• พิษน้ำมันทำแฟชั่นขี่ม้าฮิต นศ.แม่โจ้สุดเท่ควบม้าไปเรียน |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 26 มิ.ย. 51 เวลา 15:58:35 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พิษน้ำมันทำแฟชั่นขี่ม้าฮิต นศ.แม่โจ้สุดเท่ควบม้าไปเรียน
ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไม่หยุดเป็นแรงบีบคั้น นักศึกษากลุ่มหนึ่งในมหาวิทยาลัยแม้โจ้ คิดหาทางออกด้วยการขี่ม้าไปเรียน จากชมรมขี่ม้าเล็กๆ ขยายไปคณะสัตวแพทย์ จนปัจจุบันมีนักศึกษาทั้งหญิงและชายหันมาซื้อม้าในราคาหมื่นเศษขี่แทนรถที่ ใช้เชื้อเพลิง นักศึกษาหนุ่มเผยสุดเท่พา นศ.หญิงซ้อนท้ายม้าไปเรียน
ราคา น้ำมันที่พุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ในปัจจุบัน ทำให้ "ภาณุ เนียมชมภู" ช่างทำเครื่องหนังวัย 38 ปี หน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ตัดสินใจหันมาขี่ม้าไปทำงานและใช้ในชีวิตประจำวัน แทนการใช้รถกินน้ำมันอย่างแต่ก่อน และเขาไม่ได้หยุดแนวคิดนี้ไว้เฉพาะกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่บรรดานักศึกษาในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ด้วย
ก่อนหน้านี้ ไม่นานนัก ภาณุในฐานะศิษย์เก่าแม่โจ้และนักกีฬาขี่ม้า ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ตั้งชมรมขี่ม้าขึ้น โดยมีเขาทำหน้าที่ฝึกสอนให้แก่นักศึกษาสาขาสัตวศาสตร์ คณะผลิตกรรมการเกษตรก่อน โดยใช้ม้าของสาขาวิชาที่มีอยู่ 5 ตัว ใช้เป็นพาหนะเดินทางไปเรียนภาคปฏิบัติที่ฟาร์มที่อยู่ห่างออกไป 3-5 กิโลเมตร จากโครงการประหยัดพลังงานนำร่องนี้เอง
ถึงวันนี้ได้ขยายไปสู่สาธารณะมากขึ้น เพราะนอกจากนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้แล้ว ยังมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และอีกหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ สมัครเข้ามาเรียนขี่ม้ากับชมรมขี่ม้าของแม่โจ้ จากชมรมเล็กๆ เน้นฝึกให้แก่นักศึกษาสาขาสัตวศาสตร์ไม่กี่คน ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 50 คน
" ศุภชัย วงศ์กล้า" นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาสัตวศาสตร์ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 1 ในสมาชิกรุ่นแรกๆ และเป็นนักศึกษากลุ่มแรกที่ซื้อม้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน เขาฝึกขี่ม้ากับภาณุในชมรมขี่ม้าแม่โจ้อยู่นานประมาณ 1 เดือน จนแคล่วคล่องจนสามารถบังคับม้าได้อย่างชำนิชำนาญมากขึ้น
จากที่เคยใช้ม้าของสาขาวิชาสัตวศาสตร์เดินทางไปทำงานภาคปฏิบัติที่ฟาร์ม จน เกิดความผูกพัน ประกอบกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นมา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจให้ภาณุหาซื้อม้าเพศผู้สายพันธุ์ไทยหรือม้าแกลบสูงไม่ เกิน 2 เมตร มาให้ 1 ตัว สนนราคาตกตัวละประมาณ 1 หมื่นบาท พร้อมทั้งตั้งชื่อให้ว่า "พธู"
ทุกๆ วันนับจากได้พธูมาแล้วภาพชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนขี่ม้าแกลบ ไปเรียนตามอาคารต่างๆ กลายเป็นภาพชินตาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ไปเสียแล้ว นอกจากจะขี่ไปเรียนและขี่ไปโรงอาหารตอนพักเที่ยงแล้ว ศุภชัยยังเคยขี่ม้าตัวโปรดไปรับเพื่อนหญิงมาเรียนด้วยกันด้วย เวลาขึ้นเรียนหรือพักรับประทานอาหารกลางวันก็จะผูกเจ้าพธูไว้ใต้ต้นไม้ เขาบอกว่านอกจากประหยัดค่าน้ำมันแล้ว การขี่ม้ายังได้ออกกำลังกายด้วย และรู้สึกโก้หรูไม่เหมือนใคร
"ม้าแกลบเหมาะกับคนไทย เพราะสูงไม่มากนัก เป็นม้าพันธุ์เดียวกันกับที่ชาวเขาใช้บรรทุกสัมภาระในการเดินทางสมัยก่อน รู้สึกมีความสุขที่ได้เลี้ยงม้า เป็นความสนใจเฉพาะบุคคล คงเป็นลักษณะเดียวกันกับเพื่อนบางคน ที่ชอบแต่งรถแข่ง ถือเป็นความชอบส่วนบุคคลที่แตกต่างกันไป" ศุภชัย แจกแจง
ไม่ เฉพาะศุภชัยเท่านั้น ยังมีเพื่อนและรุ่นน้องอีกราว 8-9 คน ที่ปฏิบัติเช่นเดียวกับเขา คือการหันไปใช้ม้าเป็นพาหนะในชีวิตประจำวันแทนรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ ดังนั้น แต่ละวันในมหาวิทยาลัยแม่โจ้บางทีก็จะเห็นนักศึกษาขี่ม้าสวนกันให้พึ่บพั่บ พอหลังเลิกเรียนพวกเขาและเธอเหล่านี้บ้างก็ขี่ม้ากลับบ้าน บ้างก็ฝากเลี้ยงไว้ที่ฟาร์มของสาขาวิชาสัตวศาสตร์
สำหรับประเด็น ข้อข้องใจที่ว่าการใช้ม้าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริงหรือไม่นั้น ศุภชัย ตอบเสียงฉะฉานว่า หลังจากซื้อม้ามาเลี้ยงได้ระยะหนึ่งแล้วเห็นได้ชัดว่า ช่วยประหยัดได้มาก แต่ละเดือนจะเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าอาหารม้า ซึ่งเป็นอาหารเม็ดตกเดือนละ 1 กระสอบ ราคาประมาณ 400 บาท
นอกจากนี้ก็เป็นรำแห้งอีก 80 บาท ให้อาหารเสริม เช่น กล้วยบ้างเป็นครั้งคราว เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงอย่างที่หลายคนคิด สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็มีค่าเกือกม้า หากใช้ในการเดินทางระยะไกลเดือนครึ่งถึงสองเดือนก็เปลี่ยนสักครั้ง แต่ถ้าวิ่งใกล้ๆ และไม่ได้ใช้งานหนัก นานๆ ก็จะเปลี่ยนสักครั้ง
การ ใช้ม้าของนักศึกษาแม่โจ้นั้นได้รับความเห็นชอบจากมหาวิทยาลัยด้วยดี โดย รศ.อาคม กาญจนประโชติ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ บอกว่า จากวิกฤติราคาน้ำมันที่แพงขึ้นและเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน มหาวิทยาลัยจึงอนุญาตให้นักศึกษาสามารถขี่ม้าภายในมหาวิทยาลัยแทนการขับขี่ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้
" ตอนนี้มีนักศึกษาซื้อม้าส่วนตัวมาเป็นพาหนะในการเดินทางแทนรถจักรยานยนต์ แล้ว 4-5 ตัว และกระแสตอบรับของนักศึกษาที่เข้ามาอบรมฝึกขี่ม้ากับชมรมของมหาวิทยาลัยก็มี เพิ่มขึ้น" รศ.อาคม กล่าว
แนวโน้มที่นักศึกษาจะหันมาสนใจซื้อม้ามา ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้นนี้เอง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ตระหนักถึงปัญหาที่จะตามมาในอนาคต ทั้งเรื่องการใช้พื้นผิวการจราจรร่วมกับยานพาหนะอื่นๆ อาหาร อุจจาระม้าที่เลี้ยง และจุดผูกม้าระหว่างการเข้าเรียน
มหาวิทยาลัยจึงเตรียมหารือร่วมกับชมรมขี่ม้า เพื่อหาทางออกและจัดระเบียบความเรียบร้อย ตลอดจนเตรียมการรองรับไม่ให้เกิดปัญหาตามมา โดย รศ.อาคมคาดการณ์ล่วงหน้าเอาไว้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีนักศึกษาและประชาชนหันมาสนใจใช้ม้าแทนรถยนต์มากขึ้น อาจจะถึงหลักร้อยคนในเร็วๆ นี้
ส่วน "ภาณุ เนียมชมภู" ต้นตำรับขี่ม้าช่วยประหยัดน้ำมัน ทุกวันนี้เขายังคงขี่เจ้าคำก้อน ม้าหนุ่มวัย 7 ปี ไปไหนต่อไหนอยู่เสมอ โดยทุกวันจันทร์ถึงศุกร์เขาจะขี่ม้าไปทำงานเครื่องหนังที่หน้ามหาวิทยาลัย แม่โจ้ ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ขี่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในกลุ่มบ้าง นอกจากเจ้าคำก้อนแล้วภาณุยังหาซื้อม้ามาเพิ่มอีก 2 ตัว เป็นม้ายังไม่โตเต็มที่ดีนัก
เขากะว่าจะฝึกให้เชื่องและโตเต็มที่ก่อน แล้วจึงให้ภรรยาขี่ไปทำงาน ส่วนอีกตัวก็ให้ลูกขี่ไปเรียนหนังสือ หากใครที่มีธุระผ่านไปแถวๆ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เห็นชายหนุ่มไว้หนวดเครา สวมเครื่องเคราเหมือนคาวบอยตะวันตก ขอให้รู้ไว้เถอะว่า ได้มาถึงมหาวิทยาลัยแม่โจ้แล้ว
ที่มาจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1774 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 26 มิ.ย. 51
เวลา 15:58:35
|