และถ้ามีความจำเป็นขอให้ใช้อุปกรณ์เสริมเป็นหลัก ทั้งนี้ในวันที่ 8-19 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะว่ากล่าวตักเตือนก่อน เพื่อสร้างความตระหนักและรับทราบถึงอันตรายขณะโทรศัพท์ขับรถ จากนั้นวันที่ 20 พ.ค.เป็นต้นไป จะมีการจับออกใบสั่งปรับ
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีกว่า 40 ประเทศ ที่ใช้กฎหมายโทร.ไม่ขับ พบว่าผู้ใช้รถใช้ถนนทุกประเทศเห็นตรงกันว่าสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะการมองเห็น สมาธิจากการโทรศัพท์จะถูกแบ่งไปครึ่งหนึ่ง ทำให้สมาธิการขับขี่เหลือเพียงครึ่งเดียว บางครั้งมองไม่เห็นสัญญาณไฟแดง เป็นอันตรายมาก การเบรกก็ช้าลง รวมถึงการเร่งความเร็วขณะขับรถก็ช้าลง พบว่า 19 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้รถติดขัดเพราะขับช้ากว่าปกติ
รองผบช.น. กล่าวต่อว่า จากผลการวิจัยของสถาบันวิจัยคณะวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในต่างประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐอเมริกา พบว่าสถิติอุบัติเหตุจากการโทรศัพท์ขับรถ มีมากกว่าคนเมาในระดับ 0.8 มิลลิกรัมหรือเริ่มเมาแล้วขับรถ เพราะว่าคนเมาเมื่อเห็นไฟแดงเหยียบเบรกแรงขึ้น แต่คนโทรศัพท์ขับรถบางครั้งมองไม่เห็นไฟแดง การเหยียบเบรกก็ช้าลง ในประเทศญี่ปุ่นก็มีการศึกษาเรื่องนี้ พบว่าการไม่โทรศัพท์ขณะขับรถอุบัติเหตุลดลงชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่าการรับโทรศัพท์เกิดอุบัติเหตุมากกว่าการโทร.ออก ซึ่งในการยกร่างกฎหมายก็ได้นำข้อมูลทางวิชาการดังกล่าวเสนอสภาก่อนยกร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วย
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า ในส่วนของบช.น.เดิมทีไม่มีการเก็บตัวเลขสถิติอุบัติเหตุจากการโทรศัพท์ขณะขับรถ ส่วนใหญ่เมื่อเกิดเหตุจะไม่มีใครบอกตำรวจว่าสาเหตุเพราะโทรศัพท์ แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขอุบัติเหตุของแต่ละวันมีอยู่แล้ว สามารถนำมาเทียบเคียงได้ว่าหลังบังคับใช้กฎหมายนี้แล้ว มีสถิติอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นหรือลดลง
"คิดว่าอย่างน้อยน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อุบัติเหตุลดลง ถ้าทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายนี้ เราไม่สามารถห้ามคนโทรศัพท์ขณะขับรถได้ทุกคน แต่ต่อไปคงไม่เห็นคนที่ขับรถแล้วสร้างโลกส่วนตัวด้วยการคุยโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ พอมีกฎหมายทุกคนจะเริ่มกลัว การแอบโทร.ก็จะเป็นช่วงสั้นๆ สมาธิในการขับขี่ก็เพิ่มขึ้น คิดว่าหลังจากนี้ระยะหนึ่งจะมีการประเมินผล" รองผบช.น. กล่าว
พล.ต.ต.ภาณุกล่าวอีกว่า กฎหมายโทร.ไม่ขับ ใช้กับรถทุกชนิดทุกประเภทตามความหมายในพ.ร.บ. จราจรทางบก รวมถึงรถจักรยาน และรถสามล้อ ที่วิ่งในถนนสาธารณะ ยกเว้นรถไฟและรถรางเท่านั้น ทั้งนี้หากต้องการโทรศัพท์จริงๆ ขอให้จอดข้างทางในที่ที่สามารถจอดได้ หรือจอดในปั๊มน้ำมัน ที่ถูกก็ควรดับเครื่อง แต่ในกรณีที่รถติดไฟแดงหรือรถติดไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ เพราะถือว่าอยู่ระหว่างขับขี่ เนื่องจากเครื่องยนต์ยังติดอยู่ คนขับยังควบคุมรถอยู่ การใช้คอหนีบโทรศัพท์แม้จะไม่ถือก็ผิด หรือให้คนอื่นถือโทรศัพท์มาแนบหูให้ก็ผิดทั้งคนขับและคนถือ ไม่ควรทำเพราะอันตราย ที่สามารถทำได้คือกดสปีกเกอร์โฟนให้เสียงดังแล้ววางไว้ให้เป็นที่เป็นทางก่อนสนทนา หรือใช้อุปกรณ์เสริมบางประเภท แต่อุปกรณ์เสริมที่ถูกที่สุดคือที่ติดมากับเครื่องโทรศัพท์เช่นสายฟัง
