ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พบผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาว่างงานสูงสุด 130,000 คน รองลงมา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 120,000 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 110,000 คน
นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมว่า ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรล่าสุด ในเดือนสิงหาคม 2551 พบว่ามีผู้ว่างงานประมาณ 450,000 คน คิดเป็นอัตราการว่างงานในภาพรวมการทำงานร้อยละ 1.2 ลดลงจากเดือนกรกฎาคมประมาณ 40,000 คน โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีอัตราการว่างงานสูงสุดถึงร้อยละ 1.9 หรือกว่า 5,000 คน รองลงมาคือภาคกลางร้อยละ 1.4 ภาคใต้ร้อยละ 1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 1.0 และภาคเหนือร้อยละ 0.9 ตามลำดับ
เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบภาวะการว่างงานปีนี้กับปีที่แล้วพบว่า อัตราการว่างงานใน กทม. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ภาคใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ขณะที่ภาคเหนือลดลงร้อยละ 0.2 และภาคกลางลดลงร้อยละ 0.1 โดยจำนวนผู้ว่างงานทั้งหมดเป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 190,000 คน และเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 260,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ว่างงานจากภาคการบริการ 130,000 คน ภาคการผลิต 90,000 คน และภาคเกษตรกรรม 40,000 คน
และจากผลการสำรวจยังพบว่า ผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาว่างงานสูงสุด 130,000 คน รองลงมาเป็นผู้มีการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 120,000 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 110,000 คน ระดับประถมศึกษา 60,000 คน และผู้ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 30,000 คน ตามลำดับ
นางธนนุช กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้มีงานทำมีจำนวน 37.89 ล้านคน แยกเป็นผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรม 22.40 ล้านคน หรือร้อยละ 59.1 และภาคเกษตรกรรม 15.49 ล้านคน หรือร้อยละ 40.9 โดยผู้มีงานทำในภาพรวมเพิ่มขึ้น 490,000 คน แยกเป็นผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรกรรม เพิ่มขึ้นในสาขาก่อสร้าง 190,000 คน สาขาขายส่งและขายปลีกเพิ่มขึ้น 180,000 คน สาขาการขนส่งเพิ่มขึ้น 90,000 คน สาขาการบริหารราชการและการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 70,000 คน สาขาการโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้น 40,000 คน ส่วนสาขาการผลิตลดลง 290,000 คน ที่เหลืออยู่ในสาขาอื่น ๆ สำหรับผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรมลดลง 70,000 คน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|