"ม.ล.ณัฏฐกร เทวกุล" ตัดสินใจไม่ลงรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ยันไม่ได้ถอดใจ แต่ไม่พร้อม สู้ไปก็แพ้ "อภิรักษ์" อ้างมวยคนละรุ่น "ชูวิทย์" เมินผลโพล เชื่อมีทีเด็ดเอาชนะ ให้รอดูเซอร์ไพรส์ "ปลอดประสพ-ปานปรีย์" ถอยฉาก ไม่ลงในนามพปช.
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.ทถ.กทม.) เป็นประธานในการดำเนินการจัดซักซ้อมขั้นตอนการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 กันยายน เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความความเรียบร้อย รัดกุม ถูกต้องทุกขั้นตอน
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ กล่าวว่า เตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการลงสมัครรับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุที่เลื่อนการแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังวุ่นวายเกรงว่าจะไม่เหมาะสม แต่จะแถลงหลังจากลงรับสมัครเรียบร้อยแล้วในวันที่ 1 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะจบทั้งปริญญาตรี และโท ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
"แม้คะแนนจากโพลผมจะแพ้คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.แต่ผมก็ไม่กลัว เพราะมีทีเด็ดหลายอย่างที่เชื่อว่าจะจูงใจให้คน กทม.เลือกผมได้ อย่าลืมว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่คิดว่าจะเป็นจริง มันเป็นจริงมาแล้วหลายอย่าง และวันที่ 1 กันยายน นี้ผมมีเซอร์ไพรส์ รับรองว่าทุกคนจะชื่นชอบและตกตะลึง สำหรับสัญลักษณ์ประจำตัวที่ผมจะใช้ตลอดเวลา 1 เดือนกับอีก 5 วันสำหรับการหาเสียงครั้งนี้" นายชูวิทย์กล่าว
ส่วน ม.ล.ณัฏฐกร เทวกุล อดีตผู้คิดสมัครผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า พิจารณาแล้วตัดสินใจที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ แต่ไม่ใช่การถอดใจอย่างที่สื่อบางสื่อกล่าวหา แต่เป็นเพราะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ และคิดว่าเลือกไปก็คงจะแพ้นายอภิรักษ์ ที่มีความพร้อมมากกว่า
"ผมไม่ต้องการจะเป็นสีสันให้ใคร และไม่อยากถูกน็อค ผมต้องการความพร้อมมากกว่านี้ ถ้าเปรียบผมกับคุณอภิรักษ์เหมือนนักมวย เขารุ่นเฮฟวี่เวท แต่ผมแค่เวลเตอร์เวท เท่านั้นเป็นมวยคนละรุ่น ถ้าลงแล้วผมต้องการชนะ ไม่ใช่แค่ลงไปหยั่งเสียงเท่านั้น" ม.ล.ณัฏฐกรณ์กล่าว
ฝั่งนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี บุตรชายนายปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายปลอดประสพ ล่าสุด ทราบว่า ตัดสินใจไม่ลงสมัครแน่นอน ส่วนสาเหตุไม่ทราบ และเวลานี้นายปลอดประสพ เดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดกลับวันที่ 8 กันยายนนี้ ซึ่งเลยกำหนดการรับสมัครเลือกตั้งไปแล้ว
สำหรับ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทางพรรคพลังประชาชน จะทาบทามเพื่อให้ลงสมัครในนามพรรคพลังประชาชนนั้น เพื่อนสนิทนายปานปรีย์คนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า นายปานปรีย์ คงจะไม่ตอบรับคำเชิญของพรรคพลังประชาชนครั้งนี้ เพราะระยะเวลากระชั้นชิดเกินไป ไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน
นางลีนา จังจรรจา กล่าวว่า ตัดสินใจลงรับสมัครครั้งนี้แน่นอน เพราะมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งถึง 70% มากกว่าครั้งก่อน ที่มั่นใจแค่ 2% เท่านั้น โดยฐานเสียงครั้งนี้มาจากผู้หญิงใน กทม. ที่มีมากกว่า 3 ล้านคน มีสโลแกนประจำตัวว่า "หญิงต่อมชั่วน้อยกว่าชาย หญิงมีคุณธรรมมากกว่าชาย" วันสมัครนั้นจะมีทีมงาน ชาย 100 คน หญิง 100 คน โดยผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบนสีเหลืองทอง ผ้าโพกศีรษะสีแดง ที่เลือก 2 สีนี้เพราะต้องการคะแนนเสียง 2 ฝ่าย ทั้ง นปก.และพันธมิตร
วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจ "คนกรุงเทพฯคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯปี 51� ปรากฏว่านายอภิรักษ์ ได้ร้อยละ 43.30, ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ร้อยละ 13.16 นาย นายชูวิทย์ ร้อยละ 6.94 นอกจากนี้โพลยังได้ระบุคุณสมบัติของผู้ว่าฯ กทม.ที่ประชาชนต้องการว่า ร้อยละ 28.82 ต้องการผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นคนพูดจริงทำจริง สามารถปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ได้ ร้อยละ 24.61 ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ และเป็นคนดี ร้อยละ 15.08 ต้องรู้และเข้าใจปัญหาของ กทม.อย่างแท้จริง
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก