กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แล้วเหตุระทึกที่เกิดจากปัญหาพิษรักวัยเรียนก็มีให้เห็นอีกจนได้ เมื่อนักเรียนหนุ่มชั้นม.3 ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นโรงเรียนดังในจ.ลำพูน ก่อเหตุใช้มีดจี้แฟนสาวนักเรียนชั้นม.6 อย่างน่าเสียวไส้ ร้อนถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง และครูอาจารย์รวมทั้งตำรวจ ต้องรุดเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย ซึ่งกว่าจะพูดจาหว่านล้อมให้ฝ่ายชายยอมวางมีดได้ก็ต้องใช้เวลานานเกือบ 8 ชั่วโมง
ห้วงเวลาผ่านไปด้วยความระทึก!!
เบื้องหลังนาทีเฉียดตายครั้งนี้ เกิดจากการที่ฝ่ายชายเกิดอาการเครียด ที่ฝ่ายหญิงซึ่งคบหาเป็นแฟนกันเป็นนักเรียนรุ่นพี่ชั้นม.6 ที่จะต้องเรียนจบก่อน จึงหวาดระแวงว่าจะไปมีชายอื่น สุดท้ายจึงตัดสินใจพกมีดบุกจี้ฝ่ายสาวหน้าโรงเรียนเพื่อเรียกร้องความสนใจ กว่าจะกล่อมได้ก็เล่นเอาเหงื่อตก
ย้อนไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอน 7 โมงเช้า วันที่ 10 ก.ย. ที่บริเวณถนนสายลำพูน-ป่าซาง หน้าโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจ.ลำพูน ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อยู่ ต.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน นักเรียนชั้นม.3 ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมจี้บังคับ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นม.6 อยู่ ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน แฟนสาว ในสถาบันเดียวกัน ไว้เป็นตัวประกัน หลังจากที่ฝ่ายชายเครียดจัด เพราะกลัวว่าฝ่ายหญิงที่ใกล้เรียนจบแล้วจะคิดตีตัวออกห่าง
เพียงเท่านั้นก็เกิดเหตุร้ายขึ้นด้วยเพราะเหตุดังกล่าวเกิดในตอนเช้า จึงมีนักเรียนและผู้ปกครองขวักไขว่มากมาย ต่างพากันมุงดูเหตุการณ์ที่น่าเสียวไส้ โดยนายเอใช้มีดปลายแหลมยาว 5 นิ้ว จี้คอ น.ส.บีด้วยท่าทางเอาเรื่องเดินทำตาขวางไปตามถนนหน้าโรงเรียน ท่ามกลางความตกอกตกใจของผู้พบเห็น ห้วงนั้นผู้ปกครอง และครูพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายเอ เข้าไปพูดคุยกันที่ห้องแนะแนวในโรงเรียน พร้อมแจ้งตำรวจสภ.เมืองลำพูน ภายใต้การนำของพล.ต.ต.ณธนนท์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบก.ภ.ลำพูน, พ.ต.อ.ณรงค์ชัย วงศ์สามี รองผบก. พ.ต.อ.ชนินทร์ แจ้งกระจ่าง ผกก.สภ.เมืองลำพูน, พ.ต.ท.สัมพันธ์ จันทร์มั่งคั่ง รอง ผกก.(ป), พ.ต.ท.สถาพร โพธิ์ศรี รองผกก.(สส.), พ.ต.ท. ดนัย ใจกล่ำ สวป. ให้รุดมาช่วยเจรจาก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย
สถานการณ์ในห้วงนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานหลายชั่วโมง ก็ไม่ทำให้นายเอใจเย็นลงแต่อย่างใด ยิ่งนานไปฝ่ายหญิงก็ยิ่งมีอาการตื่นตระหนกตกใจ อยู่ในอาการหน้าซีดเผือด ร้องขอชีวิตอยู่ตลอดเวลา โดยนายเอระบายความอัดอั้นตันใจว่า รักกันมานานแล้ว โดยไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางกั้น ที่ทำเช่นนี้ก็เพราะรัก ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายพยายามจะตีตัวออกห่าง เพราะกำลังจะเรียนจบม.6 แต่ตนเองยังเรียนอยู่ม.3 เลยกลัวว่า ฝ่ายหญิงจะไปเจอผู้ชายคนอื่น และยืนยันว่าจะขออยู่กินกับ น.ส.บี ในระหว่างเรียนหนังสือจนกว่าจะเรียนจบ
ยิ่งเวลาผ่านไปเหตุการณ์ก็ยิ่งเขม็งเกลียวขึ้น เพราะยังตกลงกันไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงรีบพาพ่อแม่นายเอมาร่วมเกลี้ยกล่อม แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะผู้ใหญ่เล็งเห็นว่าต่างฝ่ายต่างก็ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันทั้งคู่ หากอยู่ด้วยกันเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง
เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งทำให้นายเอเครียด ทำท่าจะกดมีดลงคอ น.ส.บีด้วยท่าทีขึงขัง ตำรวจต้องเกลี้ยกล่อมให้นายเอลดความโมโหลงจากเดิม
เวลาผ่านไปเกือบบ่าย 3 เจ้าหน้าที่จึงขอเปิดเจรจาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ผอ.ของโรงเรียนดังกล่าว ได้เข้าร่วมเจรจาพร้อมนักจิตวิทยา และผู้ปกครอง โดยเสนอให้ทั้ง 2 ตั้งสติให้ดี เนื่องจากโรงเรียนเป็นโรงเรียนมีชื่อของจังหวัด มีนักเรียนจำนวนมากทั้งที่เรียนจบออกไปแล้ว และกำลังเรียนอยู่ จะทำอะไรให้คำนึงถึงชื่อเสียงของโรงเรียน การกระทำครั้งนี้ ถือว่าทำให้โรงเรียนเสียหาย ขอให้นายเอคิดให้ดี และขอยืนยันว่าทางโรงเรียนจะไม่เอาผิดกับนายเอ ส่วนนักเรียนหญิง หรือผู้ปกครองจะแจ้งความดำเนินคดีกันหรือไม่ ให้ไปตกลงกันเอง แต่อย่าก่อปัญหาให้ทางโรงเรียน และขอให้เลิกกระทำดังกล่าว
ด้วยสามัญสำนึกที่มีจึงทำให้นายเอ เริ่มมีอาการโอนอ่อนไปตามคำกล่อมของผู้ใหญ่ กระทั่งนายเอยอมคืนมีดให้กับผอ.โรงเรียน และขอกลับไปบ้านโดยไม่มีการจับกุม ซึ่งทางฝ่ายครูที่เจรจาก็ยอมทุกอย่างที่เด็กขอ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยอมตามข้อตกลงเช่นกัน แต่กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ตำรวจจะออกหมายเรียกตัวมาสอบสวนในภายหลัง
นาทีนั้นต้องยอมทำตามเพื่อลดความรุนแรงในเหตุการณ์
หลังทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ทางโรงเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นักจิตวิทยา และเจ้าหน้าที่ในส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือกันเพื่อหาข้อสรุปของเหตุการณ์ และมีความเห็นตรงกันว่า จะต้องนำกฎหมายคุ้มครองเด็ก และเยาวชนเข้าไปดำเนินการกับนายเอ ส่วนการดำเนินคดีให้ชะลอไปก่อน
สำหรับปูมหลังของเหตุร้ายครั้งนี้ เกิดจากการที่นักเรียนทั้ง 2 คน แอบชอบพอกันมานานแล้ว และล่าสุดฝ่ายหญิงจะเรียนจบจากโรงเรียนในปีนี้ ส่วนฝ่ายชายมีอายุน้อยกว่าจะต้องเรียนอีก 3 ปี ฝ่ายชายเกรงว่าฝ่ายหญิงจะไปมีแฟนใหม่ นอกจากนี้ฝ่ายหญิงยังเรียนเก่ง และอาจจะกลายไปเป็นดาวในสถาบันอื่น ซึ่งทางฝ่ายชายคิดหนักมาตลอดทั้งคืน จนรุ่งเช้ามาเรียนหนังสือตามปกติ เมื่อมาเจอกันกับแฟนสาวแล้ว จึงพูดคุยกันอยู่หน้าโรงเรียน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงใช้มีดจี้บังคับฝ่ายหญิง
กล่าวถึงเหตุการณ์ลักษณะนี้ น.พ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลมนารมย์ ออกมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาว่า พฤติกรรมการแสดงออกของเด็กเมื่อเกิดความผิดหวังในความรัก และแสดงออกมาในลักษณะเช่นนี้ ไม่ควรตำหนิเด็ก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอให้หลายฝ่ายมองในมุมมองของเด็ก ซึ่งการแก้ปัญหาหรือช่วยเหลือเด็ก ควรทำโดยครูและผู้ปกครอง เนื่องจากเด็กอยู่ที่โรงเรียนมากกว่าบ้าน ซึ่งก่อนเกิดเหตุใดๆ น่าจะมีสัญญาณบางอย่างบ่งบอกบ้าง เช่น เด็กมีอาการซึม พฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนไป อารมณ์ผิดปกติ เพราะไม่มีเด็กคนไหนที่อยู่ๆ ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยทำ การป้องกันและแก้ไขควรให้ผู้ปกครองทำความสนิทสนมกับเพื่อนลูก และชวนเพื่อนลูกมาเที่ยวบ้าน เพื่อสังเกต และหากมีอะไรที่ผิดปกติสอบถามเพื่อนของลูกจะทราบก่อนล่วงหน้า และช่วยเหลือได้ทันท่วงที รวมถึงครูที่ต้องสังเกตเพื่อช่วยเหลือเด็ก ทั้งนี้การแก้ไขจากต้นเหตุจริงๆ คงต้องเริ่มจากการเลี้ยงดูเพื่อป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้น
น.พ.กัมปนาท กล่าวอีกว่า หากจะแก้ปัญหาที่ตัวของเด็กเองอาจทำได้ลำบาก เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น เด็กที่มีสัมพันธภาพกับเพื่อนดี มีอะไรก็จะเล่าให้เพื่อนฟัง ก็จะเข้าช่วยเหลือง่ายหากมีสิ่งมากระทบ ส่วนเด็กที่ซ่อนตัวเงียบ ไม่มีสัมพันธภาพกับเพื่อน อาจติดตามดูแลได้ลำบาก อย่างไรก็ตามเด็กที่ก่อเหตุอาจมีประวัติทำอะไรบางอย่างมาก่อนหน้านี้ หรือมีปัญหาเดิมซ่อนอยู่ เช่น เมื่อโกรธจะลุกขึ้นมาขว้างปาข้าวของ มีปัญหาชกต่อยกับเพื่อน ซึ่งการก่อเหตุอาจทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม หากคนรอบข้างช่วยกันสังเกตเชื่อว่าปัญหาลักษณะเช่นนี้จะลดลงแน่นอน
ต้องช่วยกัดสอดส่องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|