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวถึงเรื่องการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายโทร.ไม่ขับว่า การตรวจจับจะมีเทคนิคมากขึ้น หลายๆประเทศมีกล้องตรวจจับ ส่วนในประเทศไทยที่สามารถประยุกต์ใช้ได้คือกล้องตรวจจับความเร็วที่ตำรวจทางหลวงและตำรวจจราจรกลาง มีส่วนหนึ่งนำมาใช้ตรวจจับกรณีโทรศัพท์ขับรถได้ด้วย แต่ตำรวจท้องที่การตรวจจับส่วนใหญ่เป็นการจับซึ่งหน้า หลายๆท้องที่กำลังหาอุปกรณ์ตรวจจับมาช่วย อาทิ สน.โชคชัย สน.ดินแดง ตำรวจจะมีกล้องดิจิตอลประจำตัว ซึ่งปกติมีอยู่แล้วเพื่อถ่ายภาพอุบัติเหตุจราจร ถ่ายผู้กระทำผิด จอดผิดที่ ก็สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์กับกฎหมายนี้ด้วย จะต้องฝึกอบรมให้ตำรวจจราจรรู้ด้วยว่าภาพเคลื่อนไหวจะถ่ายกันอย่างไรให้เห็นชัดเจน ทั้งมุมกล้อง และการซูมภาพ
"ในวันที่ 7 พ.ค. จะมีการประชุมรองผกก.จร.และสว.จร.ทุกสถานี และบก.จร. ที่ห้องประชุมใหญ่บช.น. โดยจะเชิญแฟนพันธุ์แท้ เรื่องโทรศัพท์ และเรื่องกล้องถ่ายรูป มาอธิบายวิธีการถ่ายภาพทั้งจากกล้องที่ติดกับเครื่องโทรศัพท์ และกล้องดิจิตอล ถึงวิธีการตั้งโหมด คิดว่าเมื่อตำรวจรับทราบคงจะใช้เครื่องมือมาสนับสนุนการทำงานให้มากขึ้น เพื่อลดการโต้แย้งกับผู้ถูกจับกุมให้มากที่สุด หากมีการโต้เถียงระหว่างตำรวจกับผู้ถูกจับ ว่าไม่ได้กระทำผิด ทางปฏิบัติคือต้องนำตัวผู้ขับขี่พร้อมโทรศัพท์ไปพบพนักงานสอบสวนให้ตรวจพิสูจน์ ซึ่งหากตรวจสอบไปทางเครือข่ายบริษัทแล้วมีการโทร.จริง ก็ต้องฟ้องศาล แต่ความจริงกฎหมายบ้านเราการเสียค่าปรับดีกว่า ทำให้ไม่เสียเวลาเพิ่มขึ้น" รองผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกมองว่าอาจมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับบริษัทมือถือ กรณีการจำหน่ายอุปกรณ์เสริม พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า มีหลายเสียงพูดกันเช่นนั้น หรือตำรวจน่าจะได้รับผลประโยชน์จากการเรียกเงินในการจับกุม โทษยิ่งแรงตำรวจยิ่งเรียกเยอะ ขอเรียนว่ากฎหมายไม่ได้ใช้ในประเทศไทยประเทศแรก เนื้อหาเหมือนกันคือส่วนใหญ่ยอมให้ใช้อุปกรณ์เสริม ซึ่งเป็นสากล ประเด็นที่ว่ามีผลประโยชน์กับอุปกรณ์เสริมขอยืนยันว่าไม่เคยมี และอุปกรณ์เสริมสมัยนี้จะแถมมากับตัวเครื่องอยู่แล้ว ส่วนกรณีใช้เป็นช่องทางเรียกรับเงิน เรียนว่าถ้าตำรวจกระทำผิดจะโดน 2 กระทง คือ เจ้าพนักงานเรียกรับถูกดำเนินคดีอาญา และถูกตั้งกรรมการสอบสวนโทษไล่ออกจากราชการสถานเดียว ส่วนผู้ติดสินบน ก็ผิดข้อหาให้สินบนด้วย ฉะนั้นคนที่ไม่ดีสองคนที่มาเจอกันเราต้องช่วยกันกำจัด ถ้าเจอตำรวจเช่นนี้ขอให้จดชื่อมารายงานผู้บังคับบัญชา
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1408 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 พ.ค. 51
เวลา 10:31:32
|