ทักษิณ ไม่พอใจหมายจับกางเด่นบนเวทีพันธมิตร สั่งทนายร้องเอาผิดแกนนำหมายจับ แม้ว-อ้อ ติดประจาน ขู่ฟันตร.ด้วย ยันไม่มาขึ้นศาลกำลังทำเรื่องขอลี้ภัยแน่! วิชิต จี้ตร.ยึดป้ายรูปภาพหลังเวที สมัครไม่ตำหนิตร.ออกหมายจับชี้ทำตามหน้าที่

พปช.ยื่นหนังสือสถานทูตผู้ดีช่วย แม้ว

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานใช้อำนาจหน้าที่มิชอบคดีซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ถูกศาลออกหมายจับฐานไม่ไปรายงานตัวต่อศาลในคดีซื้อที่ดินรัชดาฯและหลบหนีไปอยู่ในประเทศอังกฤษขณะนี้ว่า ในวันที่  21 สิงหาคม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน จะไปยื่นหนังสือฉบับภาษาไทย ต่อสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพราะที่ผ่านมา กมธ.เชิญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาชี้แจงในข้อกฎหมายแล้ว โดยส่วนตัวเห็นว่าข้อกฎหมายที่เขียนในสมัยคณะปฏิรูปการปกครอง (คปค.) ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเห็นว่ากฎหมายแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย  

 

"ผมจะรอให้งบประมาณผ่านที่ประชุมสภาไปก่อน คาดเสร็จสิ้นช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ยืนยันว่าไปหา พ.ต.ท.ทักษิณแน่นอน ไปเฉพาะ ส.ส.กลุ่มของผมประมาณ 7-8 คน จะได้นั่งคุยสะดวก ส่วนคนมองว่าไปเพื่อเจรจาต่อรองพื้นที่ภายในพรรค ไม่ได้กังวล ไปเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่เคารพ เพื่อให้กำลังใจ เอาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปเล่าให้ฟัง จะไปโดยเปิดเผยและไม่ทำอะไรแบบอีแอบแน่นอน" นายสุรพงษ์กล่าว

 

ทักษิณ ให้ทนายแจ้งเอาผิดแกนพันธมิตร

 

วันเดียวกัน เวลา 14.30 น.ที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย นายวัชระ แสงประทุม ทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ แถลงข่าวการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณพจมานไปเผยแพร่ตามสถานที่ต่างๆ ว่า ถือเป็นการละเมิดสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานอย่างร้ายแรง เหมือนเป็นการประจานว่าเป็นผู้ร้ายอาญาแผ่นดิน พ.ต.ท.ทักษิณมอบให้ทีมทนายความแจ้งความดำเนินคดี 5 แกนนำพันธมิตร และผู้ประสานงานในวันนี้ ที่ สน.ดุสิต  ข้อหาดูหมิ่นและปลอมแปลงเอกสาร เพราะตามแบบฟอร์มหมายจับของศาล จะไม่มีรูปถ่าย แต่กลุ่มพันธมิตรกลับนำรูป พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานไปเปิดเผย

 

"แสดงว่าเป็นการจงใจกลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหาย ทั้งที่ใครๆ ก็รู้กันทั่วประเทศว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมีหน้าตาเป็นอย่างไร อีกทั้งหน้าที่การเผยแพร่หมายจับเป็นหน้าที่ของตำรวจ ไม่ใช่ของกลุ่มพันธมิตร โดยจะฟ้องทั้งทางคดีอาญาและเรียกค่าเสียหายทางแพ่งด้วย"  

 

ถูกแกล้งประจานหมายจับ-ขู่ฟันตร.ด้วย

 

นายวัชระกล่าวว่า ทีมทนายกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้หรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าการออกหมายจับของตำรวจทำถูกต้องตามขั้นตอนราชการหรือไม่ และไปปรากฏรูปภาพและรายละเอียดลักษณะประจานได้อย่างไร  ถ้าพบไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินคดีตำรวจด้วย โดยเฉพาะ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ต้องมีส่วนรับผิดชอบ และต้องดูแลไม่ให้มีหมายจับหลุดออกมาเช่นนี้อีก

 

"พ.ต.ท.ทักษิณได้บอกผ่านนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า รู้สึกไม่สบายใจที่มีหมายจับออกมาเผยแพร่ทั่วบ้านเมืองในทางเสียหาย ถือว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และล่วงละเมิดสิทธิของศาลในการออกหมายจับ" ทนาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

 

ยันไม่มาขึ้นศาลกำลังทำเรื่องขอลี้ภัย

 

นายวัชระกล่าวอีกว่า ส่วนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมาให้ปากคำคดีที่ดินรัชดาฯในวันที่ 22 สิงหาคมนั้น คิดว่าคงไม่มาให้ปากคำ เพราะการอยู่ประเทศอังกฤษ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถใช้สิทธิลี้ภัยได้ โดยอ้างเหตุผลทั้งเรื่องการเมือง ความปลอดภัย ขณะนี้กำลังดำเนินการเรื่องขอลี้ภัยอยู่ แต่ขึ้นอยู่กับการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีที่เมืองไทยของอัยการด้วย

แจ้งความแล้วเอาผิดทั้งหมด6คน

เวลา 17.00 น. ที่ สน.ดุสิต นายอุดม โปร่งฟ้า ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.รุ่งเพชร เมฆี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นามสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตร สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และบริษัท ไทยเดย์ดอทคอม ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ภายหลังกลุ่มพันธมิตรนำภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานมาทำเป็นป้ายประกาศในลักษณะเป็นหมายจับติดไว้ที่ด้านหลังเวทีพันธมิตร บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยนำภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์มติชน ไทยโพสต์ และบ้านเมือง มาให้ด้วย มีข้อความภาษาอังกฤษติดว่า "MOST WANTED" และข้อความภาษาไทยว่า "ประกาศจับผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน"

วิชิต จี้ตร.ยึดป้ายรูปภาพหลังเวที

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล กล่าวยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณติดต่อและมอบหมายให้ดำเนินการกับกลุ่มพันมิตรที่นำรูป และข้อความประกาศ รวมทั้งใช้เอกสารราชการปลอมไปติดประกาศจนทำให้เสียหาย เบื้องต้นจะแจ้งตำรวจ จากนั้นฟ้องร้องต่อศาลแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย รวมทั้งจะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้กลุ่มพันธมิตร เอาป้ายและรูปภาพดังกล่าวลง การตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพราะเห็นว่าตัวเองถูกละเมิดสิทธิ กลุ่มพันธมิตรทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

"เรื่องป้ายอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ออกมายึดไปก่อน แต่หากว่ายึดไม่ได้จะมีการฟ้องทางคดีแพ่งต่างๆ อีก และหากแจ้งความแล้วพบ

ว่ามีการกระทำแบบนี้อีกถือว่ามีความผิดด้วย เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบแล้วก็รู้สึกเสียใจ ส่วนกรณีที่ไปอยู่ที่อังกฤษ สาเหตุก็รู้อยู่แล้วว่าเหตุผลอะไร

ไม่ใช่เรื่องที่ต้องประจานกันแบบนี้"

 

เมื่อถามว่า พันธมิตรทำเพื่อกดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน กลับมาสู้คดีหรือไม่ นายวิชิตกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้

รับมอบหมายว่าให้ดำเนินการทุกคดีที่ทำให้เกิดความเสียหาย อยากให้ตำรวจรับผิดชอบด้วย

 

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า จะสอบสวนปากคำ ก่อนรวบรวมหลักฐานเสนอให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการ

ตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร

 
สมัคร ไม่ตำหนิตร.ชี้ทำตามหน้าที่

 

ก่อนหน้านี้ เวลา 11.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) เป็นประธานประชุม ก.ตร. มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และกรรมการ ก.ตร.ร่วมประชุมกว่า 1 ชั่วโมง

 

จากนั้น พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนการประชุมนายสมัครได้พูดถึงการทำหน้าที่ของตำรวจต่อการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา โดยนายกฯไม่ได้ตำหนิการทำหน้าที่ของตำรวจ แต่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ทุกอย่างถือว่าเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ทำไปตามขั้นตอน เป็นเรื่องที่เข้าใจกัน ถือเป็นการทำหน้าที่ของตำรวจที่ทำไปตามขั้นตอน

 

นายกฯไม่ได้พูดอะไรมาก พูดสั้นๆ นิดเดียว ไม่มีการตำหนิอะไร เพียงแต่บอกว่าได้ชี้แจงกับสมาชิกพรรค ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไปตามขั้นตอน โฆษก ตร.ระบุ

คดี แม้ว ต่างกับ ปิ่น อังกฤษไม่ยอมส่งตัวกลับ


นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต

นายกรัฐมนตรีกับภริยามาดำเนินคดี ก็มีสนธิสัญญาระหว่างกรุงสยามกับราชอาณาจักรอังกฤษ ค.ศ.130  ประกอบ พ.ร.บ.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2472 และฉบับแก้ไข พ.ศ.2551

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลไทยเคยขอตัว นายปิ่น จักกะพาก อดีตผู้บริหารเงินทุนหลักทรัพย์เอกธนกิจ แล้วมีอุปสรรค และหาก พ.ต.ท.ทักษิณจะอาศัยบทเรียนดังกล่าวเป็นข้อต่อสู้จะทำอย่างไร นายศิริศักดิ์กล่าวว่า คดีนายปิ่น ศาลชั้นต้นอังกฤษมีคำสั่งให้ส่งตัว แต่ศาลอุทธรณ์กลับพิเคราะห์ลงไปว่า พฤติกรรมของนายปิ่น ไม่เป็นการยักยอกทรัพย์ เป็นคำพิพากษานอกเหนือไปจากคำขอ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่กฎหมายอังกฤษทำให้ไทยไม่อาจยื่นฎีกาต่อไปได้ ข้อเท็จจริง ระหว่าง 2 คดีนี้ต่างกัน ขณะนี้อัยการอยู่ระหว่างรวบรวมพยานเอกสาร และประชุมติดตามเอกสารหลักฐานและรายละเอียดปลีกย่อยในการต่อสู้คดีทุกระยะ

 

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก