กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ต่างด้าวงัดบัตรรักษาความปลอดภัยเบ่งใส่ตำรวจรายนี้เกิดดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ส.ค. 2551 พ.ต.ท.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง สว.สส.ปป.ศตม.ภ.เหนือ ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ ปาเกี๋ยง รอง สว.สส.ปป.ศตม.ภ.เหนือ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทำงานในร้านจำหน่ายผ้าม่านแห่งหนึ่ง บริเวณตลาดเมืองใหม่ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปทำการตรวจสอบ เมื่อไปถึงได้สังเกตเห็นชายลักษณะคล้ายคนต่างด้าวกำลังตัดแบ่งผ้าอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมขอดูบัตรอนุญาต แต่ชายคนดังกล่าวได้แสดงเอกสารบัตรประจำตัวชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)อาสาพัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.) ที่ 35/2550 หมายเลขประจำตัว 0050881004995 ระบุชื่อ นายนิจ ลุงออ ออกโดยอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ และนายนิจฯ ยืนยันว่าตัวเองเป็นคนสัญชาติไทย แต่เจ้าหน้าที่ฯ ไม่เชื่อ เพราะบัตรประจำตัวประชาชนของคนไทยหมายเลขแรกจะไม่ขึ้นต้นด้วย 00 จึงให้นายนิจฯ นำเอกสารอื่นมาแสดง นายนิจฯ ได้นำรายงานประจำวันรับแจ้งเอกสารหาย เลขที่ 089 ออกโดย สภ.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2551 ระบุชื่อ นายนิตย์ จันตาและข้อความ เอกสารที่หายคือ บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์, บัตรประกันสังคม และบัตร ATM มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูแล้วปรากฏว่าชื่อไม่ตรงกับบัตร (ชรบ.) แต่นายนิจฯ ก็ยังให้การว่าตนเป็นบุคคลสัญชาติไทยมีบัตรถูกต้องแต่แจ้งหายไว้
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัว 13 หลักของนายนิจฯ โดยประสานฝ่ายทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง ปรากฏว่าไม่พบบุคคลตามหมายเลขดังกล่าว จึงประสานไปยังกรมการจัดหางาน ของตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ปรากฏว่าหมายเลขที่ระบุในบัตร (ชรบ.)ของนายนิจฯ เคยมีการออกใบอนุญาตทำงานให้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2548 ถึง 30 มิ.ย. 2549 ระบุชื่อนายนิจ ลุงออ ซึ่งชื่อตรงกับที่ระบุในบัตร (ชรบ.) เมื่อปรากฏข้อมูลชัดเจนว่านายนิจฯ ไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย นายนิจฯ จึงให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่า เข้ามาในประเทศไทยกับพ่อแม่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เข้ามาทางหมู่บ้านหนองอุก อ.ฝาง โดยอาศัยอยู่ที่บ้านแม่ขา อ.ฝาง ส่วนเรื่องที่ไปแจ้งความว่าเอกสารหายนายนิจฯ ให้การว่าตนเองเคยทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ตนได้รับคำแนะนำจากนายสี ไม่ทราบนามสกุลซึ่งทำงานอยู่ด้วยกัน ให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แฝก โดยนายสี จะดำเนินการไปแจ้งความเอกสารหายให้โดยเรียกเงินในการดำเนินการ 500 บาทเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วยังได้คำแนะนำจากนายสีอีกว่าถ้าตำรวจขอดูบัตรประชาชน ก็ให้ยื่นรายงานประจำวันรับแจ้งเอกสารหายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ไม่ถูกตำรวจจับกุม หลังสอบสวนเสร็จ จึง แจ้งและใช้เอกสารข้อความอันเป็นเท็จอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 267 เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|