กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ทรง ให้สัมภาษณ์ที่สหรัฐ 7แกนนำรุดมอบตัวแล้ว การ์ดม็อบป่วนนักข่าวอีก หมอรามาแฉผลศพ"โบว์" คาดสังเวยแก๊สน้ำตาจีน สล้างโผล่จะบุกทำเนียบ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมงานประชุมด้านการศึกษาระหว่างสหรัฐ-ไทย ที่รัฐคอนเน็กติกัต สหรัฐอเมริกา โดยพระราชทานสัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างชาติถึงสถานการณ์การเมืองในไทยด้วย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.
|
เอพีตีข่าว พระเทพฯพระราชทานสัม ภาษณ์สื่อนอกที่อเมริกา ทรงไม่เชื่อพันธ มิตรฯประท้วงเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการทำสิ่งต่างๆเพื่อพวกตัวเอง 7 แกนนำพันธมิตรฯมอบตัวแล้ว ให้การตร.ปฏิเสธ ก่อนตร.จะให้ประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข คณะแพทย์รามาธิบดีแถลงผลตรวจศพ"น้องโบว์" คาดเสียชีวิตเพราะโดนแก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำจากเมืองจีน เช่นเดียวกับคนเจ็บรายอื่นๆ ทางด้านผบช.น.ยอมรับกลายๆ แล้ว การยิงแก๊สน้ำตาในแนวระนาบเป็นความบกพร่องเฉพาะตัว "สล้าง บุนนาค" โผล่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมครูฝึกของตร. จะระดมคนให้ได้พันนาย เข้ายึดทำเนียบคืน พาตร.ที่มีภาพคลิปเล็งปืนใส่ม็อบมาชี้แจง เจ้าตัวเผยจะยิงใส่ล้อรถกระบะที่ไล่ชนตร.เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ลั่นไกออกไปแต่อย่างใด
พระเทพฯทรงให้สัมภาษณ์ถึงพธม.
เมื่อ วันที่ 10 ต.ค. (ตามเวลาในประเทศไทย) สำนักข่าวเอพี รายงานจากเมืองเวลลิงฟอร์ด รัฐคอนเน็กติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนินร่วมงานประชุมทางวิชาการ ณ โรงเรียนโช้ต โรสแมรี่ฮอลล์ โดยในที่ประชุม สมเด็จพระเทพฯ ตรัสถึงความสำคัญของงานบริการภาคสาธารณะ และหลังเสร็จสิ้นการประชุม มีผู้สื่อข่าวทูลถามพระองค์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นใน ประเทศไทยว่า ทรงเห็นด้วยหรือไม่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงระบุว่า ประท้วงเพื่อสถาบันกษัตริย์ (monarchy)
เอพีรายงานว่า สมเด็จพระเทพฯ ตรัสตอบคำถามดังกล่าวว่า "I don"t think so." "They do things for themselves." หรือแปลเป็นไทยได้ความว่า "ข้าพเจ้าไม่คิดเช่นนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมดำเนินการสิ่งต่างๆ เพื่อตัวพวกเขาเอง"ผู้สื่อข่าวทูลถามอีกว่า "Why the king has not spoken out?" หรือ "เหตุใดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังมิได้ทรงออกมาตรัสถึงเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น" สมเด็จพระเทพฯ ตรัสตอบว่า "I don"t know because I haven"t asked him." หรือ "ข้าพเจ้าไม่ทราบ เนื่องจากมิได้ถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงเรื่องนี้"
ทรงยอมรับปัญหาการเมืองมีมาก
ใน ช่วงท้ายของรายงานข่าวเอพีระบุด้วยว่า สมเด็จพระเทพฯ ตรัสว่า "ปัญหาทางการเมืองขณะนี้มีมากมาย ข้าพเจ้าบอกกับเพื่อนและผู้ร่วมงานของข้าพเจ้าว่า ขอเพียงแต่ให้ทำตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองต่อไป" ("There are a lot of political problems," the princess said. "I told my friends, colleagues just to do what is their duty.) ทั้งนี้ ข่าวเอพีให้ข้อมูลด้วยว่า สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ เยือนสหรัฐในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความรุนแรงทางการเมืองครั้ง ร้ายแรงที่สุดในห้วงเวลา 1 ทศวรรษ กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลนับพันคนบุกเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียก ร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งและขจัดการทุจริตในหมู่นักการเมือง แกนนำผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ดูหมิ่นสถาบัน และแกนนำผู้ประท้วงคนหนึ่งต้องการให้ไทยเปลี่ยนไปใช้ระบบแต่งตั้งส.ส.ส่วน ใหญ่เข้าสู่สภาแทนการเลือกตั้ง
สมชายเฟ้นคนกลางสอบสลายม็อบ
เมื่อ เวลา 10.00 น. ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงที่บ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงความคืบหน้าในการสรรหาบุคคลที่จะมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อ วันที่ 7 ต.ค.ว่า คณะกรรมการเยียวยาไม่มีปัญหา เพราะอาจมอบหมายให้รองนายกฯ ที่รับผิดชอบเข้ามาดูแล เพราะเป็นชุดที่จะต้องไปดูความเสียหาย แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตนพยายามเฟ้นหาคนกลางที่ไม่ใช่คนของรัฐบาลหรือคนที่รัฐบาลจะควบคุมได้ ขณะนี้กำลังทาบทามอยู่ แต่ยังไม่อยากเปิดเผยวันนี้ เพราะบางท่านก็ว่าง บางท่านไม่สะดวก จึงอยากให้พร้อมก่อนแล้วจะบอกทีเดียว ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดว่าคณะกรรมการจะมีทั้งหมดกี่คน เพราะจะให้คนที่มาเป็นประธานเป็นผู้พิจารณาเองว่าควรมีกรรมการกี่คน รัฐบาลจะไม่เข้าไปก้าวก่าย
เมื่อถามว่าได้ทาบทามผู้ที่จะมาเป็น ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า กำลังทาบทามอยู่ พยายามให้เป็นคนกลางที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อถามถึงเสียงเรียกร้องจากหลายองค์กรที่ให้นายกฯ ยุบสภาหรือลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสมชาย กล่าวว่า ตนรับฟังทุกฝ่ายที่ให้ความเห็น เราคิดว่าบ้านเมืองเป็นของทุกคน แต่ตนต้องดูว่าอะไรที่เหมาะสมที่สุด
พธม.หัวหิน-ชะอำแห่ด่านายกฯ
ต่อ มา นายสมชาย พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยเครื่องบินกระทรวงเกษตรฯ ออกจากสนามบินดอนเมือง ไปลงที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้รับฟังบรรยายสรุปขั้นตอนทำฝนหลวงจากนายวราวุธ ขันติยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรจากชะอำ จ.เพชรบุรี พันธมิตรหัวหิน พันธมิตรปราณบุรี ประมาณ 300 คน ได้เดินทางมาชุมนุมกันที่หน้าสนามบินบ่อฝ้าย โดยถือมือตบ ป้ายต่อต้านนายสมชาย และตะโกนด่าทอเหตุการณ์สลายม็อบอยู่หน้าสนามบิน
หลัง จากการประชุมภายในห้องปฏิบัติการฝนหลวงเสร็จสิ้น นายสมชาย ได้รับประทานอาหารร่วมกับคณะ และได้เดินทางโดยเครื่องบินของกระทรวงเกษตรฯ กลับไปที่สนามบินดอนเมืองในวันเดียวกัน
ดันชื่อหมอประเวศ-หมอพรทิพย์
นาย สมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการหาคนกลางมาทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า รัฐบาลกำลังทาบทามอยู่ แต่ในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ตนได้เสนอในที่ประชุมพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ประชุมก็เห็นสอดคล้องว่าเป็นบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มภาควิชาการ ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิด หรือลักษณะการตาย เมื่อระดมคนเหล่านี้มาเป็นคณะกรรมการกลางโดยไม่มีฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายการ เมืองก็น่าจะมีความชอบธรรม และคนไทยทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขภาพลักษณ์ของประเทศต่อสายตาชาวต่างชาติ เรียกร้องความเชื่อมั่นและความสมานฉันท์
ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์สลาย ม็อบว่า ตนได้เรียนต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาแล้ว หากรัฐบาล จะจัดตั้งและหาคนกลาง คนกลางที่เหมาะสมซึ่ง ได้เสนอไปก่อนหน้านี้แล้วคือ น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรอง ผบ.ตร. และนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด
"คณิต ณ นคร"ปัดทันทีกก.สอบ
ส่วน นายชัย กล่าวว่า ขณะนี้การตั้งคณะกรรมการเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์สลายม็อบเมื่อ วันที่ 7 ต.ค. ได้ผ่านมติครม.เรียบร้อยแล้ว เราในฐานะนิติบัญญัติ ต้องปล่อยให้ฝ่ายบริหารเป็นผู้ดำเนินการ เมื่อฝ่ายบริหารดำเนินการเรียบร้อย ฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องเข้าไปร่วมสังฆกรรมต่อไป ขณะนี้คงต้องปล่อยให้ฝ่ายรัฐบาลดำเนินการไปก่อน
ทางด้านนายคณิต ณ นคร คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงหลายฝ่ายเสนอให้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมบริเวณ รัฐสภาโดยยืนยันว่า จะไม่รับตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากไม่มีเวลาและไม่มีประสบการณ์ ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต้องแบกความรับผิดชอบสูงมาก และขอปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าจะมีบุคคลใดเหมาะสมมาทำหน้าที่ดังกล่าว และรู้สึกประหลาดใจที่น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เสนอชื่อตนเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว
กก.สิทธิฯระดมทีมตรวจที่เกิดเหตุ
นาย สุรสีห์ โกศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 1 และประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ประชุมร่วมกับพ.ญ. คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม น.พ.วิรัติ พาณิชย์พงษ์ อดีตหัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ พร้อมด้วยอัยการและผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
นาย สุรสีห์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ มีการประชุมหารือมา 3 วันแล้ว เพื่อเร่งหาข้อเท็จจริง ซึ่งวันนี้ได้แบ่งกันลงพื้นที่เก็บรวบรวมหลักฐาน โดยทีมพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ และทีมนิติเวชของตำรวจ จะไปตรวจสอบเก็บหลักฐานทุกแห่งในวันเกิดเหตุ เช่น หน้าอาคารรัฐสภา บช.น. และแถลงข่าว ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ส่วนทีมน.พ.วิรัติ จะไปเก็บข้อมูลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บที่อยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ และแถลงรายละเอียดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เวลา 15.00 น. คาดว่าจะได้ผลเบื้องต้นว่ามีการใช้วัตถุระเบิดในเหตุการณ์หรือไม่อย่างไร บ้าง
เวลา 14.00 น. ที่บริเวณริมรั้วด้านหน้ารัฐสภา พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ พร้อมทีมนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งพล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธ ตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และแนวร่วมศิลปิน นำโดยนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ รวมทั้งหาหลักฐานใน 3 จุดใหญ่คือ ด้านหน้ารัฐสภา ประตูข้างรัฐสภา และบริเวณ 4 แยกถนนพิชัย กรณีการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตนมาในแนวทางของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และไม่ถือว่าช้าไป เนื่องจากคราบเขม่าการระเบิดสามารถอยู่ได้ถึง 2 ปี
7 แกนนำม็อบเข้ามอบตัวตร.
เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้า สน.นางเลิ้ง ภายหลังแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และแนวร่วมจะเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยมีกลุ่มผู้สื่อข่าวแขนงต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทยอยมาปักหลักและเฝ้ารอติดตามทำข่าว โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มทยอยมาให้กำลังใจ ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะสวมเสื้อยืดสีดำและพกพามือตบติดตัวมาด้วย
ต่อ มา เวลา 09.50 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง โดยเดินทางมาด้วยรถตู้ยี่ห้อนิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 กทม. ส่วนนายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา นายอมร อมรรัตนานนท์ นายเทิดภูมิ ใจดี ต่างทยอยเดินทางมาถึงด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรทุกคนไม่มีสีหน้าหรืออาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด ทั้งนี้ มีการ์ดพันธมิตรประมาณ 30 คน ติดตามมาดูแลความปลอดภัยและพยายามไม่ให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์และบันทึกภาพ โดยการ์ดพันธมิตรได้ตะโกนให้ผู้สื่อข่าวมีมารยาทในการทำงาน ทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวและการ์ดพันธมิตรเกิดการกระทบกระทั่งและมีปากเสียงกัน เล็กน้อย
การ์ดวุ่นวายปะทะช่างภาพอีก
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ขณะที่แกนนำกลุ่มพันธมิตร กำลังเดินเข้าพบพนักงานสอบสวนที่บริเวณชั้น 2 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำ กลุ่มช่างภาพแขนงต่างๆ พยายามจะเข้าไปบันทึกภาพด้านใน แต่การ์ดพันธมิตรประมาณ 10 คน ได้เดินมาขวางและปิดประตู เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปสังเกตการณ์ด้านใน ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเกิดการโต้เถียงและมีปากเสียงกันอีกครั้ง โดยการ์ดพันธมิตรได้พยายามดันประตูและกันผู้สื่อข่าวออกจากบริเวณดังกล่าว จนทำให้ประตูกระจกทางเข้าสน.นางเลิ้งหลุดและพังลงมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้ามาเจรจาและห้ามปราม ก่อนที่จะแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกันและอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปสังเกตการณ์ด้านในได้ ส่วนประตูกระจกทางเข้าที่ได้รับเสียหาย เจ้าหน้าที่ ต้องนำสายไฟมาผูกติดไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนที่เข้าสอบปากคำครั้งนี้ นำโดย พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ช่วยราชการ ผกก.สน.นางเลิ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมจะแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย ข้อหา 1 โดยกระทำให้ปรากฏด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายตามรัฐธรรม นูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 7 ปี ข้อหา 2 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3 ส.ว.รุดยื่นประกันตัวให้
ต่อ มา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง เดินทางมาที่สน.นางเลิ้ง เพื่อประกันตัวแกนนำกลุ่มพันธมิตรและแนวร่วมที่ถูกออกหมายจับ โดยนายคำนูณ กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนว่าจะเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อวัน ที่ 9 ต.ค. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนที่ตนมาในวันนี้เพื่อใช้ตำแหน่งส.ว. ซึ่งตีมูลค่าเป็นหลักทรัพย์ได้ 1.4 ล้านบาท ประกันตัวแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรทั้ง 6 คน ซึ่งมาประกันในฐานะส่วนตัว ไม่มีอะไรแอบแฝง ส่วนการยื่นประกันตัวคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากวันที่ 9 ต.ค. ศาลได้สร้างมาตรฐานที่ถูกต้องขึ้นมา
ต่อมา เวลา 10.20 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตร ได้เดินทางมาที่สน.นางเลิ้ง เพื่อมอบตัวและรับทราบข้อหาในคดีดังกล่าว โดยนายสมเกียรติ กล่าวว่า มามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา โดยตนจะไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง เนื่องจากไม่ต้องการให้นำเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาในสภา เพราะเห็นว่าสภามีแต่ความสกปรก จึงไม่ต้องการขอใช้เอกสิทธิ์เหมือนส.ส.ตาขาวบางคน สำหรับความผิดของตนไม่ต้องทำเรื่องชี้แจงไปที่สภา เนื่องจากเป็นความผิดส่วนบุคคลและไม่เกี่ยวข้องกับพรรค อีกทั้งตนมาในฐานะแกนนำพันธมิตรและบุคคลธรรมดา หากต้องประกันตัวอาจใช้สิทธิ์ของข้าราชการบำนาญในการประกันตัว
ตร.ให้ประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำแกนนำและแนวร่วมกลุ่ม พันธมิตร ประมาณ 1 ชั่วโมง นายสนธิ นายสุริยะใส นายคำนูณและทนายได้เดินออกมาพูดคุยหารือกันที่บริเวณระเบียงชั้น 2 ของห้องสอบสวน โดยทุกคนมีสีเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านล่าง นายสนธิได้โบกมือให้
ต่อ มา เวลา 11.50 น. นายสนธิได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นและเดินลงมาจากห้องสอบสวน ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า พนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรทุกคน แต่ตนดำเนินการเสร็จสิ้นก่อน จึงขอเดินทางกลับไปที่บริษัท ผู้จัดการ จำกัด (มหาชน) ก่อน เพื่อจัดการเรื่องเอกสารและเซ็นเช็ค ไม่เช่นนั้นอาจไม่มีกระดาษพิมพ์หนังสือพิมพ์
นายสนธิ กล่าวว่า การประกันตัว ตำรวจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและไม่มีเงื่อนไข ซึ่งทุกอย่างเรียบร้อยดีและไม่มีการควบคุมตัว ทั้งนี้ตนทราบว่าในที่ประชุมของบช.น.เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พยายามจะเพิ่มข้อหากบฏเข้ามาอีก แต่พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ไม่เห็นด้วย เนื่องจากศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยกเลิกข้อหาดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่เห็นด้วยกับศาล มีเพียงพล.ต.ต.อำนวยเท่านั้นที่พยายามเพิ่มข้อหากบฏเข้ามาใหม่
สุริยะใสแฉมีสูญหาย 10 คน
ต่อ มา เวลา 12.50 น. นายสมศักดิ์ นายไพบูลย์ นายเทิดภูมิและนายสุริยะใส ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นและเดินลงมาจากห้องสอบสวน โดยนายสุริยะใส ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจให้ประกันตัวอย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะนี้พันธมิตรถือว่ามีอิสรภาพ หลังจากนี้จะเดินหน้าเพื่อทวงคืนสิทธิ์ให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจาก เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ ทราบว่ายังมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 10 คน ขณะนี้เรากำลังตรวจสอบญาติของผู้สูญหายอยู่
นายสุริยะใส กล่าวว่า สำหรับการทวงคืนสิทธิและความเป็นธรรม จะดำเนินการทั้งศาลไทยและต่างประเทศ โดยจะยื่นเรื่องไปยังศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากมีความเหมาะสมและเป็นธรรม ทางกลุ่มพันธมิตรอาจรับได้ แต่ความจริงเราเชื่อในศาลมากกว่า คิดว่าต้องมีผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรหลังจากนี้แกนนำต้องประชุมและหารืออีก ครั้ง แต่วันที่ 13 ต.ค. เวลา 09.00 น. กลุ่มพันธมิตรยังคงยืนยันจะใช้ยุทธวิธีดาวกระจายไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมและหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตร.ขู่ใช้ข้อหากบฏหากดาวกระจาย
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแกนนำพันธมิตรตามที่ศาลอนุมัติ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดใช้ตำแหน่งส.ว.ขอประกันตัว โดยนายสนธิ ใช้ตำแหน่งนายคำนูณ นายพิภพและนายสมศักดิ์ ใช้ตำแหน่งนายไพบูลย์ ส่วนนายอมร นายสุริยะใส และนายเทิดภูมิ ใช้ตำแหน่งนายสาย ส่วนนายสมเกียรติ แจ้งว่าไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ของส.ส.เมื่อเข้ามอบตัวทางเจ้าพนักงานได้แจ้งข้อหา แล้วปล่อยตัวไป โดยได้นัดผู้ต้องหาให้มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งจะใช้เวลาสอบ สวนนานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ส่วนจะแจ้งข้อหากบฏหรือไม่ หากพันธมิตรเคลื่อนไหวแบบดาวกระจาย ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแกนนำว่าจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ที่บริเวณสะพานอรทัย การ์ดพันธมิตรได้นำภาพถ่ายของร.ต.อ.สาริษฐ์ อักษร รอง สว.สส. บก.น.1 ที่ถูกการ์ดพันธมิตรจับกุมตัวและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา มาติดไว้บริเวณทางผ่านเข้าออก โดยมีการเขียนข้อ ความ ที่ระบุว่า ร.ต.อ.สาริษฐ์ อักษร มันโกหกว่าโดนกลุ่มพันธมิตรรุมยำ ถ้าเจอที่ไหนจัดการมันเลย จำหน้ามันไว้
แกนนำร่วมงานศพสารวัตรจ๊าบ
ขณะ ที่ญาติได้เคลื่อนศพพ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือ "สารวัตรจ๊าบ" หัวหน้าการ์ดอาสาพันธมิตร มายังศาลา 10 วัดโสมนัสราชวรวิหาร เมื่อเวลา 12.40 น. ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ต่อมาเวลา 14.30 น. แกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คนพร้อมด้วยแนวร่วมพันธมิตรจังหวัดต่างๆ เดินทางไปร่วมพิธีรดน้ำศพพ.ต.ท.เมธี โดยส่วนใหญ่อยู่ในอาการโศกเศร้า และอาลัย ขณะเดียวกันแนวร่วมพันธมิตรจากหลายจังหวัดได้นำพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยอย่าง หนาแน่น โดยญาติและพันธมิตรที่มาร่วมงานศพต่างจับกลุ่มวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของ ตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาและบช.น.ว่านอกจากจะใช้ แก๊สน้ำตาแล้ว ยังสอดไส้นำระเบิดสังหารมาใช้กับประชาชน รวมทั้งวิจารณ์กรณีการเสียชีวิตของพ.ต.ท.เมธี โดยเฉพาะการด่วนสรุปของตำรวจว่า ผู้เสียชีวิตถูกระเบิดที่ตัวเองพกพามา
ขวางสื่อ - กลุ่มการ์ดนักรบศรีวิชัยที่รายล้อมนายสนธิ ลิ้มทองกุล เข้าขัดขวางยื้อยุดไม่ยอมให้ช่างภาพบันทึกภาพและทำข่าว 7 แกนนำพันธมิตรฯที่เดินทางเข้ามอบตัวที่สน.นางเลิ้ง จนเกิดชุลมุนวุ่นวายกันพักใหญ่ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.
|
ส่วน กำหนดการบำเพ็ญกุศลศพ กำหนดตั้งศพ 4 วัน วันที่ 10-14 ต.ค. วันแรกกลุ่มเพื่อนเสรี รับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ขณะที่มีบุคคลสำคัญทางการเมืองมาร่วมงานกันคับคั่ง อาทิ นายโคทม อารียา ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส่วนพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม ส่งตัวแทนนำพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัย พร้อมกันนี้ยังมีการตั้งโต๊ะรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ.ต.ท.เมธี และสมทบกองทุนต่อสู้คดีของพันธมิตร
นายการุณ ใสงาม อดีตส.ว.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแนวร่วมพันธมิตรและพี่เขยของผู้เสียชีวิต กล่าวถึงตำรวจสรุปการเสียชีวิตของพ.ต.ท.เมธี เกิดจากผู้เสียชีวิตนำระเบิดมาใช้เอง และพลาดจนทำให้ตัวเองเสียชีวิตว่า จะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าเอามาใช้จริงคงใช้นานแล้วไม่เก็บเอาไว้
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 14 ต.ค.นี้ จะมีการพระราชทานเพลิงศพให้กับพ.ต.ท.เมธี ซึ่งถือว่าเป็นวันเดียวกับวันเกิดของพ.ต.ท.เมธี ที่เกิดวันที่ 14 ต.ค. 2512 รวมอายุได้ 39 ปีพอดี
มหาชี้เจรจาตอนนี้ยากแล้ว
เวลา 10.00 น. ที่ห้องสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร ให้สัมภาษณ์ถึงรัฐบาลตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนั้นจำเป็นต้องทำ แต่ต้องไม่ใช่เป็นคนของรัฐบาล ถ้าเป็นคนของรัฐบาลจะเข้าข้างรัฐบาลและตำรวจ ทำให้ผลการสอบสวนผิดเพี้ยน บอกว่ารัฐบาลไม่ผิด ส่วนการเจรจานั้นทำได้ แต่จะยากขึ้นมาก เพราะรัฐบาลและตำรวจมาทำเรื่องร้ายแรง บรรยากาศการเจรจาจึงไม่สดใสเหมือนเก่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น คงเจรจากับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯสำเร็จไปแล้ว
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรไม่พอใจท่าทีของทหารในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้แสดงว่าต้องการให้เกิดเหตุการณ์เหมือน 19 ก.ย.2549 เพราะไม่ใช่ชุมนุมเพื่อต้องการให้ทหารปฏิวัติ แต่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดตามรัฐธรรมนูญในการปกป้อง 3 สถาบัน ขณะนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มพันธมิตรที่ต่อว่าทหาร แต่หลายองค์กรออกมาเคลื่อนไหว เพราะทหารควรออกมาช่วยทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ออกมาช่วยตำรวจ
ท้านายกฯให้เป็นเป้าแก๊สน้ำตา
ส่วน กรณียุทธการดาวกระจายไปที่สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ใช่ไปเพื่อต่อรอง แต่ไปชี้โทษ เพราะตำรวจเป็นลูกจ้างประจำของประชาชน กินเงินเดือนภาษีของประชาชน มีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่ใช่พิฆาตสันติราษฎร์ ไปชี้โทษเพื่อให้ตำรวจปรับปรุงตัวใหม่ การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเกิดความรุนแรงคงมาจากพวกนรกป่วนกรุง หรือตำรวจเท่านั้น
"ตำรวจ โกหกมาทุกวันๆละหลายเรื่อง โกหกจนไม่รู้ว่าจะโกหกเรื่องไหนแล้ว และที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯบอกว่าตำรวจใช้แก๊สน้ำตาตามมาตรฐานสากลเป็นการโกหก เอาตัวนายสมชายมายิงด้วยแก๊สน้ำตาในระยะกระชั้นชิดแบบนั้นบ้างหรือไม่ ยิงเมื่อไรจะไปดูว่านายสมชายกล้าหรือไม่ เพราะที่ลูกระเบิดแก๊สน้ำตาบางรุ่นเขียนไว้ชัดว่าห้ามใช้ยิงเข้าใส่ตัวคน เพราะจะเป็นอันตราย ถ้าเป็นมาตรฐานสากลเขาไม่ยิงใส่ตัวและยิงในระยะกระชั้นชิด"
นิติเวชนำศิลปินตรวจหาเขม่าบึ้ม
เวลา 10.30 น. ที่หน้าบช.น. พล.ต.ท.ดนัยทร วงศ์ไทย ผบช.สถาบันนิติเวช สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พร้อมด้วยทีมตรวจสอบที่เกิดเหตุของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และคณะกรรม การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เครือข่ายชมรมศิลปิน นําโดยนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และสุรชัย จันทิมาธร หรือหงา คาราวาน ได้เดินทางตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เก็บหลักฐานเป็นคราบเขม่าดินปืนที่ติดอยู่ตามกำแพง บช.น. และบนพื้นถนนหน้าบช.น. โดยคราบดินปืนที่พบครั้งนี้ได้เก็บนําไปตรวจสอบกับเครื่องไออ้อนสแกน ซึ่งเป็นเครื่องตรวจหาสารระเบิดที่ใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะทราบทันทีว่าคราบดังกล่าวเป็นสารชนิดใด ทั้งนี้ ระหว่างตรวจสอบ การ์ดพันธมิตรได้นําหลักฐานที่เก็บได้บริเวณหน้าบช.น.มามอบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อนําไปตรวจสอบ อาทิ กระสุนแก๊สน้ำตา 2 ลูก ปลอกกระสุนยาง และสปริง 1 อัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทีมสถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ เก็บหลักฐานบริเวณหน้าบช.น.เสร็จแล้ว ในวันที่ 11 ต.ค. ทีมนิติวิทยาศาสตร์จะเก็บหลักฐานบนเสื้อผ้าของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจาก เหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง จากนั้นได้ประสานกับบช.น.ให้นําแก๊สน้ำตาที่ใช้อยู่ 3 ชนิด มาทดสอบยิง เพื่อจะเก็บสารเคมีจากแก๊สน้ำตานี้ไปเปรียบเทียบกับหลักฐานที่พบในที่เกิด เหตุว่าตรงกันหรือไม่ ส่วนคราบเขม่าดินปืนที่พบตามกำแพงบช.น.นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นคราบเขม่าที่เกิดจากระเบิด ซึ่งจะต้องรอผลตรวจอีกครั้ง
หมอพรทิพย์เผยผลเบื้องต้น
พ.ญ. คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยผลการพิสูจน์หลักฐานจากการตรวจจุดเกิดเหตุ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมด้วยอุปกรณ์ตรวจหาสารระเบิด หรือ GT200 ซึ่งมีคุณสมบัติตรวจสอบสารระเบิดระดับนาโน หรือเทียบเท่าการใช้สุนัขดมกลิ่น และสอบสวนประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ 4 คนว่า ได้ข้อสรุปว่า ที่บริเวณข้างกำแพงวังปารุสกวัน หรือวังปารุสก์ ที่ตั้งบช.น. จุดที่นายตี๋ หรือนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ ศิลปินวาดภาพได้รับบาดเจ็บมือขาด อุปกรณ์ตรวจพิสูจน์รายงานผลว่ามีร่องรอยของระเบิด แต่บริเวณแยกลานพระบรมรูปทรงม้า จุดที่น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ เสียชีวิต ไม่พบร่องรอยของระเบิด
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ได้ที่จุดเกิดเหตุด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์สาเหตุของการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ เพราะไม่ได้ไปพิสูจน์ที่ตัวผู้บาดเจ็บ ส่วนการตรวจสอบบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา และหน้าที่ทำ การพรรคชาติไทย ยังรอผลอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการตรวจสอบอยู่นั้น มีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ นำลูกระเบิด 3 ลูก ซึ่งเป็นลูกระเบิดด้าน 1 ลูก มามอบให้ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ด้วย โดยบอกว่าเก็บได้หน้ารัฐสภา
ศิลปินซีไรต์การันตีตี๋มือขาด
เวลา 14.30 น. กลุ่มศิลปินประมาณ 30 คน นำโดยนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของรางวัลซีไรต์ เดินทางมายังห้องไอซียู 5 ร.พ. รามาธิบดี เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือตี๋ ศิลปิน ซึ่งบาดเจ็บแขนขวาขาด จากเหตุการณ์ปะทะระหว่างพันธมิตรกับตำรวจที่หน้าบช.น. เมื่อเย็นวันที่ 7 ต.ค. และตำรวจนำภาพมาแถลงว่ามือซ้ายนายชิงชัยกำระเบิด ก่อนที่แพทย์ซึ่งนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลจะออกมายืนยันว่า สิ่งที่นายชิงชัยกำไว้เป็นพวงกุญแจ
นายเนาวรัตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวมีความคุ้นเคยกับนายชิงชัยดี เท่าที่รู้จักเป็นคนอ่อนโยนจิตใจดี และมีฝีมือวาดรูป จึงเป็นไม่ได้ที่จะมีระเบิดอยู่ในมือ รัฐทำความรุนแรงแล้วใส่ร้ายป้ายสีประชาชน มีมาตลอดตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 ซึ่งการสอบสวนหาความจริงในเรื่องนี้ได้ร้องไปยังกรรม การสิทธิมนุษยชนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมียเจ็บปวดวิธีตร.ออกข่าว
นาง เมตตา อุปมัย ภรรยานายชิงชัย ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ตำรวจใส่ร้ายสามี ไม่รู้ว่าตำรวจทำได้อย่าง ไร โดยนิสัยสามีเป็นคนธรรมะธัมโม บุหรี่ไม่สูบ เหล้าไม่ดื่ม เป็นคนอ่อนโยนอ่อนไหว ขณะนี้ไม่อยากได้อะไรจากรัฐบาลและตำรวจ อยากให้แค่สามีปลอด ภัยเพราะยังอยู่ในขั้นวิกฤตมาก แพทย์ระบุว่าอาจต้องอยู่ในห้องไอซียูเป็นเดือน ตำรวจอ้างว่าการสลายการชุมนุมเป็นไปตามหลักสากลโดยการใช้แก๊สน้ำตา รัฐบาลบอกเสมอว่าจะมีการเจรจา แต่วิธีปฏิบัติกลับไม่ได้แสดงออกว่าจะเจรจา ปากว่าตาขยิบแบบนี้ สิ่งที่ตำรวจออกข่าวเป็นสิ่งที่โหดร้ายและสร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัว มาก แสดงออกถึงความไม่รับผิดชอบ ตอนนี้ไม่ได้บอกให้ลูกรู้เพราะนายชิงชัยห้ามไว้ แต่ลูกชายคนเล็กวัย 5 ขวบ เมื่อเห็นภาพในทีวี ก็จำได้และถามว่านั่นพ่อ ซึ่งยายต้องรีบบอกว่าไม่ใช่ เพราะไม่อยากให้เด็กได้รับผลกระทบต่อจิตใจ ปกตินายชิงชัยจะวาดภาพหาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งมีลูกชาย 2 คน ส่วนตนเป็นแม่บ้าน
นายประเสริฐ พุทธสอน หรือตั้ม วัย 40 ปี เพื่อนศิลปินที่อยู่ในที่เกิดเหตุกับนายชิงชัย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตน นายชิงชัย และเพื่อนอีก 1 คน อยู่บริเวณใกล้กับกำแพงหน้าบช.น. เมื่อชะโงกไปดูที่ด้านหน้าบช.น. เห็นว่ามีตำรวจอยู่ริมกำแพงจำนวนมาก จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นใกล้มาก เพื่อนอีกคนแก้วหูแตก ตนได้รับบาดเจ็บโดยมีบาดแผลเต็มแผ่นหลังถูกส่งตัวไปที่ร.พ.ศิริราช จากนั้นมีเสียงดังอีกเป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้ นายชิงชัย เป็นผู้บาดเจ็บ จากนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่มานำส่งโรงพยาบาล
"หลังจากเห็นข่าวตำรวจออก มากล่าวหาเพื่อน ผมได้แต่ร้องไห้เสียใจในการกระทำของตำรวจและรับไม่ได้ เป็นการใส่ร้าย ยัดเยียดความผิดอย่างชัดเจน น่าจะมีความเป็นมนุษย์มากกว่านี้ ศิลปินไม่เคยพกอาวุธ ไม่เคยพกระเบิดอยู่แล้ว" นายประเสริฐกล่าว
หนุ่มขาขาด-ยันเพิ่งขาดในม็อบ
วัน เดียวกัน ชายไทย (สงวนชื่อ) อายุ 26 ปี ผู้ป่วยที่บาดเจ็บขาขวาขาดจากเหตุสลายการชุมนุม พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าพิการอยู่เดิมแล้วและเป็นการจัดฉากว่า ตนมีอวัยวะครบ 32 มาตั้งแต่กำเนิด ไม่ได้ขาขาดก่อนเข้าร่วมการชุมนุม วันที่ 7 ต.ค. มาร่วมชุมนุมช่วงเช้า ปฏิบัติหน้าที่เป็นการ์ด หลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเกิดควันคลุ้งกระจายมากจนมองไม่เห็นอะไร ขณะนั้นเหมือนเท้าขวาเหยียบบางอย่างก่อนเกิดเสียงระเบิด รู้สึกตัวและทราบว่าเท้าขวาขาดกระเด็นหายไปพร้อมรองเท้าผ้าใบที่สวมใส่ ตอนนั้นอึ้งและช็อกมากกว่าเจ็บ เขย่งขาไปนั่งพักพื้นที่ข้างๆ นึกอะไรไม่ออกได้แต่นั่งดูขาตัวเอง รู้สึกอีกทีตอนฟื้นที่โรงพยาบาล ตอนนี้เครียด เสียใจ ที่ต้องเสียขาข้างหนึ่งไป แต่พยายามทำใจเพราะเสียขาไปแล้ว คงเป็นอุปสรรคต่อการทำงานในอนาคตแน่นอน อยากบอกผู้ร่วมชุมนุมให้ชุมนุมอย่างสันติต่อไป ขอให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง ผู้ชุมนุมที่สูญเสียขา กล่าวต่อว่า กรณีตำรวจบอกไม่ใช้ความรุนแรงนั้นเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช้ ทำไมมีคนบาดเจ็บ 400 กว่าคน ตำรวจทำเกินไป ที่บอกว่าผู้ร่วมชุมนุมพกระเบิดและอาวุธไปเอง ตนยืนยันว่าไม่มี หากมี ทำไมทุกลูกต้องระเบิดที่ฝ่ายผู้ชุมนุม ฝ่ายตรงข้ามถึงไม่บาดเจ็บแบบพันธมิตร สำหรับตนทำงานอยู่ที่อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ปกติมาร่วมชุมนุมกับเพื่อนๆ 10 คนเป็นระยะๆ แต่วันที่ 7 ต.ค. เดินทางมาด้วยกัน 4 คน เพื่อน 2 คนปลอดภัย อีกคนบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนสาวอีกรายไม่แคล้ว"นิทรา"
ความ คืบหน้าอาการของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ที่บาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.ราชวิถี อาการมีบาดแผลบริเวณศีรษะซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ บางส่วนของเนื้อสมองสูญหายไป แพทย์ระบุว่ามีอัตราการรอดชีวิตเพียง 5% นั้น ล่าสุดถูกนำตัวส่งต่อจากร.พ.ราชวิถี มายังร.พ.จุฬาฯ ตั้งแต่ 19.00 น. ของวันที่ 9 ต.ค. เพื่อเข้ารับการผ่าตัด
รศ.น.พ.ธีรพงษ์ เจริญวิทย์ รักษาการ ผอ.ร.พ. จุฬาฯ กล่าวว่า อาการบาดเจ็บของนางรุ่งทิวาสาหัสมาก ก่อนส่งตัวเข้ารับการรักษา บาดเจ็บที่ศีรษะบริเวณซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ เบื้องต้นผ่าตัดไปแล้ว 3 ครั้ง ซ่อมแซมบริเวณสมอง กะโหลก ตกแต่งบริเวณใบหน้าเพราะตาด้านซ้ายหลุด ผ่าตัดเพื่อนำเลือดที่คั่งอยู่ออก ขณะนี้ยังคงอยู่ที่ห้องไอซียู มีโอกาสกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เนื่องจากเนื้อสมองบางส่วนหายไป ไม่สามารถบอกได้ว่าเซลล์สมองตายมากน้อยแค่ไหน ต้องรอให้สมองหายบวมก่อน ทีมแพทย์จะผ่าตัดใหญ่อีกครั้ง คาดว่าอาจใช้เวลาทั้งวัน ต้องรอดูผลอาการในช่วงเย็นก่อน
สล้างออกโรงช่วยเหลือตำรวจ
ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร. พร้อมนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 14 ได้นำตัวส.ต.ต.ณัฐวุฒิ จันทร อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งชันเข่าเล็งอาวุธปืนพกสั้นในแนวระนาบในคลิปที่ เผยแพร่ในเว็บไซต์ต่างๆ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมกันนี้ก็มีส.ต.อ.ประคอง พันระกา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 2 บก.ตปพ. ซึ่งเป็นคู่ทำงานมีหน้าที่คอยคุ้มกันรถให้ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาร่วมแถลงข่าวด้วย
พล.ต.อ.สล้างกล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจตกเป็นจำเลยของสังคม หลังเกิดเหตุแพทย์โรงพยาบาลหนึ่งในสังกัดกทม.ก็ไม่รักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะ ถอดสายน้ำเกลือ ผู้บังคับบัญชาทราบต้องไปรีบเอาคนเจ็บออกจากโรงพยาบาล เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นจริง ก็ให้กำลังใจตำรวจว่าหมอดีๆ มีอีกเยอะมากกว่าหมอชั่วๆ
พล.ต.อ.สล้างกล่าวต่ออีกว่า ตนเองได้ส่งหนังสือและอีเมล์ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ต่างๆ เพื่อให้กำลังใจ เพราะตอนนี้มีตำรวจกว่า 40 คนลาป่วยเพื่อรักษาสุขภาพจิต และอีก 2 รายลาออกไป เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานไปทำไม ทุกคนมีแต่ทำร้ายตำรวจ ใส่ความตำรวจ จนทำให้เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โต อย่างพล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรเดินออกไปให้ตำรวจจับกุมก็เพื่อสร้างเรื่อง สร้างเหตุ การณ์ให้รุนแรงให้เหมือนพฤษภาทมิฬ ให้เกิดการนองเลือด จากนั้นก็ให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พาไปเข้าเฝ้าฯเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ผ่านมา
ระดมทีมพันนายจะลุยยึดทำเนียบ
" มีตำรวจมาพูดกับผมว่าตอนนี้ตำรวจไม่กล้าทำงานเพราะผู้ใหญ่ไม่กล้าตัดสินใจ ผมจึงคิดกับเพื่อนตำรวจนอกราชการที่อดีตเคยเป็นครูฝึกของ ตชด. ปจ. คอมมานโด กองปราบปราม ตั้งกองกำลังกู้ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเสนอรัฐบาลว่าจะเข้าไปยึดทำเนียบคืนเอง เบื้องต้นรวบรวมตำรวจนอกราชการได้กว่า 1 พันนาย ซึ่งถ้าหากตำรวจในราชการอยากร่วมด้วยก็ขอให้ไปลาราชการมาร่วมกันทำงาน ส่วนชาวบ้านทั่วไปก็มาร่วมได้ แต่ให้มาทำงานในส่วนอื่นเพราะไม่ได้รับการฝึกมา ซึ่งกองกำลังสามารถรวบรวมได้ภายใน 5 วัน ส่วนเรื่องเงินทุนถ้าไม่มีใครบริจาคสนับสนุนจะขายทรัพย์สินส่วนตัวซึ่งเป็น เหรียญที่มีค่าที่ตนเองเก็บไว้มานาน จะมีการประมูลขายใครสนใจสนับสนุนก็ให้ติดต่อมาได้ และในวันนี้ได้นำตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าเล็งปืนยิงกลุ่มผู้ชุมนุมมาให้สื่อ มวลชนซักถาม เพื่อให้ความจริงเปิดเผยว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร
ด้าน ส.ต.ต.ณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเองทำหน้าที่เป็นพลขับรถบัสขนอุปกรณ์พิเศษของหน่วยอรินทราช 26 ที่ใช้ในการควบคุมฝูงชน ก่อนเกิดเหตุได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับอยู่ตรงบริเวณลานใกล้ประตูทางเข้า พระที่นั่งวิมานเมฆ ขณะเกิดเหตุกำลังจะขับรถกลับเข้าไปรับเจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ตกค้างอยู่ ก็เห็นรถกระบะสีน้ำเงินขับพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจด้านหน้าได้รับบาดเจ็บ 4-5 นาย ตนเองจึงจะขับรถเข้าไปขวาง จากนั้นได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารว่ามีการยิงกันเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายรายแล้ว ให้เข้าไปทำงานอย่างระมัดระวัง ต่อมาก็รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาออกมาหมดแล้ว จึงเตรียมขับรถออกจากพื้นที่ ระหว่างที่จะขับรถออกจากพื้นที่เห็นว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับพุ่งเข้ามาอีก หวังจะชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นอนได้รับบาดเจ็บอยู่แนวด้านหน้าซ้ำ ตนเองจึงวิ่งลงจากรถเอาอาวุธปืนประจำกายเป็นอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 ออกมาเพื่อหวังยิงสกัดยางล้อรถเพื่อไม่ให้รถพุ่งมาชนเพื่อนตำรวจซ้ำ แต่รถคันดังกล่าวได้ขับหนีออกไปก่อนจึงไม่ได้ยิงปืนออกไป จากนั้นเพื่อนในหน่วยที่อยู่ใกล้เคียงก็มาสะกิดบอกว่ารถไปแล้ว ตนจึงได้ขึ้นรถขับตามออกไป ซึ่งตนเองพร้อมให้ตรวจสอบเขม่าดินปืน อาวุธปืนว่าไม่ได้ลั่นไก
กอ.รมน.ตั้งวอร์รูมเกาะติดม็อบ
เวลา 10.00 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธานรับฟังการบรรยายสรุปงานในความรับผิดชอบด้านความมั่นคง โดยมีกอ.รมน.ภาคต่างๆ เข้า ชี้แจง จากนั้นพ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกอ.รมน. แถลงถึงการติดตามสถานการณ์การชุมนุมว่า กอ. รมน.ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุม ซึ่งกอ.รมน.ยังไม่มีส่วน ร่วมปฏิบัติการ เพราะไม่มีการประกาศพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อถามถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ยอมรับมีหน่วยข่าวแจ้งว่ากลุ่มพันธมิตรจะก่อเหตุในช่วง 1-2 วันนี้ พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่ากอ.รมน.ไม่มีการนำข่าวมาแปลงเป็นข่าวกรอง เพียงแต่ติดตามข้อมูล หน้าที่หลักคงเป็นหน้าที่ของผบ.ทบ. เพราะท่านเป็นประธานดูแลเรื่องนี้อยู่
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวในรายการ "รู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน" ทางสถานีวิทยุกองทัพบก 126 สถานีทั่วประเทศว่า ในวันที่ทหารออกไปปฏิบัติภารกิจมีกระแสข่าวว่าทหารออกไปช่วยเหลือตำรวจทำ ร้ายประชาชน ยืนยันว่าทหารออกไปเพื่อดูแลทรัพย์สินประชาชน ป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีฉกฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น ไม่ได้ออกไปช่วยตำรวจสลายการชุมนุมหรือทำร้ายประชาชน เพราะการออกไปปฏิบัติของทหารต้องมีกฎหมายรองรับ หากไม่มีกฎหมายรองรับหมายความว่าออกไปทำการปฏิวัติ
กองทัพจี้รัฐบาลรับผิดชอบ
พ. อ.สรรเสริญกล่าวว่า ส่วนที่มีคำถามว่าตำรวจทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ หรือเป็นการก่อความวุ่นวายของมือที่ 3 ที่ไม่หวังดีแทรกตัวอยู่ หรือกลุ่มพันธมิตรมีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงนั้น จุดเริ่มต้นมาจากการสั่งการของรัฐบาล ซึ่งกองทัพมองว่ารัฐบาลควรแสดงความรับผิดชอบ เมื่อถามว่ารัฐบาลควรลาออกหรือยุบสภา พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่าความรับผิดชอบขั้นต้นคือการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อ เท็จจริง ซึ่งต้องรวดเร็ว โปร่งใส และชี้แจงให้สังคมยอมรับได้ หรือจะรับผิดชอบด้วยวิธีอื่นใด แล้วแต่รัฐบาลเห็นว่าเหมาะสม
เมื่อ ถามว่าอนาคตมีการชุมนุมและเคลื่อนย้ายจะสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะกันทำอย่างไร พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่าหากปราศจากอาวุธและชุมนุมด้วยความสันติ เชื่อว่าตำรวจคงไม่ทำอะไร แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามก่อความวุ่นวายในลักษณะควบคุมไม่ได้ และจำเป็นต้องจัดระเบียบกลุ่มผู้ชุมนุม ทางกองทัพจำเป็นต้องดำเนินมาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยมีการเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจ ใช้กำลังผลักดัน ใช้น้ำแก๊สน้ำตาเป็นขั้นๆ แต่การปฏิบัติภารกิจต้องชี้แจงกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำอะไร คิดว่าสังคมจะยอมรับได้ ซึ่งไม่ใช่ใช้วิธีบุ่มบ่ามเข้าไปปะทะ อย่าง ไรก็ตาม ทุกคนอย่าตามกระแส ติดตามข้อมูลข่าวสารต้องมีสติ และขอให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างมีสติ
ได้ประกัน - นาย สุริยะใส กตะศิลา และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แถลงข่าวหน้าสน.นางเลิ้ง หลังได้รับการประกันตัวในคดียั่วยุปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยอ้างว่ายังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่งจากเหตุการณ์ตำรวจสลายม็อบหน้าสภา ตามข่าว
|
เวลา 14.30 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากได้มาตรวจดูความพร้อมเส้นทางขบวนพระราช อิสริยยศตั้งแต่บริเวณพระบรมมหาราชวัง จนถึงลานพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์ซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดพยายามเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวและ ไม่ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสเรียกร้องให้ทหารทำการปฏิวัติ
พงศ์เทพนั่งหัวโต๊ะเดินเกม
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. ที่พรรคพลังประชาชน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วยส.ส.พรรคพลังประชาชน ประมาณ 30 คน อาทิ นายโภคิน พลกุล ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะโฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นประธาน เพื่อหารือถึงสถานการณ์ภายหลังการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร รวมทั้งกรณีแกนนำกลุ่มพันธมิตรได้รับการประกันตัว โดยใช้เวลาหารือ 2 ชั่วโมง
แหล่งข่าวจากที่ประชุมเปิดเผยว่า ที่ประชุมใช้เวลาค่อนข้างนานเพื่อประเมินสถานการณ์ กรณีกลุ่มพันธมิตรใช้วิธีการชวนเชื่อจนคนในสังคมรู้สึกสับสนและคล้อยตาม เบื้องต้นที่ประชุมสรุปได้ว่าขณะนี้รัฐบาลยังอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ เนื่องจากหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ใช้ความ รุนแรงกับผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บ จึงคิดว่าอีกไม่นานสังคมจะเข้าใจรัฐบาลมากขึ้น ที่ประชุมจึงขอให้ทีมโฆษกรัฐบาลและโฆษกพรรครับผิดชอบชี้แจงให้สาธารณชนได้ ทราบข้อเท็จจริง ส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่รัฐบาลตั้งขึ้นนั้น ที่ประชุมมองว่าหากได้คนที่เป็นกลางจริงๆ มาทำหน้าที่ก็ไม่น่าหนักใจ ทั้งนี้ นายพงศ์เทพระบุในที่ประชุมว่า ขอให้ทุกคนทำใจเป็นกลางต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาข้อมูลจากหลายด้านก่อนจะปักใจเชื่อ และนำแนวคิดที่หารือกันในวันนี้นำเสนอในที่ประชุมพรรคพลังประชาชนต่อไป
ณัฐวุฒิเผยนปช.คืนสนามหลวง
นาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนทราบจากข่าวว่า กลุ่มประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย จะจัดงานครบรอบ 35 ปี เหตุการณ์เดือนตุลาคม 2516 ระหว่างวันที่ 12-14 ต.ค.ที่ท้องสนามหลวง ส่วนรายละเอียดต้องถามแกนนำ นอกจากนั้น รายการความจริงวันนี้จะจัดงานที่เมืองทองธานีในวันที่ 11 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของประชาชนที่มีความตื่นตัวทางการเมือง เราคงห้ามหรือสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ แต่ได้สื่อสารกันตลอดเวลาว่าสถานการณ์การเมืองในขณะนี้บ้านเมืองต้องการความ สงบเรียบ ร้อย สมานฉันท์และความจริงใจของคนไทยด้วยกัน ในการยุติปัญหาความขัดแย้ง แต่การเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นสิทธิ์โดยชอบของคนไทย
มาร์คเสนอป.ป.ช.สอบเหตุการณ์
ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงรัฐบาลตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์วัน ที่ 7 ต.ค.ว่า ควรให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำเรื่องนี้ เพราะต้องสอบได้อยู่แล้วว่า มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น ตนยังมองไม่เห็นหลักประกันว่าบุคคลจะมีความน่าเชื่อแค่ไหน จะมีความสามารถทางกฎหมายไปบังคับเอาข้อเท็จจริงจากหน่วยงาน ที่ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ปกป้องตัวเองโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง และถ้าคนที่ถูกตั้งขึ้นมายังต้องรายงานต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเอาความจริงต่างๆ ออกมาได้ นอกจากนายสมชายจะลาออกไป
ผู้ สื่อข่าวถามถึงศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้รัฐบาลและตำรวจใช้ความ รุนแรงกับผู้ชุมนุม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราพูดชัดเจนว่า ตัวนายกฯ และรัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว ถึงวันนี้ตนไม่คิดว่า นายกฯ จะกล้ายืนยันอีกว่า ได้ดำเนินการตามมาตรฐานของสากล เพราะถ้าศาลปกครองเห็นว่าได้ดำเนินการไปตามนั้นคงไม่มีคำสั่งในลักษณะนี้ออก มา อย่างไรก็ตาม หากมีความรุน แรงเกิดจากฝ่ายรัฐ รัฐต้องรับผิดชอบ ส่วนประชาชนใช้ความรุนแรงก็ต้องถูกดำเนินคดี
ส่งตัวแทนร้องป.ป.ช.แล้ว
เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.พ.บุร ณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ มายื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ผ่านนายชูศักดิ์ ปริปุญโญ ผู้ช่วยเลขาธิ การป.ป.ช. เพื่อขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กับพวก ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธสงครามปราบปรามกลุ่มพันธมิตร ที่ชุมนุมบริเวณรัฐสภา กองบัญชาการตำรวจนครบาล และลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า อยากให้ป.ป.ช.ไต่สวนข้อเท็จจริง และส่งสำนวนไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการ ต่อไป
เอ็นจีโอลุยแจกริบบิ้นดำ
เวลา 12.00 น. บริเวณชั้นล่างสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ย่านถนนสีลม เครือข่ายคณะทำงานด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว 39 องค์กรกว่า 50 คน นำโดยน.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และนายวันชัย บุญประชา ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ได้รวมตัวกันเดินรณรงค์แจกริบบิ้นสีดำให้กับผู้ที่สัญจรบริเวณดังกล่าว โดยนายวันชัย ได้อ่านแถลงการณ์ประณามรัฐบาล และเผยว่า มูลนิธิสื่อสร้างสรรค์และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้จัดตั้งโครงการเพื่อนผู้ บริสุทธิ์ตุลา 51 เพื่อติดตามทวงความเป็นธรรมและเยี่ยมเยียนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งบางคนต้องทุพพลภาพจากเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งผู้บริสุทธิ์เหล่านี้อาจถูกละเลย
ด้านน.ส.สารี กล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่า 2 มาตรการที่ระบุจะเยียวยาผู้บาดเจ็บและตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลเลือกจะเดินเหยียบประชาชนทำให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิต ซึ่งนายกฯ พูดชัดเจนว่า ตำรวจต้องจัดการและดำเนินการให้เกิดการประชุมสภาให้ได้ ดังนั้น นายกฯ จะปัดความรับผิดชอบทำไม ทั้งที่เป็นความผิดของตนเอง จึงหมดความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไป ควรยุบสภาหรือลาออก
นำพวงหรีดวางหน้าสตช.
ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 12.00 น. น.ส.จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยตัวแทนมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และศูนย์ทนายความมุสลิมประมาณ 10 คนสวมใส่ชุดสีดำไว้ทุกข์ นำพวงหรีดมาวางไว้ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเป็นการไว้อาลัย ต่อเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลและแกนนำกลุ่มพันธมิตร หาข้อยุติความขัดแย้งด้วยวิถีทางการเมืองโดยเร็วเพื่อไม่ให้สังคมบอบช้ำมาก ไปกว่านี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ศาลได้กรุณาเปิดโอกาสที่จะหาข้อยุติทางการเมือง โดยศาลปกครองได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และศาลอุทธรณ์ได้เพิกถอนข้อหาฉกรรจ์ในหมายจับที่มีต่อพันธมิตร ที่สำคัญประชาชนต้องร่วมกันปฏิเสธความรุนแรงที่เกิดจากการกระทำของทุกฝ่าย
โกวิทครวญตร.ต้องคำสาป
ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมมอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม จากนั้นกล่าวว่า เห็นใจและสงสารเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก ข้าราชการตำรวจไม่ได้อยากปฏิบัติหน้าที่ในกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อมีม็อบมีกลุ่มผู้ชุมนุมตำรวจก็มีแต่ความทุกข์ความอึดอัด เป็นอาชีพที่น่าสงสารต้องคำสาป ทำความดีเหน็ดเหนื่อยเพื่อรักษาความสงบให้บ้านเมืองเสียสละทุกอย่าง แต่เมื่อเกิดการเจ็บป่วยสูญเสียในการปฏิบัติหน้าที่ มักจะได้รับคำตำหนิติเตียน
"ผมขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ได้โปรดให้ความเป็นธรรม ให้กำลังใจ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำงานให้ส่วนรวม ทุกคนก็ตำหนิ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงให้รอบคอบอะไรมันถูกมันผิด อะไรมันของจริงของปลอมที่หลอกลวงกันอยู่ มิฉะนั้นบ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้ ถ้าไม่เอาความดีความถูกต้องมาแก้ไข ซึ่งทราบว่าเป็นเรื่องที่ยาก ตอนนี้ก็รู้สึกสงสารและเห็นใจตำรวจ หากลองให้ตำรวจหยุดงานสัก 1 วัน คิดดูว่าจะเป็นอย่างไร" รมว. มหาดไทยกล่าว
เมื่อ ถามว่าขั้นตอนที่ตำรวจควรจะปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมอย่างไร หลังมีคำสั่งศาลปกครองที่ห้ามใช้ความรุนแรง พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ตำรวจทำไปตามหน้าที่ ขณะนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนจะมีคำแนะนำข้อสังเกตเพิ่มเติมใดๆ ตำรวจก็ต้องเอามาปรับปรุงและทำให้ดีขึ้นทุกอย่าง ทุกฝ่ายต้องเดินเข้าหากัน แล้วเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง มหาดไทยจะให้ความร่วมมือในเรื่องต่างๆ อาทิ รถน้ำ หรืออุปกรณ์อื่น
สภาทนายพร้อมช่วยญาติคนเจ็บ
ที่ สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความออกแถลง การณ์ตำหนิรัฐบาลที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 7 ต.ค. พร้อมทั้งเห็นว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 สามารถดำเนินการได้ทั้งทางแพ่งและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง คดีนี้จะมีอายุความทั้งสิ้น 20 ปี เชื่อมั่นว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้ที่สั่งการให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ พร้อมมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่จะเพียงพอต่อการฟ้องร้อง ขณะเดียวกันสภาทนายความได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ญาติและ ผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ในวันดังกล่าวด้วย ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถขอความช่วยเหลือได้ทันที โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
แนะฮอตไลน์ 1323 ดูแลสุขภาพจิต
ที่ กรมสุขภาพจิต น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต แถลงว่า ผลกระทบที่ถือเป็นอาการปกติภายหลังประสบเหตุวิกฤตมี 4 ด้าน ดังนี้ 1.ด้านอารมณ์ มีอาการโกรธ สิ้นหวังมึนชา ไร้ความรู้สึก หวาดผวา 2.ด้านความคิด ขาดสมาธิ รู้สึกว่าตนเองไม่ปลอดภัย โกรธ โทษตัวเองและบุคคลอื่น หาแพะรับบาปหรือผู้รับผิดชอบ 3.ด้านร่างกาย มีการเมื่อยล้า ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร และ 4.ด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น มักจะแยกตัว หลีกหนีสังคม มีความคิดขัดแย้งกับผู้อื่น การเยียวยาให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น การแสดงความเป็นมิตร พูดคุย รับฟังสิ่งที่ผู้ประสบเหตุระบายออกมาอย่างตั้งใจและเห็นใจ เพื่อลดความตึงเครียด สัมผัส จับมือ ปลอบประโลม ให้กำลังใจ ให้เขารู้สึกปลอดภัย ช่วยสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้เกิดขึ้น
น. พ.สุจริต สุวรรณชีพ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การบำบัดและเยียวยาเหยื่อในเหตุการณ์เป็นสิ่งสำคัญและต้องเร่งช่วยเหลือ กรมจึงประสาน กับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพฯ เตรียมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตลงพื้นที่ดูแลจิตใจผู้บาดเจ็บและญาติ ผู้สูญเสีย 478 คน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดโรคดังกล่าว เป็นมาตรการเยียวยาเดียวกับผู้ประสบเหตุพฤษภาทมิฬ ภัยสึนามิ และเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่สายด่วน สุขภาพจิต 1323 มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา รายที่มีอาการหนักจะจัดทีมไปรับผู้ป่วยส่งรักษาโรงพยาบาลทันที
40 ส.ว.ร้องข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดย นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ไปยื่นจดหมายเปิดผนึกเป็นภาษาอังกฤษ เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของรัฐบาลไทย ถึงนายโฮทายอง อลิซาเดห์ ผู้แทน OHCHIR ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินกลาง พร้อมทั้งรูปภาพเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. โดยมีเนื้อหาเรียกร้องให้ OHCHR ใช้ความพยายามในการกระทำอย่างเหมาะสมเพื่อหยุดยั้งและป้องกันการละเมิดสิทธิ มนุษยชนในไทย
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา 1 ในกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ส.ว.ได้ตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว มีน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว. กทม. เป็นประธานคณะทำงาน และจะเชิญบุคคลภายนอกที่สังคมให้ความเชื่อถือมาร่วม ตอนนี้กำลังทาบทามพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ มาร่วมเป็นคณะทำงาน จะเร่งสอบสวนให้เร็วที่สุด คาดว่า 2-4 สัปดาห์จะได้ผลสรุปและแถลงต่อสาธารณะ ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเรื่องคณะทำงานและประเด็นการสอบสวนรวมถึงหลักฐาน ภาพถ่ายต่างๆ
สหภาพกฟน.รุดเชียร์นายกฯ
เวลา 14.40 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้เดินทางกลับจากการไปตรวจเยี่ยมสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อ.หัวหิน ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีพล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสมช. มาเข้าพบ จากนั้นเวลา 15.00 น. นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านคร หลวง ได้นำสมาชิกสหภาพ กฟน. 10 คน มาให้กำลังใจนายกฯ
นายเพียร ให้สัมภาษณ์ว่า มาเพื่อให้กำลังใจนายกฯ เพราะเพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่ง และเป็นนายกฯ คนใต้ ทั้งนี้ เหตุการณ์การปะทะเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ต้องถือเป็นบทเรียน ตนไม่เห็นด้วยกับการ ใช้ความรุนแรง แต่อยากให้สังคมยอมรับนายสมชาย และไม่อยากให้ถูกมองว่าเป็นนายกฯ คนใต้ที่ฆ่าประชาชน ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรดำเนินการตัดน้ำตัดไฟนั้น ตนไม่เห็นด้วยเพราะเท่ากับสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ยืนยันว่ายืนอยู่เคียงข้างประชาชนตลอด "ผมไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องการเข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตร แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจ ไม่เหมือนเมื่อปี 2549 อย่างไรก็ตามผมต้องรักษาตัวผมไว้ก่อน เนื่องจากที่ผ่านมามีคดีเยอะมาก แต่ไม่มีใครมาช่วยผมสักคน ไม่มีใครมาพูดถึง วันนี้หากจะไปสู้กับใคร ต้องรักษาตัวเองให้รอดก่อน"
คนโคราชแต่งดำเดินขบวน
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่วัดบูรพ์ ถ.จอมพล เขตเทศบาลนครนครราชสีมา กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชเพื่อประชาธิปไตย พร้อมเครือข่ายพันธมิตรโคราช โดยการประสานงานของทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนอีสาน 19 จังหวัด นายสาธร สินปุร ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสา หกิจการรถไฟแห่งประเทศไทยสาขาภาคอีสาน จำนวนประมาณ 500 คน และน.พ.พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหลอดเลือดและหัวใจ ร.พ. มหาราช นครราชสีมา แพทย์ประจำหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้นัดรวมตัวสำแดงพลัง โดยทุกคนแต่งกาย สีดำ จัดริ้วขบวนเดินเท้าไปตามถนนในเขตเมือง มุ่งหน้าไปที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และสำนักงานพรรคพลังประชาชนเพื่อวางพวงหรีด โดยขบวนแห่ดังกล่าวมีโลงศพเปล่ามีรูปถ่ายของพ.ต.ท. เมธี ชาติมนตรี และน.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายม็อบ
ที่ บริเวณลานหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 9 ชั้น ร.พ.มหาราช นครราชสีมา เมื่อเวลา 12.45 น. ผศ.น.พ.ทศพร ศิริโสภิตกุล หน.หน่วยกลุ่มงานโรคหัวใจเด็ก พร้อมน.พ.พินิจจัย นาคพันธุ์ หน.กลุ่มงานโรคหัวใจ และหลอดเลือด ร.พ.มหาราช นครราช สีมา ทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี แกนนำภาคีมวลชนคนโคราชฯ พันธมิตรโคราช และแพทย์-พยาบาล รวมกว่า 250 คน ได้พร้อมใจออกมาสำแดงพลัง ในชื่อกลุ่ม "แพทย์-พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขหลานย่าโม" เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชน
ระเบิดเก๊โผล่หน้าบ้านพิษฯ
วัน เดียวกัน กลุ่มคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้แถลงประณามการกระทำของรัฐบาล ตำรวจที่ใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้มีคนบาดเจ็บและล้มตาย ทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลขอโทษประชาชน และยุติบทบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 10 ต.ค. เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้ฯ บก.ตปพ.บช.น. รับแจ้งว่ามีวัตถุต้องสงสัยที่บริเวณหน้าบ้านพิษณุโลก รุดไปตรวจสอบพบว่าเป็นกระป๋องกาแฟที่มีสายไฟฟ้าพันรอบกระป๋องเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้ดังกล่าวเดินทางมายังบ้านพิษฯ โดยใช้รถยนต์ตราโล่ หมายเลขทะเบียน 66842 ของสตช. และใช้เส้นทางถ.พระราม 5 วิ่งผ่านบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ ซึ่งมีกลุ่มพันธมิตรชุมนุมอยู่เป็นจำนวนมาก ปรากฏว่ามีชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าของผู้ชุมนุมได้ยิงลูกเหล็ก ตรงเข้ามาในรถ โดนกระจกประตูด้านหลังคนขับแตก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน .นางเลิ้ง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่
ผอ.ร.พ.โวยหมอลูกน้องเมินตร.
น. พ.พินิจ หิรัญโชติ ผอ.ร.พ.ศูนย์นครปฐม กล่าว ถึงน.พ.สมศักดิ์ รุจิชานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคกระดูก ปฏิเสธตรวจคนไข้ที่เป็นตำรวจยศด.ต.สังกัด สภ.สามพราน จ.นครปฐม ว่า เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นที่ห้องตรวจแผนกกระดูกของโรงพยาบาล ตนเรียกน.พ.สมศักดิ์มาทำความเข้าใจแล้ว บอกให้เป็นเรื่องรับผิดชอบเฉพาะตัว ต่อไปจะเขียนประกาศอะไรให้ระบุตัวผู้ออกประกาศด้วย การเลือกข้างห้ามกันไม่ได้ แต่ในโรงพยาบาลอย่าเลือกฝ่าย ใครเจ็บป่วยมาต้องรักษา แม้แต่โจรกับตำรวจยิงกันก็ต้องรักษาทั้งคู่ ทั้งนี้ได้ติดต่อตำรวจคนดังกล่าวแล้วว่าให้กลับมารักษาต่อ หากไม่สบายใจกับแพทย์คนดังกล่าวสามารถเปลี่ยนได้ สำหรับแพทย์คนดังกล่าวยังไม่ได้ดำเนินการด้านวินัยหรือจรรยาบรรณแพทย์ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายร้องเรียน ถ้ามีผู้ร้องก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ เท่าที่ได้คุยกับดาบตำรวจก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขณะนี้ได้ออกประกาศให้ทราบแล้วว่าร.พ.ศูนย์นครปฐมรับรักษาทั้งหมด ไม่มีความคิดหรือนโยบายปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยที่เป็นตำรวจ เรารักษาทุกคน แม้แต่ต่างชาติก็ยังรักษา คนไข้ไม่มีเงินก็ยังช่วยอีกด้วย
ม็อบโผล่มอบดอกไม้ผบช.น.
เวลา 15.00 น. ที่บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ลงมารับดอกไม้จากกลุ่มผู้มาให้กำลังใจจำนวนมาก อาทิ กลุ่มคนรู้ใจ คนไทยในสหรัฐ-ยุโรป กลุ่มอโศก-ดินแดง และสหภาพแรงงาน ปากน้ำสมุทรปราการ ถือป้ายสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวภายใต้กