• มติแกนนำพันธมิตรฯไม่สนพรก. ยืนยันชุมนุมจนกว่า สมัคร ออก |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 02 ก.ย. 51 เวลา 20:39:43 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
โดย คม ชัด ลึก
วัน อังคาร ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 12:51 น.
|
แกนนำพันธมิตรฯไม่สนพรก. ยืนยันชุมนุมจนกว่า นายกรัฐมนตรีจะลาออก
มติ 5 แกนนำพันธมิตรฯไม่สน พรก.ยืนยันที่จะชุมนุมจนกว่า สมัคร ลาออก ระบุ เจ้าหน้าที่ จงใจ ให้ นปช.ปะทะ พันธมิตรฯ
(2ก.ย.) นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำพันธมิตรร่วมแถลงกรณีรัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน นายพิภพ กล่าวว่า มติของ 5 แกนนำพันธมิตรยืนยันที่จะชุมนุมต่อ เข้าเป้าหมายสูงสุดคือนายกรัฐมนตรีต้องลาออก และพรรคพลังประชาชนต้องไม่เป็นรัฐบาล เนื่องจากการประกาศ พรก.ฉุกเฉินเกิดจากการสร้างสถานการณ์ เพื่อใช้กำลังเข้าสลายชุมนุม โดยใช้นปช.เป็นตัวขับเคลื่อนดังนั้นเหตุผลจึงไม่เพียงพอ ซึ่งพรก.ดังกล่าวดังถือเป็นการขัดรธน.มาตรา 63 เรื่องสิทธิการชุมนุม โดยสันติและความสงบของประชาชน
ซึ่งเห็นได้ว่า รัฐบาลพยายามละเมิดสิทธิของประชาชน ตั้งแต่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมาปิดคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลแพ่ง เพื่อสลายการชุมนุมและทำลายข้าวของ และเวทีพันธมิตรที่ เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถือเป็นการใช้หน้าที่เกินอำนาจของศาล ในการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนปลอม ทำร้ายร่างกายที่บริเวณ บชน.โดยที่พันธมิตรไม่เคยตอบโต้รุนแรงแต่อย่างไร กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการสร้างสถานการณ์ โดยมีส.ส.พรรคพลังประชาชน ระดมประชาชนจากภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในชื่อนปช.ที่ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวง แทนที่จะมีการชุมนุมอยู่ตรงนั้น แต่ นปช.จะมีการเคลื่อนพลมา เวลา 5 ทุ่มเศษ และเตรียมที่จะตั้งเวทีที่สี่แยกจปร.
ซึ่งพันธมิตรก็ไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่ง เพราะถือต่างคนต่างแสดงออก ในการชุมนุมทางการเมือง แต่ปรากฏว่ากลุ่มนปช.จะทำตนเป็นแก๊งค์อันธพาลครองเมือง โดยยกคนเข้ามาประชิดเวทีของพันธมิตร จนเกิดการทำร้ายร่างกาย โดยที่นปช.เข้ามาทำร้ายพันธมิตรก่อน เหมือนกับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจงใจปล่อยให้ นปช.เข้ามา ทั้งๆ ที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารน่าจะระงับเหตุได้ แต่การปล่อยให้นปช.เข้ามาทำร้ายพันธมิตร เป็นเงื่อนไขของรัฐบาลที่จะนำไปสู่การใช้ พรก.ฉุกเฉิน โดยให้แม่ทัพบกเป็นประธาน ถือว่าเป็นการโยนภาระให้ทหาร เพื่อเผชิญหน้ากับประชาชนโดยตรง เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ใช้ตำรวจ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้นทางกลุ่มพันธมิตร จึงจะแสดงอารยะขัดขืน โดยไม่สนใจการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน เพราะรัฐบาลนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ โดยเฉพาะการกระทำที่ขัด รธน.190 จึงถือว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะประกาศใช้ พรก.ดังกล่าว ดังนั้นจะชุมนุมต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะลาออก
หาก การกระทำของนายสมัครครั้งนี้ ถือว่าเป็นพฤตคิกรรมที่เห็นแก่ตัว เอาประโยชน์เฉพาะตัว เพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีอนาคตทางการเมืองแล้ว จึงไม่คำนึงต่อการเสียหายทางการเมือง ที่จะส่งผลกระทบต่อความเสียหายของประเทศชาติ เพราะนายสมัครไม่มีค่าอีกต่อไป ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเห็นแก่ได้ วิธีเดียวที่จะทำให้ปัญหาไม่ลุกลามเกิดการเผญิชหน้าจนถึงขั้นนองเลือด นายกสมัครควรจะลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชาชนไม่สมควรจะเป็นพรรครัฐบาลอีกต่อไป
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่ม นปช.ได้รับจ้างมาหัวละ 500 บาท ซึ่งจากการสอบถาม นปช.บางคนที่ได้รับบาดเจ็บและทางพันธมิตรนำ ตัวส่งโรงพยาบาลพบว่า นปช.ดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้พามา เพราะกลุ่ม นปช.ประกาศตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 น.ของวันที่ 1 ก.ย.ว่าจะเดินทางมากดดัน ที่ทำเนียบรัฐบาลโดยจากสนามหลวงถึงทำเนียบรัฐบาลมีระยะห่างประมาณกว่า 2 กิโลเมตร โดยกลุ่ม นปช.เริ่ม เคลื่อนตัวในเวลา 5 ทุ่มเศษ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ ตร.เพียง1กองร้อย ก็สามารถที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกับเดินนำหน้าปล่อยให้ นปช.มาประชิดกับกลุ่มพันธมิตร จนเกิดการทำร้ายของประชาชน ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า ประชาชนก่อจราจล จะต้องนำไปสู่การประกาศพรก.ฉุกเฉินและทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการกระทำของรัฐบาลครั้งนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้ง เหมือนกับเหตุการณ์พฤษภาคม 35 และเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 16 ดังนั้นการชุมนุมของพันธมิตรจึงต้องยืนยันชุมนุมต่อ ไป โดยในช่วงบ่ายจะมีสหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 43 องค์กรเดินทางมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรด้วย และในวันที่ 3 กันยายน 51 กลุ่มผู้ชุมนุมจะเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นวันประกาศหยุดงานของสหภาพแรงงาน และจะมีการเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืน โดยการตัดน้ำ ตัดไฟ ในสถานที่ราชการสำคัญๆ รวมถึงบ้านของนักการเมืองด้วย
นายพิภพ กล่าว่า การประกาศ พรก.ฉุกเฉินของนายสมัคร เป็นการให้ทหารเข้ามาเผชิญหน้ากับประชาชน เนื่องจากให้แม่ทัพบกเป็นผู้รับผิดชอบการใช้พรก.ฉุกเฉินดัง กล่าว ซึ่งหากแม่ทัพบกไม่ดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล ก็จะนำไปปลดแม่ทัพบก และมีการตั้งนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวพันตำรวจโททักษิณ ขึ้นมาทำหน้าที่แทน ซึ่งจะทำให้นายสมัครมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งตำรวจและทหารเพื่อประโยชน์กับพันตำรวจโททักษิณ อย่างเต็มรูปแบบและสุดท้ายก็จะมีการพาตัวพันตำรวจโททักษิณ กลับประเทศไทยต่อไป ดังนั้นหากสถานการณ์บานปลายรุนแรงถึงขั้นนองเลือด ประชาชนเสียชีวิต รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
|
|
|
|
สนับสนุนเนื้อหาโดย
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1160 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 02 ก.ย. 51
เวลา 20:39:43
|