ในหลวง ทรงเมตตา สร้างบ้านให้ ยาย - หลานยากไร้
ในหลวงพระราชทานบ้านให้ 2 ยายหลานหลังเขียนหนังสือถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย และค่าครองชีพ กระทั่งทรงมีรับสั่งให้สำนักราชเลขาธิการ ประสานงานกับจังหวัดสร้างบ้านให้จนเสร็จเรียบร้อย แถมอีกหลายหน่วยงานมอบทุนการศึกษาให้ด้วย เผยชีวิตทั้งสองยากจนไม่มีบ้าน ต้องอาศัยที่ดินของชาวบ้านปลูกกระต๊อบซุกหัวนอน
พระมหากรุณาธิคุณองค์ในหลวงพระราชทานให้พสกนิกรผู้ยากไร้รายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. นายปรีชา กมลบุตร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งผ่านสำนักราชเลขาธิการ ให้ช่วยเหลือครอบครัวเด็กชาว จ.พระนครศรีอยุธยา คนหนึ่ง หลังเขียนหนังสือทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือในด้านค่าครองชีพ ทุนการศึกษาและที่อยู่อาศัย เนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิต และต้องอยู่กับยายที่ฐานะยากจน
ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า สำหรับเด็กที่ทูลเกล้าฯถวายฎีกา คือ นายเมธาพร จุมพิศ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 7 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายเมธาพรได้เขียนหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือด้วยลายมือตัวเอง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2548 ตอนนายเมธาพร อายุประมาณ 13 ปี ในหนังสือมีข้อความว่า "กระผม ด.ช.เมธาพร จุมพิศ อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.1/2 โรงเรียนประตูชัย บิดาชื่อ นายประสาร จุมพิศ มารดาชื่อ นางอมรรัตน์ จุมพิศ ขณะนี้ทั้งสองได้เสียชีวิตไปแล้ว อาศัยอยู่กับยายชื่อ นางอนงค์ ธารีสืบ อายุ 71 ปี โดยปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินของเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กำลังจะถูกยึด ยายไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในการดำรงชีพ และค่าศึกษา รวมทั้งอาจไม่มีที่อยู่อาศัย จึงขอได้โปรดกรุณาช่วยเหลือกระผมและยายด้วย"
นายปรีชากล่าวอีกว่า หลังความทราบถึงฝ่าพระบาท ได้มีรับสั่งผ่านราชเลขาธิการ ให้ประสานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งช่วยเหลือทันที เริ่มจากสำนักราชเลขาธิการจัดการสร้างบ้านชั้นเดียวให้ ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและอุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา จัดหาที่ดินเปล่าสำหรับสร้างบ้าน บริเวณวัดประดู่เก่า เขตเทศบาลเมืองอโยธยา เนื้อที่ 25 ตารางวา โดยเทศบาลเมืองอโยธยา เป็นผู้ออกค่าเช่า
สำหรับเรื่องการศึกษานั้น ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดสรรหนังสือยืมเรียน และเครื่องเขียน พร้อมให้ทุนการศึกษาปีละ 10,000 บาท และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ให้ทุนการศึกษาอีกปีละ 2,000 บาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 51 ผู้แทนจากสำนักราชเลขาธิการ ได้มาติดตามความคืบหน้าการสร้างบ้าน ตอนนี้ใกล้เสร็จแล้ว
ส่วนนายเมธาพรเปิดเผยว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากองค์ในหลวง ตนพร้อม กับยายขอกราบแทบพระบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ตนจะขอทำความดีถวายในหลวงตลอดชั่วชีวิต ตอนนี้ตนกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ปวช.2 แผนกวิชาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา
ขณะที่นางอนงค์ ธารีสืบ อายุ 74 ปี ยายของนายเมธาพรกล่าวว่า เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อแม่เขาเสียชีวิตไปนานแล้ว ความจำเสื่อม แต่มีความขยันขันแข็ง เดิมมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว แต่ตอนนี้อายุมากเลยขายไม่ไหว แถมไม่มีบ้านอยู่อาศัย เมื่อมาถึงวันนี้บ้านพระราชทานได้สร้างเสร็จแล้ว รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณขององค์ในหลวง ขอให้พระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน และทราบว่าทางจังหวัดจะทำพิธีมอบบ้านให้ในวันที่ 27 มิ.ย. 51 นี้ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ยื่นมือช่วยเหลือด้วย
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด และทางอินเทอร์เน็ต