พันธมิตรฯ กร้าว ไม่เอาทุกทาง ถึงยุบสภา ก็ไม่เลิกม็อบ เปลี่ยนขั้ว ปชป.ตั้งรัฐบาลก็ไม่เอา เผยใต๋ นายกฯคนใหม่ อาจไม่อยู่ในสภา
(3ก.ย.) เวลา 10.00 น.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ แถลงถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ว่า ยืนยันว่ามาตรการนัดหยุดงานของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) ยังเป็นไปตามที่ได้ประกาศไว้ทุกประการ แต่จะดำเนินการอย่างไร ที่ไหนอย่างไร ขึ้นอยู่กับสรส.และรัฐวิหาหกิจแต่ละแห่ง ไม่เกี่ยวกับแกนนำ เรื่องนี้สรส.คิดเอง ทำเอง ส่วนการตัดน้ำตัดไฟ หน่วยงานราชการนั้น เข้าใจว่าทางสรส.ยังเกรงว่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในกรณีที่ประชาชนเดือดร้อน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงจุดยืนต่อแกนนำพันธมิตรฯแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงที่ประกาศไว้ทำได้หรือไม่หรือแค่เป็นการขู่โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ สื่อก็เสียหายที่รายงานไปก่อนแล้ว ตนจะไปถามสรส.ว่าทำได้หรือไม่ ส่วนตัวแล้วหากอะไรที่ทำไม่ได้ก็ไม่พูด แม้แต่ไม่แน่ใจก็ไม่พูด จะพูดก็ต่อเมื่อได้ทำไปแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงท่าที พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ยืนยันจะไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม ว่า ถ้าเป็นหลักการที่ไม่ใช้ความรุนแรงพันธมิตรฯพอใจแน่ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจากับนายสมัคร และฝ่ายใดก็ตามหากนายสมัคร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ลาออก และย้ำว่าข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯคือให้นายกฯลาออกแล้วรัฐบาลต้องออกไปทั้งหมดจะเปลี่ยนหน้าตามาเป็นนายกฯเราไม่เอาทั้งนั้น หรือยุบสภาเราก็ไม่เลิกชุมนุมเพราะการยุบสภาเป็นการแก้ปัญหาของนักเลือกตั้ง ไม่ใช่แก้ปัญหาประชาชน พันธมิตรฯจะไล่นายสมัคร ต่อไปเพราะเขายังอยู่ก็มีโอกาสโกงเลือกตั้งได้
ส่วนการจะสลับขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราเรียกร้อง แม้ว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมพรรครัฐบาลปัจจุบันก็รับไม่ได้เพราะนักการเมืองเหล่านี้ล้วนเคยทำความผิดร่วมกันทั้งโดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหาร เราเห็นธาตุแท้มาแล้วทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ยอมรับพรรครัฐบาลแต่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีเสียงไม่พอที่จัดตั้งรัฐบาล เท่ากับว่าข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯจะไม่มีทางเป็นจริงได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บ้านเมืองไม่เคยอับจนหนทาง ในที่สุดต้องหาทางออกได้ ขณะนี้พันธมิตรฯได้มองเห็นช่องทางแล้ว ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เวลาอ่านรัฐธรรมนูญต้องอ่านหลายมาตรา เหมือนอ่านนิยาย แล้วจะเห็นช่องทาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วผู้นำคนใหม่ที่ตรงกับความต้องการพันธมิตรฯเป็นแบบไหน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่คุยกันในรายละเอียด แต่หลักใหญ่คือต้องไม่มีประวัติการโกง การทุจริต ต้องบริหารเพื่อประเทศชาติประชาชนแท้จริง ยอมรับการตรวจสอบ พวกที่อยู่ในสภาแบบนี้เราไม่ยอมให้นำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นักการเมืองที่ไม่เคยมีประวัติไม่ดี ในสภาจะยังมีหลงเหลืออยู่หรือ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อาจเป็นคนที่เราไม่เคยเห็นตาเลยก็ได้ จริงๆแล้วสังคมไทยมีคนดีเยอะมาก แต่คนเลวๆทั้งนั้นที่อยู่ในกระบวนการเลือกตั้ง 90 เปอร์เซนต์ ที่ไม่ดี
ส่วนที่นักวิชาการเสนอว่าหากนายสมัครลาออก แล้วพันธมิตรฯควรมอบตัว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องมอบตัวเป็นเรื่องอนาคต เรายืนยันว่าไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ขณะนี้กำลังอุทธรณ์พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ ทั้งนี้ต้องดูว่านักวิชาการที่เสนอนั้นเป็นใครเพราะมีนักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยทำอะไร แต่พอถึงเวลามานั่งแถลงข่าว ซึ่งตนไม่ให้ราคานักวิชาการพวกนี้ ไร้ค่าไม่จำเป็นต้องฟัง โดยเฉพาะข้อเรียกร้องแบบนี้ที่ให้ถอยคนละก้าวนั้นแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะกลุ่มหนึ่งอยู่กับที่แต่กลุ่มหนึ่งมาไล่ตีเมื่อเกิดเรื่องจะให้ถอยคนละก้าวได้อย่างไร
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลสร้างฉากให้เกิดการปะทะจนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นการทำร้ายบรรยากาศการลงทุนของประเทศอย่างรุนแรง แต่สำหรับพันธมิตรฯการประกาศยิ่งเข้มแข็งขึ้น วันนี้ทุกคนไม่กลัวรัฐบาลแล้วไม่ว่าจะฉุกเฉินอย่างไร แต่เราก็ป้องกันการสลายการชุมนุมโดยระวังทุกวินาที
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก