กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อวดเจรจาปราสาทพระวิหาร"ตือ"ชี้คนศรีสะเกษยังกังวลฝ่ายค้านยื่นซักฟอกตามโผ
ส.ว.ไม่อ่อนข้อ นัดประชุมหาช่องสู้ เล็งผนึกฝ่ายค้านล่าชื่อตามม.129 พลิกเกมอภิปรายรัฐบาล “ชัย ชิดชอบ” เด้งเชือกไม่อยู่รับญัตติ “สาทิตย์” สวดรัฐบาลตัดตอนหมกเม็ดปิดสมัยประชุม “องอาจ” โวมีข้อมูลล้วงลึกรอแฉ “สมัคร” ย้อนปชป.ตอนเป็นรัฐบาล 3 ปีทำอะไรบ้าง พอรัฐบาลนี้ลุยทำงานโดนจ้องถล่มแหลก “เฉลิม” ลั่นงานนี้ได้เสีย ส่งดอกกล้วยไม้ขอบคุณปชป.ที่ให้เกียรติ “ทรงศักดิ์” พร้อมไขปมคาใจรถเมล์เอ็นจีวี ปัดร่างทรง “เนวิน” ส่วน “หนูนา” หนุนเล่นตามกติกา เห็นด้วยเช่าราคาแพงเกินไป “นพดล” อวดฝีมือเจรจาเคลีย์ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร ลั่นตารางมิลลิเมตรเดียวก็ไม่เสียให้ใคร โอ่ผลงานเจรจาต้องได้รับดอกไม้ตอบแทนไม่ใช่ก้อนหิน ป้อง “ทักษิณ” ไม่เกี่ยว “ตือ” เผยคนศรีสะเกษยังกังวล “จตุพร” เดิมพันถ้าพลาดไม่ต้องถึงมือฝ่ายค้าน พปช.จัดการเอง
♦ “ชัย”ชิ่งรับญัตติไม่ไว้วางใจ
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่รัฐสภา เวลา 10.30 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยสมาชิกพรรคประมาณ 10 คน เข้ายื่นญัตติทั่วไปเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและ รมว.คลัง 2.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ 3.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย 4.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม 5.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว. คมนาคม 6.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม และ 7.นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ
โดยทั้งหมดบริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ผิดพลาดล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรมจริยธรรม ขัดหลักนิติธรรม ใช้อำนาจหน้าที่บีบบังคับข้าราชการ กลั่นแกล้งบุคคลอื่นเพื่อมุ่งสนองตอบผู้มีพระคุณในทาง การเมืองส่วนตน ละเลยผลประโยชน์จนเกิดความเสียหายแก่ชาติอย่างรุนแรงมีการแสวงหาประโยชน์โดย มิชอบ จึงไม่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกต่อไป ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นผู้รับญัตติ เนื่องจากนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ไม่ได้มารับหนังสือด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าติดภารกิจ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสภา
♦ ปชป.สวดรัฐบาลตัดตอน
ภายหลังการยื่นญัตติ นายสาทิตย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า รัฐบาลใช้วิธีการเอารัดเอาเปรียบด้วยการชิงปิดประชุมสมัยวิสามัญ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลปิดกั้นไม่ยอมรับกระบวนการตรวจสอบในรัฐสภา ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯระบุว่ามีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุม แล้วแต่กลับเพิ่งมีมติปิดสมัยประชุม ถือว่ารัฐบาลโกหก ถ้าไม่สามารถเปิดอภิปรายในตอนนี้ได้ก็จะทิ้งช่วงไปในเดือนก.พ. ก็จะทำให้ประเทศชาติเสียหายมากยิ่งขึ้น ยืนยันว่าแม้จะมีการชิงปิดสภาไปแล้วญัตตินี้ก็ไม่ตกไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ระบุไว้ว่า หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว รัฐบาลจะยุบสภาหนีไม่ได้
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญได้อีกครั้ง โดยอาจจะเปิดในช่วงเดือนก.ค.ก็ได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอำนาจของรัฐบาล ไม่ใช่มาตัดตอนกันอย่างนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเกลียดที่สุด ทำอย่างนี้เหมือนปิดฝาหม้อไฟที่กำลังจะระเบิดทั้งประเทศ ตอนนี้ซากระบอบทักษิณ ยังอยู่ ตนถึงได้กระตุ้นเตือนนายชัยตั้งแต่แรกเข้ามารับตำแหน่งนี้ว่าอย่าให้ฝ่าย บริหารครอบงำ กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ อย่าให้เป็นสภาลูกกรอก ถ้าทำอย่างนี้จะถือเป็นรัฐบาลแรกที่ปิดสภาหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยุคนี้ต้องแสดงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เช่นนั้นการทำงานในระบบรัฐสภาจะเป็นเพียงแต่พิธีกรรม
♦ อวดข้อมูลล้วงลึกรอแฉ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ฝ่าย ค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ สามารถใช้เวลาช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ได้ โดยรมต.ที่มีชื่อถูกอภิปรายก็มั่นใจว่าจะตอบคำถามของฝ่ายค้านได้ ดังนั้นควรรีบบรรจุลงในวาระการประชุมสภาให้ทันในสมัยประชุมนี้ ทั้งนี้การที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนดูถูกข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า หน่อมแน้มนั้น ตนอยากฝากบอก ส.ส.พรรคพลังประชาชนว่าให้รอดูข้อมูลว่าลึกขนาดไหน ขนาดไปพบกันที่โรงแรมไหนคุยเรื่องบริหารประเทศอย่างไร เรายังรู้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะนำไปพูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หวังผลว่าการอภิปรายจะถึงขั้นให้ครม.มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ตนอยากตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจครม.ทุกครั้ง ไม่ว่ารัฐบาลใด ผลการอภิปราย ก็จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งรมต. ส่วนการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ก็คาดว่าจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัวรมต.ได้ 1-2 คน
♦ ย้อนรัฐบาลปชป.ทำอะไร
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดการโอนเงินเพิ่มราคาอ้อยฤดูกาลผลิตปี 2550/2551 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้รู้ว่าการที่รัฐบาลทำในเรื่องการปรับราคาอ้อยและน้ำตาลหน้าโรงงานตาม ข้อเรียกร้องนั้น เป็นการทำให้ไม่ใช่ทำเอา ขอบอกว่าถ้าตนกินแม้แต่บาทเดียวก็ขอให้มีอันเป็นไปก็แล้วกัน แต่ถ้าสักบาทไม่เคยเอาก็ขอให้ตนมีความเจริญรุ่งเรือง ใครจะมาทำลายมาปิดล้อมทำเนียบฯ ก็ขอให้มาไม่ได้ก็แล้วกัน เพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว คิดอะไรไม่ได้เลยมีคนแปลความให้เสร็จ อย่างเรื่องรถเมล์เอ็นจีวีก็คิดแก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน แต่พอคิดจะทำก็หาว่าจะโกง ทั้งที่เป็นเพียงความคิดเท่านั้นว่าจะทำ ก็มีแต่คนคอยจ้องแต่ฟาดฟันทำอะไรไม่ได้
“คนที่กระโดกกระเดกเข้ามาเป็นรัฐบาลดันมีโอกาสมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้ง เรื่องน้ำ ข้าว อ้อย ระบบขนส่งมวลชนเขาถึงได้จ้องกันตาเป็นมัน คนไม่ได้ทำก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันจะเป็นจะตาย มันเวรกรรมจริง ๆ อยู่มาตั้ง 3 ปีเต็ม ๆ ไม่ยอมทำ ไม่เห็นทำอะไร แต่รัฐบาลนี้อยู่มาแค่ 4 เดือนเท่านั้นก็ออกมากระโดดขัดขวาง ยืนยันว่าที่ทำนั้นคนที่แก้รู้ปัญหาอย่างทะลุปรุโปร่ง เรื่องนี้ก็ต้องขอปรับทุกข์ให้ฟังกันหน่อย” นายสมัคร กล่าว ทั้งนี้ ภายหลังเปิดการโอนเงิน นายสมัครได้พบปะกับกลุ่มชาวไร่อ้อย ซึ่งต่างก็ตะโกนให้นายสมัครอยู่ได้ครบ 4 ปี ทำให้นายสมัครถึงกับหัวเราะชอบใจอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณที่ชาวไร่อ้อยไม่ปิดถนนประท้วง
♦ “เหลิม”ส่งดอกไม้ขอบคุณ
ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติ ไม่ไว้วางใจว่า ตนพร้อมตอบในสภาทุกประเด็น และขอกราบขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่เล่นการเมืองแบบมีหลักมีเกณฑ์ จะได้เป็นตัวอย่างให้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำไปปฏิบัติ หากพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายตนก็มีได้เสีย คิดว่าตนจะได้คะแนนมากกว่า โดยในช่วงบ่ายตนจะส่งแจกันดอกกล้วยไม้จากสวนตัวเองและกระเช้าผลไม้ไปให้ที่ พรรคประชาธิปัตย์เพื่อเป็นการขอบคุณ ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าการอภิปรายครั้งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้น มาภายในพรรคนั้น ตนยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีความขัดแย้ง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ส่วนที่เขาเลือกอภิปรายเฉพาะพรรคพลังประชาชน เพราะหวังให้โดดเดี่ยวพรรคพลังประชาชน ทั้งนี้บอกได้เลยว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยเป็นนักการเมืองที่ไม่เคยหักหลังพรรคพวกและนายบรรหารยัง เจ็บปวดกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน รมว. อุตสาหกรรมก็เป็นคนพรรคไทยรักไทยเดิม นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ก็เป็นแฟนกัน หวังไปเถอะที่จะให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกแยก และรัฐบาลไม่มีทุจริต เรียนด้วยความเคารพพรรค ประชาธิปัตย์อย่าเล่นการเมืองรอบจัดจนเกินเหตุ
♦ “ทรงศักดิ์”พร้อมไขปมคาใจ
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและตนก็พร้อมชี้แจงทุกประเด็นไม่มีปัญหา ยืนยันว่าสิ่งที่ตนทำโดยเฉพาะการเช่ารถเอ็นจีวี 6,000 คัน เป็นสิ่งที่กระทรวงได้ประโยชน์ทั้งนั้น ต่อข้อถามถึงกรณีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นนอมินีนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายทรงศักดิ์ ตอบว่า เป็นการพูดกันไปเอง ทั้งนั้น นายเนวินเองก็อยู่บ้านเลขที่ 111 ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง
♦ “หนูนา”ก็ว่าเช่าแพงเกินไป
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ รมต. ว่า ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบอย่างหนึ่ง เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงในสภา เรื่องนี้ยังไม่ได้หารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล สำหรับ จุดยืนของพรรคชาติไทยก็อยากให้ปล่อยไปตามกติกา อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวกังวลเพียงประเด็นเดียวคือกรณีที่รัฐบาลจะเช่าซื้อรถเอ็นจีวีของ ขสมก. 6,000 คันเป็นเวลา 10 ปีนั้น เป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไปเพราะรวมแล้วเป็นเงินกว่าแสนล้านบาท เพราะตนเห็นว่าแพงเกินไป แต่เมื่อรัฐบาลได้ระงับเรื่องไว้ถือว่าดี เพราะโครงการนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อครหาค่อนข้างมาก
♦ ส.ว.นัดถกหนทางสู้ในสภา
ที่รัฐสภา เวลา 13.00 น. เลขาธิการครม.ได้ทำหนังสือตอบกลับมายังสำนักเลขาธิการวุฒิสภาแล้วโดยปฏิเสธ การเข้าร่วมการอภิปรายของคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ตามที่ น.ส.สุมล สุตะ วิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กับคณะรวม 61 คนเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยหนังสืออ้างว่า ครม.อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อการประชุมพิจารณางบประมาณ พ.ศ. 2552 จึงไม่พร้อมที่จะไปอภิปรายชี้แจงดังกล่าว
อย่างไรก็ตามหลังจากรับทราบหนังสือตอบกลับ ปรากฏว่าได้มีการหารือระหว่าง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์กับ ส.ว.บางส่วนที่ร่วมลงชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล เพื่อพิจารณาใช้ช่องทางตามมาตรา 129 ที่ ส.ส.และ ส.ว. ต้องเข้าชื่อจำนวน 1 ใน 3 หรือ 207 เสียงขึ้นไปจากสมาชิกทั้งหมด เพื่อยื่นขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์มี 164 เสียงขาดเพียง 43 เสียง โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า จะทราบความชัดเจนในวันที่ 19 มิ.ย. แน่นอนว่าส.ว.จะดำเนินการอย่างไร ตนอยากเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลร่วมลงชื่อเสนอเปิดการประชุมสมัยวิสามัญเพื่อร่วมกัน แก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วย
♦ “มูลนิธิ111”เปิดสำนักงานใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการเปิดสำนักงานมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า บรรดาแกนนำบ้านเลขที่ 111 ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์,นายวราเทพ รัตนากร,นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นต้น ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯซึ่งเดิมมีกำหนดการจะเดินทางมาเป็นประธานด้วยตนเองได้ถูกยกเลิกไป ทั้งนี้เวลาประมาณ 09.00 น. ระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เดินขบวนไปชุมนุมหน้ากระทรวงการต่างประเทศและเดินทางผ่านสำนักงานที่ตั้ง ของมูลนิธิ 111 ก็ได้ส่งเสียงโห่ร้องขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้ถ้อยคำว่า “ทักษิณ ติดคุก” สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยอย่างมาก
ต่อมา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ได้ถือฤกษ์เวลา 09.09 น. นิมนต์พระพุทธรูปจำลอง “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” มาประดิษฐานไว้ที่สำนักงานมูลนิธิฯ โดยมีพระธรรมสิทธินายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 วัดสระเกศมาทำพิธีประพรมน้ำมนต์ ทั้งนี้นายพงศ์เทพ กล่าวภายหลังว่า พิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะมีพิธีสงฆ์และเปิดแพรคลุมป้าย คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมิ.ย. เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะถูกมองว่าเป็นการตั้งรัฐบาลคู่ขนาน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เป็นการช่วยกันคิดระดมความเห็นจากภาคต่าง ๆ เพื่อเสนอแนะต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องพลังงานและข้าวถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ
♦ ปัดตีความรหัสลับ2ก.ค.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดเรื่องวันที่ 2 ก.ค.ว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น นายพงศ์เทพ ในฐานะโฆษกส่วนตัว กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ถามพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจว่าอดีตนายกฯคงเห็นว่าสื่อมวลชนชอบลงข่าวเรื่องดวงดาวมาก ๆ ท่านคงกระเซ้าเล่น ส่วนที่มีบางฝ่ายนำเรื่องดังกล่าวไปตีความว่าเกี่ยวข้องกับอายุของ คตส.หรือคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนนั้นคงไม่ใช่ เพียงแต่ช่วงนี้สื่อนำเรื่องโหราศาสตร์มานำเสนอบ่อยๆ เมื่อมีโหราศาสตร์พูดถึงท่านก็นำมาเล่าคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
ด้าน พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวถึงโหงวเฮ้ง ของพ.ต.ท.ทักษิณในขณะนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เจอ ถ้าเจอแล้วจะขอดูอีกที แต่ตอนนี้ก็มีคนตอบแทนตนไปแล้วว่าโหงวเฮ้งช่วงนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณดี สำหรับการทำงานของมูลนิธิฯไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ยังไม่มีการต่อถึงกัน วิธีการทำงาน ของเราจะร่วมกับส่วนราชการ ประชาชน เอกชน อย่าไปโยงรัฐบาลเขาก็กำลังแก้ปัญหาอยู่
♦ “นพดล”ยืนยันไม่เสียดินแดน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.30 น. นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ แถลงภายหลังลงนามในบันทึกข้อตกลงในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาในการ ดำเนินการของฝ่ายไทยกรณีกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก พร้อมนำแผนที่ฉบับที่กัมพูชาจะจดทะเบียนมรดกโลกมาแสดงต่อสื่อมวลชนว่า ตนเจรจากับนายสก อาน รองนายกฯกัมพูชาที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส โดยมีผู้แทนระดับสูงของยูเนสโกเข้าร่วม ท้ายที่สุดกัมพูชาได้ตกลงที่จะจำกัดการขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร ทำให้เราไม่สุ่มเสี่ยงเสียดินแดนใด ๆ ในพื้นที่ทับซ้อน
นายนพดล กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. กระทรวงการต่างประเทศได้รับแผนที่ฉบับใหม่จากฝ่ายกัมพูชาที่ใช้แทนแผนที่ เดิมที่ยื่นเอาไว้เมื่อปี 49 และได้ขอความร่วมมือกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้องชัดเจนและได้เจรจากับ ฝ่ายกัมพูชาจนไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของขอบเขตของปราสาทพระวิหารที่กัมพูชาจะ ขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกล้ำพื้นที่ของไทย
♦ โอ่ฝีมือเจรจาต้องโจษจัน
“การที่กัมพูชายอมไปทำแผนที่ขึ้นมาใหม่ ตามข้อตกลงที่กรุงปารีส อันนี้ถือเป็นความสำเร็จของกระทรวงการต่างประเทศ ผมควรจะได้ดอกไม้ไม่ใช่ก้อนหิน เป็นการเจรจาทางการทูตที่ลูกหลานจะต้องโจษจันไปอีกนานว่าเราทำสำเร็จได้ อย่างไร จะเห็นได้ว่าแผนที่ใหม่ที่ทำขึ้นมาไม่มีการหมกเม็ดตามที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกไว้ หรือที่ส.ว.บอกว่ามีพื้นที่ล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยยืนยันว่าไม่มีพื้นที่ ใดล้ำเข้ามาแม้แต่ตารางมิลลิเมตรเดียว นี่คือความจริง ข้อเท็จจริงของประเทศไทยและกัมพูชาในขณะนี้ที่ประชาชนต้องรู้และผมไม่เคยปก ปิดแผนที่นี้เพียงแต่ว่าเราเพิ่งจะได้รับมา ดังนั้นการที่ไปกล่าวหาว่าผมมีประโยชน์ทับซ้อนหรือไปเสียดินแดนจึงเป็นความ เท็จทั้งสิ้น ไม่มีการหมกเม็ด มีความโปร่งใสทุกขั้นตอน” นายนพดล กล่าว
♦ วอนอย่าโยงไปเกี่ยว”ทักษิณ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าแผนที่ฉบับใหม่ได้รับวันไหนและทำไมถึงเพิ่งจะมาเปิดเผย นายนพดล กล่าวว่า แผนที่มีการแก้ไขครั้งสุดท้ายคือวันที่ 13 มิ.ย. และไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดเพราะกัมพูชาได้มีการลงนามเมื่อคืนวันที่ 17 มิ.ย. คำแถลงการณ์ร่วมเพิ่งส่งมาเมื่อเช้าวันที่ 18 มิ.ย. จะต้องให้คนที่เขาทำงานได้มีโอกาสเปิดเผยข้อเท็จจริง ตนยืนยันไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดและเรื่องนี้เป็นความสำเร็จ ตนไม่ได้เป็นจำเลย ตนควรเป็นพระเอกมากกว่าเป็นผู้ร้าย
เมื่อถามว่าทำไมกัมพูชาถึงยอมไทยง่าย ๆ นายนพดล กล่าวว่า ตนมีความคิดว่าจากการที่เราร่วมมือกับกัมพูชามาโดยต่อเนื่อง และจากการที่ให้เขาลดการขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อนหรือตัวปราสาทมันก็แสดง ให้เห็นแล้วว่าเขามีเจตนาที่ดี และเป็นการเจรจาที่ไม่มีอะไรตอบแทนไม่เกี่ยวเรื่องการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ การลงทุนใด ๆ และการที่ตนชี้แจงจะมาว่าตนพูดในนามทนายของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับอดีตนายกฯทักษิณ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของพ.ต.ท.ทักษิณกับนายกฯฮุนเซ็นก็เป็นเพื่อนรักชอบพอ กันมานาน แต่ตนประเมินไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะช่วยผลักดันอะไรได้แค่ไหน
