• 'ยาตำรับเจ้าคุณ' วัดท่าหลวง จ.พิจิตร (เขาว่ารักษาโรคมะเร็งและโรคเอดส์ได้จริงๆ ) |
โพสต์โดย นักข่าว , วันที่ 07 ก.ค. 51 เวลา 23:17:18 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลวงพ่อเพชรเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย นั่งขัดสมาธิเพชร ชายสังฆาฏิสั้นเหนือพระอุระ เกตุบัวตูม ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ ๖ นิ้ว สูง ๓ ศอก ๓ นิ้ว
ประทับนั่งบนฐานดอกบัวบานหงายรองรับ ต่อจากฐานโลหะเป็นแท่นชุกชี หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่ง คือ ฐานชุกชี มีลวดลายปิดทองประดับกระจกมีความงดงาม
ผู้ชำนาญการได้ตรวจพระพุทธลักษณะขององค์พระปฏิมากรแล้วหลายท่านให้ความเห็นตรงกันว่า องค์หลวงพ่อเพชรเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนยุคแรก จัดสร้างขึ้นในระหว่างปีพุทธศักราช๑๖๖๐-๑๘๐๐ นับอายุการสร้างจนถึงปัจจุบันนี้ประมาณ ๘๙๐ ปี
หลวงพ่อเพชรเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามองค์หนึ่งของประเทศไทยและทรงพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นมิ่งขวัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองพิจิตรมาช้านาน ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียง เป็นที่เคารพสักการบูชาอย่างสูงสุด เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน ให้ยึดมั่นในการประกอบแต่คุณงามความดี เป็นที่พึ่งทางจิตใจ ในยามที่มีทุกข์ร้อน
เมื่อผู้ใดได้เข้าไปนมัสการองค์หลวงพ่อเพชรแล้วก็จะบังเกิดความสงบร่มเย็น สงบกาย วาจา และใจ จนมีคำพูดติดปากกันอยู่เสมอว่า 'ใครไปพิจิตรถ้าไม่ได้เข้าไปนมัสการองค์หลวงพ่อเพชรก็เหมือนไปไม่ถึงเมืองพิจิตร'
ปัจจุบันวัดท่าหลวงมีพระราชวิจิตรโมลี (หลวงพ่อบุญมีปริปุณฺโน น.ธ.เอก) คณะจังหวัดพิจิตรเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งชาวบ้านและลูกศิษย์จะเรียกท่านเจ้าคุณว่า 'หลวงพ่อวัดท่าหลวง'
แม้ว่าวัยจะล่วงเลยมาถึง๘๐ ปี พรรษา ๕๙ แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านเจ้าคุณทำมาอย่างต่อเนื่อง คือ ทำยาแจกเป็นทานมีอยู่๓ ตำรับ คือ ยาเลิกยาเสพติดยาแก้อาการริดสีดวงทวาร และยาอายุวัฒนะสรรพคุณของยาทั้ง๓ ขนาน มีดังนี้
๑.ยารักษาผู้ติดยาเสพติด เป็นยาตำรับของ อ.ณรงค์บุดดาวงศ์ (ลูกของหมอยาแผนโบราณ) มีอยู่ ๓ เบอร์ คือ เบอร์ ๑ พญาไฟ เบอร์ ๒ พญารากเดียว และเบอร์ ๓ โรจน์ทนงดอกแดง
ผู้ที่ประสงค์จะเลิกยาเสพติดกินเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ผู้ที่มาตอนเช้าไม่ควรกินอาหารเช้ามา ผู้ที่มาตอนเที่ยงไม่ควรกินข้าวเที่ยงมา ส่วนผู้ที่มาตอนเย็น ยิ่งไม่กินข้าวเที่ยงยิ่งดี
ทั้งนี้ก่อนที่จะกินยานี้ ต้องมารับสัจจะก่อนว่า ตั้งใจจะเลิกกี่ปี บางคนก็ตั้งสัจจะ ๓ ปี ๕ ปี แต่ส่วนใหญ่แล้วจะตั้งสัจจะเลิกเสพยาเสพติดตลอดชีวิต และก็สามารถเลิกได้จริงๆ ยาขนานนี้ทำแจกฟรี
๒.ยารักษาโรคริดสีดวงทวาร มีส่วนผสมที่สำคัญคือ พริกไทยดำ ๑ ส่วน ต้นเหงือกปลาหมอทั้ง ๕ (ต้น เปลือก ราก ใบ ดอก) ๑ ส่วน และน้ำผึ้ง ๑ ส่วน โดยบดให้ละเอียด แล้วปั้นเป็นลูกกลอน สูตรยาขนานนี้ใครจะนำไปให้ร้านขายยาแผนโบราณบด แล้วมาปั้นเป็นลูกกลอนด้วยตัวเองก็ได้
๓.ยาอายุวัฒนะ ยาขนานนี้ รักษาโรคครอบจักรวาล โดยเอาตัวยาสำหรับเลิกยาเสพติด ๒ ตัว คือ เบอร์ ๑ พญาไฟ และ เบอร์ ๒ พญารากเดียว ซึ่งเป็นส่วนของยาบำรุง มาเป็นส่วนผสมของตัวยา สรรพคุณของยาขนานนี้ที่เด่นๆ คือ รักษาโรคกระเพาะเรื้อรัง อัมพฤกษ์อัมพาต โรคมะเร็ง ลดไขมันในเส้นเลือด บรรเทาอาการปวดตามข้อต่างๆ
นอกจากนี้แล้วยาอายุวัฒนะ ยังมีสรรพคุณสามารถยับยั้งเชื้อโรคสำหรับผู้ที่ติดเชื้อโรคเอดส์ เคยมีญาติผู้ติดเชื้อหลายคนนำไปให้ญาติที่ติดเชื้อกิน แม้ว่าจะไม่หาย แต่ก็สามารถช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีอายุยืนนานขึ้น
ยาแผนโบราณของหลวงพ่อวัดท่าหลวงไม่มีการโฆษณา หรือลงข่าวในสื่อใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้จะบอกต่อกันแบบปากต่อปาก ขณะเดียวกันด้วยตำแหน่งที่เป็นถึงเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ก่อนหน้านี้หลวงพ่อเคยพิมพ์สรรพคุณไว้ในฉลากข้างขวดว่า 'รักษาโรคมะเร็ง และโรคเอดส์' แต่ต้องถูกระงับไปเพราะไม่มีผลยืนยันการรักษาจากสาธารณสุข แต่ใช่ว่าคนจะไม่เชื่อว่า ยาอายุวัฒนะของหลวงพ่อวัดท่าหลวงสามารถรักษาโรคมะเร็งและโรคเอดส์ได้จริงๆ
อย่างไรก็ตามยาทั้ง ๓ ขนานนี้มีการตรวจสอบคุณภาพจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเพื่อให้ยาที่ผลิตออกมาเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น หลวงพ่อวัดท่าหลวงจึงส่งลูกศิษย์ไปศึกษาเรื่องปรุงยาแผนโบราณ และสอบเรื่องการปรุงยาโดยเฉพาะ เพื่อให้เป็นยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง
หลวงพ่อวัดท่าหลวง เล่าว่ายาทุกขนานล้วนได้มาจากผู้อื่นทั้งสิ้น ก่อนที่จะได้ยาขนานนี้มาปรุงจ่ายแจกญาติโยม ท่านเคยป่วยเป็นโรคเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างรุนแรง
ระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งมีใจความว่า อาการเริ่มต้นของโรคมะเร็ง คือ การมีท้องผูกและท้องเดินสลับกัน และความเปลี่ยนแปลงของหูดไฝตามร่างกาย ซึ่งตรงตามอาการของมะเร็งระยะแรกเริ่มทุกอย่างแต่หมอที่รักษานั้น ไม่ระบุว่า เป็นโรคมะร็ง
ระหว่างที่รักษาอยู่นั้นหลวงลุงฮวดนำยาแผนโบราณมาให้กิน แต่ท่านไม่กล้ากินเพราะมีส่วนผสมของพริกไทย เกรงว่าจะไปกัดกระเพาะซึ่งมีเลือดออกอยู่แล้ว จึงให้คนอื่นทดลองกินก่อน หลังจากนั้นไม่นานท่านก็กินเอง
ไม่น่าเชื่อเลยว่าวันรุ่งขึ้นอาการถ่ายที่ผิดปกติกลับกลายเป็นปกติ อีกทั้งช่วยให้การหลับนอนเป็นปกติ แต่เมื่อยาหมดอาการถ่ายก็กลับมาผิดปกติอีกครั้ง
ลูกศิษย์หลายคนลงความเห็นว่าอาการทรุดจนอาจจะมรณภาพ จึงย้ายไปโรงพยาบาลอื่นที่ดีกว่า
อาการขณะนั้นเลือดออกมากต้องให้ทั้งเลือดทั้งน้ำเกลือ ต่อมาเมื่อหลวงลุงฮวดได้นำยามากลับให้กินอีกครั้งอาการก็เริ่มดีขึ้น จนหายเป็นปกติ แล้วอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
'ยาทั้ง ๓ ขนานนี้ไม่ได้ตั้งราคาว่า จะต้องทำบุญเท่าไร ส่วนใหญ่จะทำแจกเป็นบุญเป็นทาน โดยเฉพาะยาสมุนไพรสำหรับผู้เลิกยาเสพติด แต่เนื่องด้วยตัวยาสมุนไพรบางชนิดมีราคาแพง หากใครมาขอไปมากๆ ขอให้ช่วยทำบุญบ้าง ปัจจัยที่ได้จากการทำบุญนั้นไม่ได้ไปไหน จะนำไปซื้อสมุนไพรมาปรุงเป็นตัวยา เพื่อที่จะได้มีแจกอย่างต่อเนื่อง หรือที่เรียกว่าบุญต่อบุญนั่นแหละ ตอนนี้ที่วัดไม่ได้ปรุงยา เนื่องจากขาดสมุนไพร มีแต่ยาที่ปรุงสำเร็จแล้ว เตรียมนำไปแจกในการประชุมพระสังฆาธิการทั่วจ.พิจิตร และเตรียมแจกในวันเกิดหลวงพ่อในวันอาสาฬหบูชา ที่วัดท่าหลวงพระอารามหลวง' หลวงพ่อวัดท่าหลวงกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้วัดกำลังดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารเรียน ลักษณะทรงไทยคอนกรีต เสริมเหล็กสูง ๔ ชั้น กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๑๒๐ เมตร เพื่อเป็นศูนย์พุทธศาสตร์ศึกษาและขยายการศึกษาไปถึงชั้นอุดมศึกษา ห้องสมุด สถานปฏิบัติธรรม รวมทั้งจัดทำพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศานาโดยใช้งบก่อสร้างประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท โดยความรับผิดชอบของพระเมธีธรรมประนาท หรือ 'เจ้าคุณปรีชา' ผู้อำนวยการโรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่วัดท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร โทร.๐-๕๖๖๑-๒๕๘๕, ๐๘-๓๙๕๐-๖๘๑๒,๐๘-๓๙๕๘-๕๐๑๒
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 5058 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย นักข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ก.ค. 51
เวลา 23:17:18
|