ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผู้ป่วยเอดส์ในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย แรงงานต่างชาติและวัยรุ่น สำนักระบาดวิทยาเผยเพิ่มเด็กม.ต้นก็เริ่มมีเพศสัมพันธ์และแนวโน้มใช้ถุงยางน้อยลงโอกาสเสี่ยงเพิ่มสูง ไม่เว้นสาวบริการก็ไม่นิยมใช้แล้ว
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.51 นายแพทย์สุรสิงห์ วิศรุตม์รัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคเอดส์ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตั้งแต่ปี 2531 ถึง 31 มีนาคม 2551 ว่า ในเชียงใหม่นั้นมีผู้ป่วยเอดส์จำนวน 21,941 คน เสียชีวิตแล้ว 5,145 คน เป็นเพศชาย 15,118 คน หญิง 6,823 คน โดยอัตราส่วนระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงคือ 7 ต่อ 1 และลดลงเหลือ 1 ต่อ 1 ในปี 2546 แต่ในปี 2549 และ 2550 กลับมีแนวโน้มในเพศชายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยแรงงานอายุ 25-39 ปี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง
ในขณะที่กลุ่มที่เป็นรองลงมาคือเกษตรกรรม และค้าขาย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รองลงมาคือติดเชื้อจากมารดา ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดและรับเลือด อัตราการป่วยต่อแสนประชากรจังหวัดเชียงใหม่ปี 2550 เท่ากับ 30.84 โดยกลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดยังเป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มชายรักชายและกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชายนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นจากเดิมเฉลี่ยร้อยละ 15 ปัจจุบันเป็นร้อยละ 17
ในจังหวัดเชียงใหม่นั้นอำเภอที่มีอัตราการป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2550 คือ อำเภอแม่ริม หางดง สันกำแพง เวียงแหงและสันทราย ซึ่งการดำเนินการป้องกันกระทำในเชิงรุกมากขึ้นอีกและให้ตระหนักว่า เอดส์ยังอันตรายไม่ใช่ข่าวไม่ค่อยมีเหมือนอดีตก็ไม่ได้หมายความว่าจะลดความอันตรายลงเพราะยังไม่มีการรักษาที่หายขาด และกลุ่มที่ติดเชื้อที่ไม่ปรากฏก็มีอีกมากเท่าตัวที่มีการรายงานหรือรับการรักษา อย่างไรก็ตามพบว่า ระยะหลัง ประชาชนเริ่มไม่กลัวเอดส์และขาดการป้องกันเพิ่มขึ้น จึงมีแนวโน้มในการระบาดที่ง่ายและทวีความรุนแรงขึ้นอีกได้
ขณะเดียวกันข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ที่ได้เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอดส์ ในกลุ่มนักเรียน ม.2 จำนวน 18,802 คน พบว่า นักเรียนชายร้อยละ 3 และนักเรียนหญิงร้อยละ 2 เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว อายุเฉลี่ยการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 13 ปี ขณะที่กลุ่มนักเรียน ม.5 สำรวจ 16,104 คน พบนักเรียนชายร้อยละ 21 และนักเรียนหญิงร้อยละ 13 เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว โดยส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือคู่รักและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือคู่รัก ในกลุ่ม ม.2 ชายใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 50 หญิงใช้ร้อยละ 25 ส่วนกลุ่ม ม.5 ชายใช้ร้อยละ 25 หญิงใช้ร้อยละ 20 ส่วนการใช้ถุงยางอนามัยกับหญิงขายบริการพบประมาณร้อยละ 50-60 เท่านั้น และมีแนวโน้มลดลง
ในกลุ่มนักเรียน ปวช. ปีที่ 2 จำนวน 16,692 คน พบชายมีเพศสัมพันธ์แล้วร้อยละ 40 หญิงร้อยละ 28 อายุเฉลี่ยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 15 - 16 ปี โดยนักเรียนหญิงส่วนใหญ่ร้อยละ 96 มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับแฟนหรือคู่รัก ที่สำคัญพบว่าการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มนี้ต่ำมาก โดยชายใช้กับแฟนหรือคู่รัก ร้อยละ 23 ใช้กับหญิงขายบริการ ร้อยละ 63 ใช้กับคนรู้จักผิวเผิน ร้อยละ 54 และใช้กับเพศเดียวกัน ร้อยละ 50 ส่วนหญิงใช้กับแฟนหรือคู่รัก ร้อยละ 15 และใช้กับคนรู้จักผิวเผิน ร้อยละ 34.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|