กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
โจ๋ไทยติด"ที่สุดในโลก"คู่นอนมากกว่า1
โจ๋ไทยติด"ที่สุดในโลก"คู่นอนมากกว่า1
นักวิชาการชี้ 3 ปัจจัย ยาเสพติด-วัฒนธรรมการใช้ชีวิต-พื้นที่เสี่ยง ทำโจ๋ไทย "ช็อปไว ใช้แหลก แดกด่วน รักเซ็กส์" เผยสังคมไทยมีแหล่งมั่วสุมที่มอมเมาวัยรุ่นมากเกินไป ระบุปัญหาเยาวชนไทยสุกงอมจนยากเยียวยา เตือนหากรัฐไม่ให้ความสนใจพังแน่ ขณะที่ "ครูยุ่น" เห็นแย้งอัดงานวิจัยเรื่องเด็กไม่มีเรื่องดีบ้างหรือ จวกผู้ใหญ่อย่าโทษเด็ก แนะให้ย้อนดูตนเองเป็นต้นแบบทำตัวไม่ดีจนเด็กเลียนแบบหรือไม่
จาก ปัญหาวัยรุ่นไทยในยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับภาวะกดดันต่างๆ ทั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และครอบครัว จนทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมีพฤติกรรมค่อนข้างเสี่ยงต่อการใช้ชีวิตใน ลักษณะช็อบไว ใช้แหลก แดกด่วน โดยเฉพาะพฤติกรรมในเรื่องเพศถึงกับมีผลวิจัยจากนักวิชการออกมาระบุว่า
วัยรุ่นไทยติดอันดับหนึ่งของโลกในเรื่องเปลี่ยนคู่นอนมากกว่า 1 คนมากที่สุด และยังไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัยในการเสียตัวครั้งแรกเป็นอันดับหนึ่งของโลก เช่นกัน ล่าสุดได้มีกลุ่มนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาอาชีพออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดัง กล่าว
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นายสมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเพื่อเด็กด้อยโอกาสคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เด็กในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งอยู่ในชนชั้นกลางมีแนวโน้มตกอยู่ในวังวนวัฒนธรรม ช็อปไว ใช้แหลก แดกด่วน รักเซ็กส์ คลั่งหวย รวยลัด และพนันบอล ทำให้ถอนตัวไม่ขึ้น
โดยพฤติกรรมเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันตั้งแต่การดื่มสุราแล้วลามเข้าไปสู่ อบายมุขอื่นๆ เช่น เที่ยวกลางคืน และถ่ายคลิปสยิว โดยเด็กในกรุงเทพฯ เป็นต้นแบบของเด็กที่มีปัญหาทั่วประเทศ
"สาเหตุที่เด็กกรุงเทพฯ เข้าสู่วังวนแห่งปัญหามีอยู่ 3 ปัจจัย คือ 1.กรุงเทพฯ มีพื้นที่เสี่ยง 3 ใน 4 ส่วน ขณะที่พื้นที่ดีๆ เช่น ลานกีฬา ลานกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กแสดงออกลดน้อยลง
2.วัฒนธรรมการใช้ชีวิตกลางคืนตั้งแต่เวลาสี่ทุ่มถึงตีสองไม่มีผู้ใหญ่ดูแล ทำให้เด็กมีอิสระที่จะทำตามใจ และ 3.ปัญหายาเสพติด ที่นำเด็กเข้าสู่วังวนของการมั่วยาบ้า เซ็กส์" นายสมพงษ์กล่าว
นายสมพงษ์กล่าวด้วยว่า ปัญหาเด็กและเยาวชนของไทยสุกงอม ทำให้ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาขาดองค์กรที่จะเข้ามาทำงานดูแลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อีกทั้งการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนอยู่ในโครงสร้างของระบบราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างคนต่างทำงาน
ดังนั้นหากปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่แก้ไข เชื่อว่าอีกประมาณ 10 ปี จะไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว ดังนั้นวิธีการที่พอจะแก้ปัญหาได้ คือต้องดึงหน่วยงานภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำงาน เพื่อพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยต้องจัดพื้นที่ไว้ให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสแสดงออก เพราะจากการสำรวจพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 1,500 ชุมชน พบว่าปัจจุบันทุกชุมชนไม่มีพื้นที่จัดกิจกรรมให้เยาวชนแสดงออก เนื่องจากขาดผู้นำที่สร้างสรรค์ทำให้ชุมชนอ่อนแอ
ด้าน นพ.พนิตย์ จิระนันทประวัติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช กล่าวว่า มีความเป็นห่วงเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมส่ำส่อนทางเพศ โดยเฉพาะในรายที่ไม่สวมถุงยางอนามัย เพราะคนกลุ่มนี้มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้สูง ซึ่งจากสถิติล่าสุดพบว่า ขณะนี้ผู้ป่วยโรคเอดส์อยู่ในวัยเยาวชนมากขึ้น จึงเป็นปัญหาที่น่าห่วงมากในเรื่องนี้
ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาหัวหน้าศูนย์ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้เด็กและเยาวชนเกิดปัญหามากที่สุด คือปัจจุบันในสังคมไทยมีแหล่งมั่วสุมเยอะมากทั้งผับ บาร์ อาบ อบ นวด
แม้กระทั่งร้านอาหารยังมีแหล่งให้เด็กมั่วสุม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้เด็กมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้สูง ดังนั้นจึงสามารถพูดได้เลยว่า หากเด็กและเยาวชนคนใดที่ออกจากบ้านหลังสี่ทุ่มเข้าไปในสถานที่เหล่านี้แทบ จะหาดีไม่ได้ เพราะสถานที่เหล่านี้มีสิ่งมอมเมาทุกรูปแบบ ทั้งเหล้า ยาเสพติด และการมั่วเซ็กส์
ดร.วัลลภกล่าวต่อว่า เด็กปัจจุบันมีค่านิยมที่ผิดเพี้ยน เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ โดยเฉพาะในเพศหญิงมีพฤติกรรมที่กล้ามากขึ้นในเรื่องเซ็กส์ ถึงขนาดล่าผู้ชาย ทำแต้มแข่งกัน และมีพฤติกรรมชอบเที่ยวในแหล่งอบายมุขมากกว่าผู้ชาย ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะทุกวันนี้เจอหน้าแค่วันเดียวก็สามารถหลับนอนกันได้แล้ว
ขณะที่นายมนตรี สินธวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวว่า งานวิจัยเรื่องเด็กในสังคมไทยไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็วนอยู่กับประเด็นเดิมๆ ไม่ฟุ่มเฟือยก็ติดยา ติดเซ็กส์ มีพฤติกรรมรุนแรง เล่นการพนัน ทำแท้ง ติดโรคเอดส์ เปลี่ยนคู่นอน ไม่เห็นมีเรื่องดีๆ ดังนั้นจึงอยากย้อนถามหน่อยว่า ทุกวันนี้เด็กไทยไม่มีดีเลยหรือ
เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็กกล่าวด้วยว่า อยากถามว่าข้อมูลที่ไปกล่าวหาเด็กว่าชั่ว ไม่ดีนั้น พฤติกรรมที่ว่านั้นผู้ใหญ่ไม่ได้ทำหรือ ทั้งเรื่องการพนัน เรื่องเซ็กส์ เรื่องแต่งตัวโป๊ เรื่องยาเสพติด จึงถือได้ว่าผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ไปหาผลประโยชน์จากเด็ก ขณะนี้เชื่อหรือไม่ว่า มีผู้ใหญ่บางคนจ้องที่ล่าเด็กอยู่
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานวิจัยประเภทนี้ เพราะยิ่งเผยแพร่บ่อยครั้งก็เป็นการตอกย้ำให้เด็กเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เด็กที่ดีๆ เห็นข้อมูลเหล่านี้บ่อยๆ อาจเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน ทำให้เด็กที่ดีอาจเอาอย่าง จะวุ่นวายไปกันใหญ่ ที่สำคัญผู้ใหญ่ก็จะเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อเด็ก
นายมนตรีกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเด็กกำลังถูกรุมเร้าด้วยผู้ใหญ่ กำลังถูกผู้ใหญ่พิพากษาว่าไม่ดี ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่อยู่ที่ตัวเด็ก ตัวอย่างเช่น เด็กที่เข้ามาเช่าหอพักอยู่ในเมืองใหญ่ๆ หากมีสถานศึกษาใกล้บ้านก็คงไม่อยากจากมาอยู่ไกลครอบครัว แฟชั่นแต่งตัวโป๊ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ไม่ใช่ผู้ใหญ่หรือที่นำเข้ามาจำหน่ายโดยเลือกเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ยาเสพติดก็จ้องขายเด็ก ทำไมจึงไม่คิดที่จะศึกษาวิจัยงานประเภทนี้บ้าง ดังนั้นจึงอยากให้สังคมลองคิดดูว่างานวิจัยประเภทนี้ที่ผ่านมาใครได้ใครเสีย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน สถาบันรามจิตติ นำโดยนายอมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบัน สำรวจสถานการณ์เด็กและเยาวชน ภาพสะท้อนสังคมไทย และนัยต่อทิศทางการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยพบว่าเยาวชนในปัจจุบันยังคงเผชิญกับวิกฤติชีวิตอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง
เนื่องจากสถานการณ์สังคม เศรษฐกิจและการเมืองที่ตึงเครียด จึงมีแนวโน้มทำให้เยาวชนหันไปทำพฤติกรรมเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดฆ่าตัวตายของวัยรุ่นพุ่งไม่ยอมหยุด อีกทั้งผู้ที่ฆ่าตัวตายยังมีอายุต่ำลงทุกขณะ
นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์ ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สถานการณ์ของเด็กไทยสามารถแบ่งได้เป็น 5 มิติ คือ 1.มิติศาสนาและครอบครัว พบว่า เด็กจำนวนประมาณ 37.3% จะอยู่ในความดูแลของปู่ย่าตายาย ในชนบทมีครัวเรือนที่คนหนุ่มสาวอพยพไปทำงานในเมืองเป็นจำนวนมาก ทิ้งเด็กและผู้สูงอายุให้อยู่ที่บ้าน ในขณะเดียวกันมีเด็กกำพร้า หรือเด็กที่อยู่กันตามลำพังสูงถึง 8.2%
"จากการสำรวจผู้ปกครอง 1,066 ครอบครัวใน กทม. พบว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่ทำงานวันละ 7-9 ชั่วโมง พ่อแม่ 43% รู้สึกห่างเหินกับลูกเนื่องจากในแต่ละวันมีเวลาทำกิจกรรมร่วมกับลูกเพียง 1-3 ชั่วโมง
ในแง่ของเด็กเองก็รู้สึกห่างเหินพ่อแม่มากขึ้นด้วย จากงานวิจัยชิลด์ วอทช์ ของ สกว. พบว่า ร้อยละ 40 ของเด็กมัธยมปลายอาชีวะและอุดมศึกษาระบุว่า ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับพ่อแม่เลยในรอบ 1 เดือน" นายอรุณฉัตรระบุ
ประธานสภาเยาวชน กทม. ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบเด็กไทยแปลกแยกจากศาสนา สัญญาณสังคมไร้ศรัทธา กลุ่มวัยรุ่นโดยรวมร้อยละ 60 ใช้ชีวิตตามห้างสรรพสินค้า ดูภาพยนตร์ มีมือถือในครอบครอง นิยมอาหารแดกด่วน และใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อพูดคุยและเล่นเกม รวมไปถึงร้อยละ 45 ไม่ไปทำบุญตักบาตร และร้อยละ 65 ไม่เคยฟังพระเทศน์เลยในรอบ 1 เดือน
นาย อรุณฉัตรกล่าวต่อว่า มิติ 2.เป็นมิติ กิน ดื่ม ช็อป พบว่า เด็กไทยมีวัฒนธรรมช็อปไว ใช้แหลก แดกด่วน โดยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาวัยรุ่นชาย-หญิงร้อยละ 52.2 นิยมซื้อโทรศัพท์มือถือมากที่สุด เฉลี่ยราคาแพงที่สุดที่ซื้อคือ 10,931 บาท ตามด้วยการซื้อเสื้อผ้า ร้อยละ 33.5 เฉลี่ยราคา 1,677 บาท ซื้อรองเท้าร้อยละ 31.8 เฉลี่ยราคา 1,938 บาท
ตามด้วยกระเป๋าสตางค์ เฉลี่ยราคา 1,721 บาท นาฬิกา เฉลี่ยราคา 9,130 บาท น้ำหอม เฉลี่ยราคา 2,375 บาท เครื่องสำอาง เฉลี่ยราคา 1,695 บาท กระเป๋าถือ เฉลี่ยราคา 4,530 บาท และเครื่องประดับ 4,652 บาท ตามลำดับ (ผลสำรวจสำนักวิจัยเอแบคโพลล์เรื่องการใช้สินค้าแบรนด์เนมของนิสิต นักศึกษา)
“วัยรุ่นร้อยละ 13.1 พยายามทำงานหารายได้พิเศษมาเพื่อซื้อของ ร้อยละ 8.9 นำมาจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา และที่น่าวิตกก็คือร้อยละ 0.8 ของวัยรุ่นดิ้นรนหาเงินซื้อสินค้าโดยอาศัยจากผู้เลี้ยงดู
กู้ยืมเงินนอกระบบ เปิดโต๊ะพนันบอลและเล่นการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่มีรายรับน้อยกว่ารายจ่ายจะหาทางออกในลักษณะนี้รวม ไปถึงการขโมยเงินพ่อแม่ผู้ปกครอง” นายอรุณฉัตรกล่าว
มิติ 3.ประธานสภาเยาวชนกทม. กล่าวว่า คือเสรีภาพและแสดงออกทางเพศ พบว่า วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกที่อายุเฉลี่ยประมาณ 14-18 ปี และมีกับเพื่อนหรือคู่รักมากกว่าหญิงบริการทางเพศ ในกลุ่มคนโสดมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานในอัตราเพิ่มมากขึ้น
เยาวชนหญิงในเขตเมืองเกือบครึ่งหนึ่งมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน วัยรุ่นชายหญิงปัจจุบันเชื่อว่าชายหญิงส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์กันก่อนแต่ง งานมากขึ้น วัยรุ่นหญิงยอมรับแนวคิดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานมากขึ้น มีแนวโน้มว่าวัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุน้อยลงเรื่อยๆ
หาก จัดอันดับวัยรุ่นไทยครองแชมป์ในเรื่องเพศจะได้ดังต่อไปนี้ ยอมรับการมีคู่นอนมากกว่า 1 คน ค่าเฉลี่ย "สูงที่สุดในโลก" คือมีร้อยละ 52 (ค่าเฉลี่ยทั่วโลกคือ ร้อยละ 34) เริ่มเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา "ช้าที่สุดในโลก" คือเมื่ออายุ 13.5 ปี (ค่าเฉลี่ยทั่วโลกคือ 12.2 ปี) ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเซ็กส์ครั้งแรก "น้อยที่สุดในโลก" เพียงร้อยละ 23 (ค่าเฉลี่ยทั่วโลกคือ ร้อยละ 57) พ่อแม่ไทยมีบทบาทในการสอนเรื่องเพศแก่ลูก "น้อยที่สุดในโลก" คือร้อยละ 1 เท่านั้น (ค่าเฉลี่ยทั่วโลกร้อยละ 12)
นาย อรุณฉัตรยังกล่าวเพิ่มเติมถึงมิติ 4.ว่าเป็นมิติรวยลัดวัดดวง พบว่าเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันคลั่งหวย รวยลัด วัดดวง โดยเด็กวัยรุ่นช่วงมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาอยู่ในวงจรการพนันบอลถึง 4-5 แสนคนหรือราวร้อยละ 5 ของประชากรในกลุ่มอายุ และคิดเป็นร้อยละ 25 ของผู้ที่อยู่ในวงจรการพนันบอลทั้งหมด
จากการสำรวจปี 2544 พบว่าเศรษฐกิจการพนัน มีวงเงินรวมระหว่าง 1.52-1.82 ล้านล้านบาท ทำให้ประชาชนผู้เล่นการพนันต้องเสียรายได้ 3.53-4.15 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7-8 ของจีดีพี
โดยหวยใต้ดินมีผู้นิยมเล่นมากที่สุด 23,700,000 คน รองลงมาคือ ฟุตบอล 11,995,000 คน ผลงานวิจัยระบุอีกว่าเฉพาะตัวเลขของประชาชนที่ต้องสูญเสียให้แก่การพนัน ฟุตบอลอยู่ระหว่าง 1.2-1.6 หมื่นล้านบาทต่อปีทีเดียว
ขณะที่ มิติสุดท้ายนั้น ประธานสภาเยาวชน กทม. กล่าวว่า มิติความรุนแรงและรอยร้าวทางวัฒนธรรม สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง แต่ข้อเท็จจริงนี้ไม่เคยถูกเน้นย้ำในระบบการศึกษา เหตุการณ์ความรุนแรงและปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ
ทั้งในหมู่วัยรุ่นและคนไทยโดยรวมชี้ให้เห็น “ความเป็นอื่น” และความไม่เข้าใจกันระหว่างคนไทยร่วมแผ่นดิน ที่อาจนำไปสู่รอยร้าวทางสังคมในอนาคต วิกฤติโลกอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ต่างศาสนาและวัฒนธรรมยิ่งทำให้เห็นความจำเป็นในการเตรียมเด็กรุ่นใหม่ให้ เข้าใจสังคม “หุวัฒนธรรม” อย่างพอเพียง
อย่าไรก็ตามเกี่ยวกับ เรื่องดังกล่าวขอเรียกร้องให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมกันดูแล เยาวชนไทย โดยเน้นที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเด็ก ตลอดจนการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ทำกิจกรรมที่ดีมากกว่าพื้นที่เสีย ทั้งนี้ในวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 16.00 น. จะมีการจัดสนทนาระดมความคิดเห็นของเยาวชน "พื้นที่สร้างสรรค์ของคนวัยมันส์" ที่เอไอเอส ฟิวเจอร์ เวิลด์ ชั้น 4 สยามพารากอน
โดยตั้งความหวังไว้ว่า เราจะได้ข้อสรุปที่เด่นชัดถึงความต้องการของเยาวชน ต่อพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้หันมาจัดทำ และให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติมากกว่าเดิม แทนที่จะมัวแต่ทะเลาะ แย่งชิงผลประโยชน์กัน จนลืมไปว่า อนาคต ความสำคัญของเยาวชนไทยนั้น ก็ถูกตราไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นกัน
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