♦ “ตือ”ย้ำคนศรีสะเกษยังห่วง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ รมว. ต่างประเทศเสนอให้ครม.เห็นชอบในแถลง การณ์ร่วมให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า เรื่องนี้ตนได้ติงไปในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ว่า เหตุใดจึงรีบร้อนทำเรื่องนี้เพราะเท่าที่ฟังชาวศรีสะเกษก็ยังห่วงเรื่องนี้ เพราะมีพื้นที่ที่ทับซ้อนอยู่กับประเทศกัมพูชา แล้วเรายังไปเซ็นยินยอมให้เขาพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกอีกเกรงว่าอาจจะมี ปัญหาในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนตรงนั้น ซึ่งนายนพดลก็ได้ชี้แจง และนำแผนที่ทางทหารมาแสดงให้ ครม.ดูว่าพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทกันนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการขึ้นเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลกแต่อย่างใด
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ขอให้พรรคชาติไทยได้พิจารณาเรื่องเขาพระวิหารเป็นการภายในอีกครั้ง แม้จะมีการพิจารณาของ ครม. เพราะมติ ครม. หากมีการทวนกระแสของประชาชน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติก็สามารถทบทวนได้ เชื่อว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะต้องเข้าใจความรู้สึกของประชาชนและสามารถกำหนด ท่าทีของพรรคต่อปัญหานี้ได้อย่างชัดเจน ที่พูดเรื่องนี้ขอบอกว่าเป็นเรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องของการเมือง ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด และขอถามตรง ๆ ว่าไทยได้สูญเสียดินแดนไปหรือไม่ เรื่องนี้รมว.ต่างประเทศต้องกล้าที่จะเผชิญปัญหาและเร่งทำความเข้าใจโดยด่วน ที่สุด
♦ “จตุพร”ลั่นถ้าพลาดต้องออก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีเรื่องปราสาทพระวิหารว่า เป็นเรื่องที่ปลุกความรู้สึกรักชาติของประชาชนขึ้นมา ซึ่ง รมว.ต่างประเทศต้องเร่งทำความเข้าใจว่าการทำแผนที่ไม่เกี่ยวกับกระทรวงการ ต่างประเทศ เป็นเรื่องของกรมแผนที่ทหารและยืนยันว่าภายใต้นโยบายของรัฐบาลจะไม่เสียดิน แดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียวให้กัมพูชา หากพบ ว่ามีการเสียดินแดนเกิดขึ้นนายนพดลก็อยู่ในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศไม่ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้พรรคประชาธิปัตย์มาอภิปรายฯ แต่พรรคพลังประชาชนจะจัดการเอง ขณะเดียวกัน หากไม่มีการเสียดินแดนก็อยากให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่กล่าวหาเรื่องนี้ลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นเดียวกัน
♦ จับพิรุธล่าชื่อค้านยูเนสโก
นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ หนึ่งในทีมงานโฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตคำแถลงของนายนพดล ที่แถลงเรื่องเขาพระวิหารว่าจะเป็นการทำให้ประเทศไทยหมดสิทธิในการที่จะโต้ แย้งทำให้ไทยจะเสียปราสาทเขาพระวิหารและเสียพื้นที่โดยรอบอย่างถาวร จึงขอเรียกร้องให้มีการเปิดเผยแผนที่ปราสาทเขาพระวิหาร และแผนที่บริเวณอ่าวไทย เพราะเราสงสัยจากคำให้สัมภาษณ์ของรมว.พาณิชย์ของประเทศกัมพูชาว่ามีการแลก เปลี่ยนผลประโยชน์กัน และบังเอิญที่พ.ต.ท.ทักษิณ ไปลงทุนที่เกาะกง จึงสงสัยว่านายนพดลไปเจรจาเพื่อประโยชน์ส่วนใด ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับแกนนำพันธมิตรฯเพื่อเสนอให้รวบรวมรายชื่อ ประชาชน ทำการยื่นคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ต่อยูเนสโกโดยจะต้องทำก่อนต้นเดือน ก.ค.นี้
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า มติ ครม.เกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหาร เต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้นถ้าไทยยอมรับให้กฎหมายปิดปาก โดยไม่มีการโต้แย้งสิทธิในเขาพระวิหาร จะส่งผลให้ประเทศไทยเสียดินแดนอีก 40 กว่าจุดและมติ ครม.นี้ เข้าข่ายเป็นโมฆะเนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และเท่าที่ทราบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนก็ได้ตัดวรรคที่ต้อง ผ่านรัฐสภาออก ดังนั้นตนจะหารือกับแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อให้ยื่นฟ้องต่อศาลให้มติ ครม.เป็นโมฆะ
♦ “หญิงเป็ด”ลั่นฟ้องกลับแน่
ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เวลา 10.30 น. นายวันชัย จงจรูญหิรันย์ แกนนำกลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอร์รัปชั่น (พีอาร์เอซี) เปิดเผยหลังเข้าทวงถามความคืบหน้าเพื่อขอทราบคำชี้แจงในกรณีที่เคยยื่น เรื่องให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสตง.และกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ชี้แจงต่อสังคมเรื่องการได้มาซึ่งที่ดินย่านปากเกร็ด และราคาบ้านที่ระบุว่ามีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท รวมถึงการใช้รถประจำตำแหน่งว่า แม้มีการชี้แจงไปบ้าง แต่ยังไม่ชัดเจน ทางกลุ่มฯก็จะรวบรวมรายชื่อประชาชนให้ครบ 20,000 ชื่อเพื่อยื่นถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณออกจากตำแหน่งต่อวุฒิสภาต่อไป
ขณะที่คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวถึงกรณีกลุ่มพีอาร์เอซีได้นำสื่อมวลชนไปดูบ้าน บนถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมประเมินมูลค่าเบื้องต้นกว่า 50 ล้านบาท และเตรียมล่าชื่อยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งว่า ขณะนี้ได้ให้ทนายความพิจารณาประเด็นข้อร้องเรียนที่ทางกลุ่มฯ มาโจมตี โดยเฉพาะกรณีการออกมาเปิดโปงเรื่องการสร้างบ้านมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เพื่อเตรียมฟ้องกลับ โดยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทนายความได้เข้ามาหารือ และศึกษารายละเอียดของหนังสือที่ทางกลุ่มนำมายื่นแล้ว
♦ “อภิรักษ์”รอสัญญาณคตส.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าวถึงผลสรุปของคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีรถและเรือดับเพลิงของกทม.ที่ส่อ เค้าจะหลุดคดีว่า ยังเป็นเพียงมติของคณะอนุกรรมการฯเท่านั้น ต้องรอกระบวนการไต่สวนของคตส.ชุดใหญ่ก่อนให้ชัดเจนและประกาศอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นผู้บริหารกทม.จึงจะพิจารณาในเรื่องเกี่ยวกับตัวโครงการ โดยต้องประสานหลายหน่วยงานเพื่อพิจารณาว่าจะบอกเลิกสัญญาอย่างไรให้กทม.ไม่ เสียประโยชน์ หรือเสียประโยชน์น้อยที่สุด และเมื่อสรุปเรื่องบอกเลิกสัญญาได้แล้ว ถึงเวลานั้นก็จะถึงขั้นตอนการเรียกรับเงินคืนจากคู่สัญญา ซึ่งชำระไปแล้ว 3 งวด กว่า 2 พันล้านบาทอีกด้วย
แหล่งข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพฯ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีบุตรชายของกรรมการคตส.รายหนึ่ง รับราชการสังกัดกทม.เป็นเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ในสำนักงานแห่งหนึ่ง ก่อนโยกย้ายมาทำงานทางด้านเทศกิจ ซึ่งเป็นแผนกที่บรรดาข้าราชการสังกัดกทม.หมายปอง ทำให้มีการจับตาเป็นพิเศษ
♦ “ณัษฐนนท” รับกระทบจิตใจ
คุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดกรุงเทพฯ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม. กล่าวถึงข่าวคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ลงมติส่งอัยการฟ้องศาลว่าคตส. ชุดใหญ่ยังไม่ได้มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อสภาพจิตใจของตนมาก แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน ในวันที่ 19 มิ.ย.จะเข้าพบนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่ามีชื่อตนตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้เป็น ความจริงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่มีข่าวว่า นายอภิรักษ์ หลุดจากการถูกตั้งข้อกล่าวหา คุณหญิงณัษฐนนท กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็นเพราะเป็นเรื่องของนายอภิรักษ์.
ที่มา เดลินิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
