ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันนี้ (4 ก.ย.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ มีมติให้ทำประชามติเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า การกระทำของรัฐบาลไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะการทำประชามติเพื่อแก้ไขวิกฤติการเมืองจะทำไม่ได้ และเห็นว่ารัฐบาลหาทางออกง่ายๆ นอกจากนี้ พรรคพลังประชาชนก็กำลังเข้าสู่กระบวนการยุบพรรคแล้ว อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลจะทำประชามติกับประชาชนเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้สามารถทำได้ และยืนยันว่าพันธมิตรฯ ยังคงรับฟังความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่ายอยู่แล้ว แต่จุดยืนยังคงเหมือนเดิมตามที่เคยประกาศไว้ คือให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลลาออก
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาล ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องแม้สภาพอากาศจะร้อนก็ตาม ส่วนบนเวทีปราศรัยยังคงมีแกนนำผลัดกันขึ้นปราศรัยโจมตี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นเรื่องการทำประชามติเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองในขณะนี้ ว่า เวลานี้อาจสายเกินไปแล้วที่จะนำการทำประชามติมาใช้แก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะถือปัญหาการเมืองเร่งด่วนเฉพาะหน้า ที่จะต้องเร่งแก้ไข ซึ่งการประชุมวุฒิสภาวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ได้มีการบรรจุร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว แต่หากจะพิจารณากฎหมายนี้ให้แล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุดต้องใช้เวลา 1 เดือน ดังนั้นทางที่ดีควรแก้ไขด้วยกระบวนการทางรัฐสภา
ส่วนที่จะมีการหารือของผู้นำ 3 ฝ่าย ว่าจะมีการเปิดประชุมร่วม 2 สภาในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า จากการหารือกับสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน มีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือเห็นว่า การประชุมร่วมสภาไม่เกิดประโยชน์ ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่า น่าจะเป็นช่องทางในการเสนอแนะทางออกใหม่ๆ ได้ ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 หากสภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบในวันพรุ่งนี้ สมาชิกวุฒิสภาจะบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 12 ก.ย. แต่หากมีการยุบสภาก่อนวันที่ 12 ก.ย. คงต้องใช้ร่างเดิม
ขณะที่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมคารวะ ประธานวุฒิสภา ว่า เพื่อให้กำลังใจฝ่ายนิติบัญญัติในการแก้ไขปัญหาการเมืองให้สำเร็จ เนื่องจากนานาชาติให้ความสนใจและได้สอบถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองได้ชี้แจงกับหลายประเทศไปแล้ว โดยขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านวิกฤตการเมืองครั้งนี้ไปได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการแสดงบทบาทการเป็นประธานอาเซียนของไทยอยู่บ้าง จึงขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติระดมหาทางคลี่คลายสถานการณ์เป็นการด่วน
ที่มา ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|