• เศรษฐีนีหาดใหญ่ แค้นเพื่อนข่มขืน |
โพสต์โดย reporter , วันที่ 28 ก.ย. 51 เวลา 23:18:18 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เศรษฐีนีหาดใหญ่วัย51 แค้นถูกน้องชายอดีตรอง ผบช.ภ.1 ข่มขืน คว้าขวาน-มีดอีโต้ฟันหัวดับทิ้งศพคาบ้าน เจ้าตัวพลาดถูกมีดตัดเอ็นนิ้วก้อยขาด เรียกเพื่อนบ้านช่วยพาส่ง รพ.อ้างสู้กับโจร ก่อนตัดสินใจโทรบอกตำรวจไปดูศพ
เมื่อ เวลา11.00 น.วันที่ 28 กันยายน ร.ต.ท.เวชกรชวลิต ร้อยเวร สน.แสมดำได้รับแจ้งเหตุจาก นางสิริพร อนันต์กล ยุทธ อายุ 51 ปีเจ้าของบ้านเลขที่ 192/67 หมู่บ้านลลิลกรีนวิลล์ แยก 5 ซอย เอกชัย131 แขวงและเขตบางบอน กทม. ว่า
เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 27 กันยายนได้ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนชายภายใน บ้านพักหลังดังกล่าว โดยได้ใช้อาวุธต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งขณะนี้นางสิริพร ได้เข้าไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครธน
หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.สุรเดชบุ ณณชนก สว.สส.สน.แสมดำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาล ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว2 ชั้นปลูก อยู่บนเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวาเจ้าหน้าที่พบรอยเลือดหยดเป็นทางจากประตู ทางเข้าบ้านขึ้นไปถึงบันได และเมื่อเดินขึ้นไปตรวจสอบภายในห้องน้ำบน ชั้น 2 ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบศพนายสำนวน เลาหบุตร อายุ 50 ปีเซลล์แมนขายเครื่องมือแพทย์
ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.ต.ต.สำเนา เลาหบุตร อดีต รอง ผบช. ภ.1 เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ในสภาพสวมเสื้อแขนกุดสีขาวกางเกงใน สีดำ ที่ศีรษะมีผ้าเช็ดตัวสีขาวคลุมอยู่ สภาพศพถูกของมีคมฟันเข้าที่บริเวณ หน้าผาก ด้านข้างศีรษะ ท้ายทอย สะบักหลัง และท่อนแขนทั้ง 2 ข้างเป็นบาดแผล ฉกรรจ์นับ 10 แผล
นอกจากนี้ที่จมูกและใบหน้ายังมีรอยฟกช้ำคล้ายถูกกระแทกด้วยของ แข็ง ที่บริเวณด้านข้างโถชักโครกเจ้าหน้าที่พบขวาน มีดอีโต้ และมีดปอกผล ไม้ เปื้อนเลือดตกอยู่ ส่วนภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กันเจ้า หน้าที่พบรอยคราบเลือดสาดกระเซ็นเต็มทั่วฝาผนัง และยังพบร่องรอยการต่อสู้จน ข้าวของกระจัดกระจาย
จากการสอบปากคำนายสมบุญ ขจรวีรพันธ์ อายุ 50 ปีเพื่อนบ้านของนาง สิริพร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสิริพร ได้มากดกริ่งเรียกตนเพื่อขอความ ช่วยเหลือให้นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง เนื่องจากเจ้าตัวอยู่ในสภาพสะบัก สะบอม อ้างว่า
ขณะทำสวนปลูกต้นไม้ได้ถูกมีดดายหญ้าบาดเข้าที่นิ้วก้อยมือ ซ้าย และนิ้วชี้มือขวา จึงขับรถพาไปส่งโรงพยาบาบาลพระราม 2 เมื่อเอ็กซเรย์ ออกมาพบว่าเอ็นนิ้วก้อยมือข้างซ้ายขาด ไม่มีแพทย์ผู้ชำนาญการในการเย็บ จึง ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครธน
จากนั้นตนได้กลับมาที่บ้าน จนกระทั่งวันนี้ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมากันหลายหน่วย จึงได้โทรศัพท์ไป สอบถามนางสิริพร อีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าตัวจึงได้อ้างกับตนอีก ว่า เมื่อคืนก่อนมีโจรปีนเข้าบ้านจึงเกิดการต่อสู้กันและนางสิริพร ได้ใช้ มีดแทงโจรจนเสียชีวิต
"คุณสิริพรมีฐานะระดับเศรษฐีนีคนหนึ่งของเมืองหาดใหญ่ เพราะครอบ ครัวทำกิจการขายอะไหล่รถ ส่วนบ้านหลังนี้ซื้อมานานประมาณ 4 ปีแล้ว อยู่กับ สามีและลูกๆ แต่ไม่ค่อยมีคนมาอยู่ ส่วนใหญ่คุณสิริพร จะขับรถจากหาดใหญ่มา พักที่นี่เพียงลำพัง
เฉลี่ยแล้ว 2 เดือนต่อครั้งโดยมาพักครั้งละ ประมาณ 15 วันถึง 1 เดือนส่วนสามีไม่ค่อยมาด้วย เพราะต้องอยู่ดูแลกิจการที่ หาดใหญ่ ที่ผ่านมาเวลาไม่มีใครอยู่บ้าน คุณสิริพร ก็จะฝากให้ช่วยดูแล บ้าน" นายสมบุญกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปสอบสวนนางสิริพรที่โรงพยาบาล โดยนาง สิริพร ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริง เพราะโกรธแค้นที่ถูกผู้ ตายข่มขืน โดยก่อนหน้านี้คบกันแบบเพื่อนสนิทมานานนับ 10 ปีทุกครั้งที่มาพัก บ้านหลังนี้ ผู้ตายมักจะนัดตนไปกินเลี้ยงสังสรรค์โต๊ะแชร์กับกลุ่มเพื่อนฝูงอยู่เสมอ
โดยก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ตนนัด ไปกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่ร้านย่านบางบอน โดยมีผู้ตายร่วมเดินทางไป ด้วย ขากลับได้ขับรถไปส่งผู้ตายที่บ้านพัก ย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 จากนั้น ตนได้รีบกลับมาที่บ้านเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนแต่ปรากฏว่า
ผู้ตายนั่งรถ ย้อนตามมากดออดเรียกตนไปคุยที่หน้าบ้าน บอกว่าทะเลาะกับภรรยา ขอพัก ด้วย 1 คืนตนเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทคบกันมานาน จึงอนุญาตให้เข้ามานอน ด้วย ไม่คิดว่าจะถูกผู้ตายทำร้ายร่างกายและข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ไป 1 ครั้ง
"หลังจากเขาข่มขืนแล้วก็ออกไปเข้าห้องน้ำจึงฉวยโอกาสหยิบขวาน และ มีดที่อยู่ใกล้เตียงนอนเข้าไปฟันใส่เขาหลายครั้งด้วยความแค้นที่ถูกข่ม ขืน จากนั้นเดินลงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยพาส่งโรง พยาบาล ก่อนจะตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจ" นางสิริพรกล่าว
ด้านพ.ต.ท.สุรเดชกล่าวว่า จากการสอบสวนนางสิริพร ยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะบันดาลโทสะ แต่ทั้งนี้จะต้องให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนางสิริ พร และพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ให้แน่ชัด ก่อนนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา
โดยหลังเกิดเหตุตนและพนักงานสอบสวนได้พยายามเก็บรวบรวมและหาหลักฐานที่อยู่ในที่เกิด เหตุให้มากที่สุดแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่พบกางเกง และเอกสารของผู้ตายแต่อย่าง ใด คงจะต้องสืบสวนกันต่อไปว่ากางเกงและเอกสารผู้ตายหายไปได้อย่างไรกันแน่
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1918 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย reporter
IP: Hide ip
, วันที่ 28 ก.ย. 51
เวลา 23:18:18
|