• จับโมเดลลิ่งเก๊ ลวงสาวม.6 ทำอนาจาร-ฉกทรัพย์ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 08 พ.ค. 51 เวลา 10:20:27 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จับโมเดลลิ่งเก๊ ลวงสาวม.6 ทำอนาจาร-ฉกทรัพย์
ตำรวจ ปดส. ซ้อนแผนรวบหนุ่มอ้างเป็นโมเดลลิ่งลวงสาว ม.6 เข้าโรงแรมม่านรูดทำอนาจาร-ฉกทรัพย์ เหยื่อสาวเผย เดินผ่านป้ายรถเมล์ย่านอนุสาวรีย์ชัยแล้วถูกหนุ่มอ้างเป็นโมเดลลิ่งแตะไหล่ ก่อนจะรู้สึกสลึมสลือ แล้วถูกพาขึ้นรถแท็กซี่เข้าโรงแรมอ้างเทสต์หน้ากล้องพร้อมเรียกเงินค่า สมัครเรียนวิธีบริหารกาย 250 บาท ด้านเจ้าตัวยังปากแข็งให้การปฏิเสธ ยันเป็นโมเดลลิ่งอิสระ ปั้นเป็นดาราดังมาแล้วหลายราย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส.พร้อมด้วยพ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบก.ปดส.,พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.ฝป.10 บก.ปดส.,พ.ต.ท.กิตติภพ อนุวงศ์วรเวทย์ สว.ฝป.10 บก.ปดส.ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายธรรมณัฐราช ยันสุวิมล หรือชิงโง อายุ 33 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.ลาดพร้าว 55 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1610/2551 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 ข้อหาพรากผู้เยาว์ไปเพื่อกระทำอนาจารและลักทรัพย์ โดยจับกุมได้บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ปกครองของน.ส.นุ้ย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งเข้าร้องทุกข์กับผบก.ปดส.ว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะน.ส.นุ้ยไปเรียนกวดวิชาที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ฯเดินผ่านป้ายรถประจำทาง
ระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่ง รูปร่างสูง ผิวขาว อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมหมวกแก๊ป เดินเข้ามาใช้มือแตะไหล่พร้อมกับอ้างว่าชื่อ ชิงโง เป็นแมวมองหานางแบบส่งสังกัดต่าง ๆ โดยก่อนหน้านี้ได้ปั้นหญิงสาวให้โด่งดังมาแล้วหลายคน เห็นว่า น.ส.นุ้ยหน้าตาดีจึงอยากปั้นให้เป็นดารานางแบบ
น.ส.นุ้ยให้การว่า ระหว่างที่ฟังนายชิงโงพูดชักชวนอยู่นั้นก็มีอาการมึนงงเหมือนจะควบคุมตัว เองไม่ได้ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร และก็เดินตามนายชิงโงไปนั่งคุยต่อในห้างท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้กัน นายชิงโงได้แนะนำว่าให้หายใจลึก ๆ ทำหลาย ๆ ครั้งเพื่อสร้างมั่นใจให้ตัวเองจากนั้นก็เริ่มวิจารณ์รูปร่างว่าต้องปรับปรุง
แก้ไขส่วนใดบ้างเพื่อให้รูปร่างสมส่วนมากขึ้น นายชิงโงยังอ้างว่ามีวิธีบริหารสัดส่วนสำหรับนักแสดงโดยเฉพาะ และจะพาไปเทสท์หน้ากล้อง แต่จะต้องจ่ายเงินเป็นค่าสมัครเพื่อเรียนวิธีบริการร่างกายก่อนจำนวน 350 บาท แต่สำหรับตนจะเก็บเพียง 250 บาท
น.ส.นุ้ยให้การอีกว่า หลังจากจ่ายเงินให้แล้ว นายชิงโงได้พาขึ้นรถแท็กซี่อ้างว่าจะพาไปเทสท์หน้ากล้องภายในโรงแรม 28 ย่าน ถ.วิสุทธิกษัตริย์ ขณะนั้นแทบไม่มีโอกาสปฏิเสธเพราะนายชิงโงพูดจาหว่านล้อมต่าง ๆ นานาจนต้องเออออตาม เมื่อเข้าไปในห้องพักโรงแรม นายชิงโงได้สั่งให้ตนถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อขอดูสัดส่วน
จากนั้นนายชิงโงก็ตรวจดูสัดส่วนโดยลูบคลำสัดส่วนต่าง ๆ แม้กระทั่งของสงวน หลังจากตรวจสัดส่วนแล้วได้สั่งให้นอนลงบนเตียงแล้วหลับตา แต่ระหว่างนั้นพี่สาวตนโทรศัพท์เข้ามา แต่นายชิงโงห้ามไม่ให้รับและให้ปิดโทรศัพท์มือถือ แต่พี่สาวก็ยังโทร.เข้ามาอีกหลายครั้ง จึงกลัวว่าพี่สาวจะโกรธที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงร้องไห้
สาวนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 เล่าต่อว่า เมื่อนายชิงโงเห็นว่าร้องไห้อยู่นานจึงหงุดหงิดอารมณ์เสีย บอกว่าถ้าอย่างนั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วให้แต่งตัวก่อนจะพาขึ้นรถแท็กซี่กลับมาส่งที่อนุสาวรีย์ชัยฯโดยนายชิง โงบอกว่าจะติดต่อกลับมา
ภายหลังตั้งสติได้แล้วตนตรวจสอบทรัพย์สินดูพบว่าเงินสดในกระเป๋า หายไปจำนวน 2,000 บาท เชื่อว่านายชิงโงน่าจะเป็นคนขโมยไปขณะที่อยู่ในโรงแรม เมื่อกลับมาบ้านแล้วผู้ปกครองซักถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงเล่าเรื่องที่ เกิดทั้งหมดให้ฟัง เชื่อว่านายชิงโงอาจใช้ยากล่อมประสาทบางชนิดที่คนร้ายนิยมใช้ป้ายหรือแตะ ตัวเหยื่อจนทำให้รู้สึกมึนงงควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนที่เคยเป็นข่าว จึงรีบพาตัวเด็กผู้เสียหายตัวเข้าแจ้งความ
ภายหลังรับเรื่องร้องเรียนแล้ว พล.ต.ต.วิมลได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ฝป.10 รีบทำการสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้เนื่องจากพฤติกรรมเป็นภัยต่อ สังคม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้างที่เกิดเหตุ พบภาพผู้ต้องสงสัยหลายราย เมื่อนำมาให้ผู้เสียหายดูจึงยืนยันว่าเป็นนายธรรมณัฐราชจึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนขออนุมัติออกหมายจับกุม จากนั้นได้ซ้อนแผนด้วยการให้ผู้เสียหายโทรศัพท์นัดให้ผู้ต้องหามาพบแล้ว เข้าทำการจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นจากการตรวจค้นกระเป๋าของผู้ต้องหา พบอัลบั้มภาพหนุ่มสาวหน้าตาดีหลายราย พร้อมทั้งกระดาษภาพวาดสัดส่วนของดารา นางแบบชื่อดังซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคนปั้นให้โด่งดัง รวมทั้งวิธีการลดสัดส่วนด้วยการบริหารร่างกายแบบแปลก ๆ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ขณะจับกุมตำรวจยังพบวัยรุ่นสาวอายุ 20 ปีคนหนึ่งมาพร้อมกับผู้ต้องหาด้วยจึง แจ้งพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ให้ทราบ
สอบสวนนายธรรมณัฐราชอ้างว่า มีอาชีพเป็นโมเดลลิ่งอิสระ ทำหน้าที่เป็นแมวมองหานายแบบ นางแบบ เพื่อส่งให้บริษัทโมเดลลิ่งใหญ่อีกทอดหนึ่ง เมื่อ 7 ปีที่แล้วเคยทำงานอยู่กับบริษัทโมเดลลิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ภายหลังได้แยกตัวออกมาทำเองแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และตกต่ำเรื่อยมาจนตอนนี้ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งต้องไปเช่าห้องอยู่เป็นรายสัปดาห์
นายธรรมณัฐราชยังอ้างอีกว่า ส่วนใหญ่คอยมองหาเด็กวัยรุ่นที่อยากเข้าวงการ ย่านสยามสแควร์ แต่เคยมีปัญหากับตำรวจท้องที่ทำให้เสียชื่อจึงย้ายมาหาวัยรุ่นย่าน อนุสาวรีย์ชัยฯแทน เมื่อเจอเด็กหน้าตาดีก็จะเข้าไปพูดคุยแนะนำตัว ถ้าเด็กสนใจก็จะพาตัวไปเทสท์หน้ากล้องที่โรงแรม แต่เนื่องจากไม่มีค่อยมีเงินจึงต้องเลือกใช้สถานที่ของโรงแรมราคาถูกแทนและ ให้คนที่ตนชวนมาออกเงินให้
"เวลาชวนเด็ก ๆ ไม่มีตัวยาใด ๆ ที่ใช้ป้ายเพื่อทำให้เด็กหลงเชื่อหรือคุมสติไม่ได้ มีแต่พูดชักชวนและนำภาพนายแบบนางแบบที่เคยชวนเข้าวงการมาให้ดูเท่านั้น ส่วนการที่ต้องให้ถอดเสื้อผ้านั้นก็เพื่อจะได้มองเห็นสัดส่วน กล้ามเนื้อให้ชัดเจน
เพื่อที่จะได้แนะนำเรื่องการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อในส่วนที่ บกพร่องกระชับมากขึ้น ขอปฏิเสธว่าไม่เคยทำการอนาจารใด ๆ ส่วนรายของผู้เสีหายรายนี้ก็เป็นไปตามขั้นทุกอย่างคือต้องพาไปเทสท์หน้า กล้องเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้ล่วงเกินใด ๆ ส่วนเงินที่หายก็ไม่ได้เอาไป"นายธรรมณัฐราชกล่าว
นายธรรมณัฐราชยังกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเคยปั้นหนุ่มสาวให้โด่งดังมาแล้วหลายราย
แต่เมื่อถูกถามว่ามีเป็นใครบ้าง นายธรรมณัฐราชก็ไม่ยอมตอบ บอกแต่เพียงว่ากลัวเขาจะเสื่อมเสียชื่อเสียง จากนั้นนายธรรมณัฐราชได้แสดงท่ากายบริหารให้ใบหน้าเล็ก-ใหญ่ด้วยวิธีการแปลก ๆ คือฉีกปากกว้างเพื่อให้หน้าใหญ่ และหยีตาห่อปากเพื่อให้หน้าเล็ก โดยให้ทำจนกว่าจะเมื่อยกล้ามเนื้อ และทำให้ติดต่อกันไม่เกิน 2 สัปดาห์จะได้ผล
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนไม่เชื่อในคำให้การผู้ต้องหา และเชื่อว่าว่าน่าจะมีผู้เสียหายหลายรายที่เคยตกเป็นหยื่อของผู้ต้องหามา แล้ว ซึ่งได้สอบสวนขยายผลการดำเนินคดีต่อไป
ด้านพล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขอให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นทั่วไปว่าอย่าไปหลงเชื่อคนแปลกหน้า ง่าย ๆ ขอให้เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ปกครอง สำหรับยาประเภทดังกล่าวจะมีจริงหรือไม่ยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ขอให้ระมัดระวังตัวเองให้มากเพราะไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตามถือว่าเป็นภัยต่อผู้หญิง
ส่วนผู้ต้องหารายนี้เชื่อว่าน่าจะเคยกระทำความผิดทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่มีเสียหายเข้าแจ้งความ ดังนั้น หากมีผู้เสียหายหลายใดที่เคยตกเป็นเหยื่อก็ขอให้ติดต่อขอเข้าแจ้งความได้ บก.ปดส.
ที่มาจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1940 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 08 พ.ค. 51
เวลา 10:20:27
|