ลิงก์ผู้สนับสนุน

เปิด 9 ความผิด ปชป.ยื่นซักฟอก สมัคร

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทาอินเทอร์เน็ต

        เมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมมีมติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัคร ด้วยประเด็นฐานความผิดดังนี้ คือ 

        1.นายสมัคร ในฐานะนายกฯ ได้ไปสนองตอบและรับใช้อดีตนักการเมืองผู้สูญเสียประโยชน์ อย่างโจ่งแจ้ง ไม่ใส่ใจต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนในบ้านเมือง การคัดเลือกบุคคลเข้าร่วมรัฐมนตรีไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคการเมืองที่สังกัด และก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารงาน 

        2.ยอมรับให้นำบุคคลที่ไม่มีวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นสมุนรับใช้อดีตนักการเมืองที่สูญเสียงผลประโยชน์เข้าดำรงตำแหน่ง 

        3.บกพร่องอย่างร้ายแรง ที่ปล่อยให้รัฐมนตรีที่ร่วมรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินตามอำเภอใจ ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีความเป็นเอกภาพ ไร้ทิศทาง ขาดความรู้ มัวแต่จะสร้างภาพ จนทำให้การบริหารงานเชิงนโยบายล้มเหลว 

        4.ปล่อยให้มีการใช้ข้าราชการ ที่ยอมตนเป็นพวก แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่ล้างแค้นบุคคล และองค์กร ที่ตนไม่พอใจ ขณะเดียวกันก็ปกป้องพวกพ้อง ทำลายระบบคุณธรรมและจริยธรรมอย่างสิ้นเชิง

        5.แสดงท่าทีปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำความผิดอย่างออกนอกหน้า ในหลายกรณี และไม่ใส่ใจถึงผลกระทบนั้นๆ 

        6.บริหารไปเพียงวันๆ ไม่สนใจแก้ปัญหาวิกฤตที่กระทบต่อปากท้องประชาชน ปล่อยให้ปัญหาลุกลามไปในวงกว้าง และเผชิญสภาวะปัญหาข้าวยาก หมากแพง ราคาสินค้าสูงขึ้น 

        7.ทอดทิ้งและไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง และประชาชนในพื้นที่ยังตกอยู่ในสภาพที่ไร้ความหวัง และมีแนวโน้มจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ

        8.ขณะที่ปัญหาของประเทศบานปลาย และลุกลามกลายเป็นวิกฤตรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่นายกฯ กลับเฉยเมย มองข้ามและมีความรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนื่องจากจะสนองความต้องการผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง โดยการรวบรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยเหลือผู้มีบุญคุณ และลบล้างบทลงโทษในคดีที่พรรคการเมืองของตนได้ทำผิดไว้ในการเลือกตั้ง 

        9.นายกฯแสดงต่อสาธารณะอย่างไร้วุฒิภาวะมีพฤติกรรมภาวะผู้นำบกพร่อง  

        นายองอาจ กล่าวว่า ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอีก 7 คน คือ 

        1.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในข้อหาไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุกด้าน 

        2.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในข้อหาการแก้ปัญหาราคาข้าว และการแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง 

        3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ 4.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในข้อหาการเช่ารถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวีของ ขสมก. ที่ส่อทุจริต 

        5. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีการบริหารบุคคลที่ผิดพลาดและการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางมิชอบ รวมถึงกรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันแปละปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)

        6.นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ข้อหาการบริหารงานที่ผิดพลาดบกพร่อง รวมไปถึงกรณีปราสาทเขาพระวิหาร 

        7.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้อหาไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการแก้ไขปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งใช้อำนาจหน้าที่ออกคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตัดสัญญาณเอเอสทีวี 

        ''มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน ไปยื่นญัตติในวันที่ 18 มิถุนายน ให้กับประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าน่าจะอภิปรายได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญภายในวันที่ 28 มิถุนายน'' นายองอาจกล่าว 

        รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า ที่ประชุมเสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย คือ โดยฝ่ายนายอภิสิทธิ์เห็นว่าควรจะอภิปรายเฉพาะนายสมัครเท่านั้น เพราะเกรงว่าเวลาจะไม่พอ ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค เห็นว่าควรอภิปรายนายกฯและรัฐมนตรีด้วย ที่ประชุมจึงให้ ส.ส.ลงคะแนนเลือก ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นตามนายสุเทพ

ข้อมูลจาก

Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
		VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV