กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อภิรักษ์ ส่อโดนใบเหลืองมติกกต. 3 ต่อ 5 ชี้มีมูล ชูวิทย์ รุก หล่อเล็ก ยื่นป.ป.ช.จี้สอบปมรถดับเพลิง
โค้ง สุดท้ายชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ชูวิทย์ ออกมาถล่ม อภิรักษ์ ปมจัดซื้อรถดับเพลิง พร้อมยื่นหนังสือจี้ ป.ป.ช.เร่งสรุปผลสอบ หล่อเล็ก ซัดเรื่องเก่าไม่มีประเด็นใหม่เหน็บให้ไปถาม ประภัสร์ ได้ ด้านตัวแทน พปช.ฉุนถูกกล่าวหาฮั้ว 3 ตุลาฯ กกต.ชี้ขาดป้ายตัวแทนปชป. ส่อใบเหลือง
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 8 เดินทางไปที่บริเวณป้ายรถเมล์ตรงข้ามรัฐสภา พร้อมเปิดแถลงข่าวเรื่องปัญหาการจัดซื้อรถดับเพลิง ของ กทม. โดยนำหุ่นจำลองสวมชุดดับเพลิง และรถดับเพลิงของเล่นมาประกอบการแถลงว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้เร่งรีบเปิดแอล/ซี มีพิรุธในการเซ็นลงนาม โดยใช้ลายมือ ไม่ใช้ตราประทับ และเซ็นขณะบัญชาการเจ้าหน้าที่ กทม.เข้าไปกู้ภัยตึกถล่ม เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2547 อีกทั้ง ยังมีคนชื่อ พ.ในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นคนจัดการเรื่องเอกสารเปลี่ยนแปลงแอล/ซี โดยตัดคำว่าประเทศไทยออก ทำให้ Loading ประเทศไทยไม่ได้ ต้องนำไปข้ามน้ำข้ามทะเลที่ประเทศออสเตรียมา ทั้งๆ ที่รถและเรือดับเพลิงดังกล่าวผลิตในประเทศไทย เป็นการหลบเลี่ยงที่ไม่โปร่งใส
"นอกจากนี้ ยังพบว่า บริษัท สไตเออร์ฯ ประเทศออสเตรีย ไม่ได้ซื้อสินค้าไปจริงๆ เนื่องจากสัญญาการค้าต่างตอบแทนไก่ต้มสุกกับรถดับเพลิงนั้น สินค้าดังกล่าว บริษัท ซีพีฯต้องขายต่างประเทศอยู่แล้ว แต่มาหลอกคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นว่า มีสัญญาต่างตอบแทนจริง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความร่วมมือของบริษัทไทยที่มาหลอกคนไทยทั้งประเทศ ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมารับผิดชอบ พร้อมชี้แจงตอบโต้ข้อกล่าวหา และผมจะไปยื่นหนังสือที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเร่งรัดสรุปผลสอบกรณีดังกล่าว" นายชูวิทย์กล่าว
นอก จากนี้ นายชูวิทย์กล่าวว่า น่าสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ตรวจสอบคนอื่นเสมอ เป็นพรรคที่หลายคนคิดว่ามีคุณธรรมสูง รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เห็นว่าคนอื่นเลวหมด
" ผมถามหน่อย (กลุ่มพันธมิตร) ตรวจสอบทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ตรวจสอบทุกคน แต่กลับยกเว้นพรรคนี้ นายอภิสิทธิ์ตรวจสอบทุกคน แต่ทำไมไม่ตรวจสอบนายอภิรักษ์ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค" นายชูวิทย์กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวไม่สนใจว่าจะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ ตนไม่สนใจ ไม่ได้เป็นก็อยู่ได้ แต่ความเป็นธรรมต้องเกิดขึ้น
เมื่อ เวลา 11.45 น. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หมายเลข 5 ให้สัมภาษณ์ที่สวนสันติชัยปราการ ว่า สิ่งที่นายชูวิทย์แถลงต่อสื่อมวลชนเป็นเรื่องไม่จริง ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเดิม เพียงแต่นายชูวิทย์พยายามพูดโยงใย โจมตี ยืนยันว่าโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง มีการดำเนินการมาก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง และได้พยายามตรวจสอบเพื่อทำให้ถูกต้อง
"เหตุที่ต้องเซ็นอย่างนั้น เพราะครบกำหนด 10 วัน ที่คณะกรรมการชุดนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.เจรจาไว้ ขณะนั้นผมอยู่ระหว่างตรวจตึกถล่มที่บริเวณถนนรองเมือง ไม่มีโอกาสกลับเข้าศาลาว่าการ กทม." นายอภิรักษ์ กล่าวและว่า ส่วนที่ระบุว่ามีการแก้ไขข้อความในเอกสารขอเปิดแอลซี เพื่อเลี่ยงมติ ครม.นั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยหนังสือฉบับที่นายชูวิทย์นำมาแถลงข่าวเป็นเพียงหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น
นายอภิรักษ์ กล่าวถึงการฟ้องร้องว่า เป็นเรื่องของประชาธิปัตย์ที่จะพิจารณาเพราะพาดพิงไปถึงพรรค อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่านายชูวิทย์ตั้งใจที่จะดิสเครดิต เพราะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
"ผม ดีใจที่คุณชูวิทย์ออกมาพูดในประเด็นนี้ เพราะจะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก และเรื่องนี้หากคุณชูวิทย์อยากรู้ ควรต้องไปถามผู้ที่พาคุณประภัสร์มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไปถามคุณประภัสร์บ้างก็ได้ ไม่ควรมาถามผมฝ่ายเดียว" นายอภิรักษ์ กล่าว
เมื่อเวลา 12.00 น.นายประภัสร์ จงสงวน หมายเลข 10 พร้อมทีมงานเข้าสักการะพระประธานวัดชนะสงคราม พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา) และกราบนมัสการสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะหนกลาง เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ทั้งนี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้ให้พรนายประภัสร์ว่า ให้รักษาคำพูด สิ่งเดียวที่ต้องจำไว้ คือเอาใจใส่ประชาชนให้เสมอต้นเสมอปลาย และตั้งมั่นความรู้สึกให้มั่นคงตลอดเวลา หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้วให้รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน เพราะเท่าที่ผ่านมา หากไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้ มักจะได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.เพียงสมัยเดียว
จาก นั้น นายประภัทร์ นำทีมงานเดินหาเสียงย่านบางลำภู และได้พบกับคณะของนายชูวิทย์ ซึ่งนายชูวิทย์ได้กระโดดลงมาจากรถหาเสียง และเข้าไปทักทายนายประภัทร์ พร้อมกล่าวว่า มีคนหาว่าเราฮั้วกัน
นาย ประภัทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการฮั้วกันระหว่างผูสมัคร 3 คน ว่า คิดมากกันไปหรือเปล่า น่าจะพิจารณาว่าเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ท่านทำอะไรให้กับคนกรุงเทพฯ บ้าง อย่าหลอกตัวเอง ที่พูดแบบนี้ไม่ได้เป็นการสาดโคลน แต่พูดข้อเท็จจริง
"การกล่าวหา ว่า 3 คนฮั้วกันนั้น ถือว่าเป็นการดูถูก และดิสเครดิตกัน ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งยิ่งก็ยิ่งเห็นอะไรบางอย่างที่พี่น้องไม่เคยเห็น ฉายภาพการเป็นนักสิ่งแวดล้อม แต่ไม่เคยลงพื้นที่ไปดูของจริง ที่เคยทำอะไรไว้ แล้วมันเกิดผลกระทบกับประชาชนอย่างไร ในเรื่องคอร์รัปชั่น ของเก่าผมจะไม่เข้าไปรื้อ จะเดินหน้าทำงานอย่างเดียว แต่ก็ขอให้คนทำผิด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ หากยังมีอยู่ก็จะเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด" นายประภัทร์ กล่าว
เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน นายวราวุธ ฐานังกรณ์ หรือ นายสุชาติ นาคบางไทร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 4 แถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จะไปยึดทำเนียบคืนใน 7 วัน เพื่อให้ กทม.กลับคืนสู่ปกติโดยไม่มีใครบาดเจ็บและล้มตาย โดยมีแผนปฏิบัติการดังนี้ 1.จะแจ้งเตือนให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์และผู้หลงผิดออกจากทำเนียบทันที 2.หากยังไม่ออกจากทำเนียบ จะนำขยะของกรุงเทพฯ ที่เก็บได้วันละ 8,500 ตัน ไปพักที่ทำเนียบ 3.จะนำมูลสัตว์ สุกร โค กระบือ เป็ด ไก่ ไปราดทับกองขยะที่ทำเนียบ 4.นำสุนัขจรจัด ที่ กทม.จับไว้ 2,800 ตัว ทยอยปล่อยในทำเนียบวันละ 100 ตัว และให้อาหารตามปกติ 5.นำขยะชีวภาพตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่เป็นขยะอันตรายไปพักที่รอบทำเนียบชั่วคราวจนว่าจะได้ทำเนียบรัฐบาลคืน
ผู้ สื่อข่าวถามว่า หากปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทย จะมีแนวทางอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่เห็นด้วย ในฐานะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะใช้อำนาจขับไล่รัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ดอนเมือง เพราะถือว่ารัฐบาลนี้อ่อนแอ
"จะชวนคน กทม. โดยเฉพาะคนจรจัด คนเร่ร่อน ที่ท้องสนามหลวง ไปชุมนุขับไล่รัฐบาล ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้ขู่ แต่ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เมื่อพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบได้ ผมก็ยึดสนามบินดอนเมืองได้เช่นกัน" นายวราวุธ กล่าว
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวดังกล่าว นายวิทยา จังกอบพัฒนา หมายเลข 9 และนายภพศักดิ์ ปานสีทอง หมายเลข 11 ซึ่งได้รับเชิญให้เข้าฟังด้วยได้สนับสนุนแนวคิดของนายวราวุธ และเรียกร้องให้ผู้สมัครฯ คนอื่น สนใจปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ มากกว่าเดินหาเสียง
เมื่อเวลา 12.45 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยหลังรับมอบตำแหน่งวันแรกว่า ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะมีขึ้นใน วันที่ 5 ตุลาคมว่า ได้จัดตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งหน่วยละ 2 นายเริ่มตั้งแต่เปิดหีบกระทั่งปิดหีบ นอกจากนี้มีศูนย์ร่วมอยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ส่วนบช.น.ได้เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งฯขึ้นใช้ห้องประชุมปารุสกวัน 1เป็นที่ตั้ง มี พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น.ควบคุมดูแลศูนย์ฯนี้มีชุดเคลื่อนที่เร็วแต่ละบก.กรณีมีเหตุด่วนเกิด ขึ้น ทั้งนี้ จะมีมอนิเตอร์ตลอด โดยเฉพาะตั้งแต่เย็นวันที่ 4 ตุลาคมจะเน้นเรื่องจำหน่ายสุรา โดยมีหนังสือเวียนไปขอความร่วมมือสถานบริการต่างๆหมดแล้ว คิดว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ ในวันลงคะแนนเราได้เตรียมพนักงานสอบสวนไว้ หากมีเหตุหรือการร้องเรียนเกิดขึ้นก็สามารถเรียกได้ทันที ในข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้จัดสัมมนาพนักงานสอบสวนไปแล้ว สำหรับกำลังที่ใช้ในวันเลือกตั้งจะมีทั้งสิ้น 15,000 นาย ประจำหน่วยเลือกตั้ง 12,000 คน และยังมีเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วอีกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่อย่างใด
วัน เดียวกัน นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.กทม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.กทม.ได้สรุปสำนวนข้อร้องเรียนของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หมายเลข 8 กรณีป้ายประชาสัมพันธ์ของ กทม.ที่เข้าข่ายโฆษณาแฝงเอื้อประโยชน์ให้กับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หมายเลข 5 แล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานครอบคลุมทุกประเด็นตามที่ร้องเรียน จึงได้มีมติที่จะส่งสำนวนการสอบสวนให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 คน วินิจฉัยชี้ขาดว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสาร และการดำเนินการด้านธุรการ คาดว่าจะถึง กกต.อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 3 ตุลาคม หรืออย่างช้าในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงความเห็นที่สรุปในเบื้องต้น
นาย พิงค์ กล่าวว่า สำหรับการสอบสวน คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนอย่างครบถ้วนทั้งผู้ร้องและผู้ ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่จำเป็นต้องเรียกผู้ถูกร้องเข้ามาสอบ ส่วนกรณีที่นายสมชาย ไพบูลย์ หมายเลข 15 ร้องเรียนกรณีที่นายอภิรักษ์แจกการ์ด Wi-Fi ขณะนายอภิรักษ์ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ยังอยู่ในชั้นสืบสวนสอบสวน
แหล่ง ข่าวจากศาลาว่าการ กทม.กล่าวถึงการสรุปความเห็นของ กกต.กทม.ซึ่งอยู่ในชั้นคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนว่า เบื้องต้นอนุกรรมการ 3 ใน 5 คน เห็นว่าข้อร้องเรียนมีมูลพอรับฟังได้ เนื่องจากการติดป้ายดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว แม้ข้าราชการ กทม.ที่ให้ข้อมูลจะอ้างว่าเป็นป้ายที่ติดตั้งไว้ในสมัยที่นายอภิรักษ์ยัง ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ก็ตาม แต่เมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาแล้ว กทม.ก็ยังไม่ดำเนินการปลดป้ายดังกล่าวออก กลับแก้ปัญหาด้วยวิธีเอาสีดำมาป้ายทับชื่อเท่านั้น จึงอาจเข้าข่ายเป็นการวางตัวไม่เป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครรายหนึ่งรายใด ซึ่ง เข้าข่ายทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการส่งเรื่องไปให้ กกต.กลาง วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว อาจจะมีความเห็นเหมือน หรือต่างกับความเห็นของ กกต.กทม.ก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนอีกชุดหนึ่ง แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง คาดว่าอาจไม่ทันกับการประกาศรับรองผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ประกาศภายใน 30 วัน แต่หากสรุปว่านายอภิรักษ์มีความผิดจริง ก็สามารถให้ใบเหลืองหรือใบแดงในภายหลังได้เช่นกัน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก มติชน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
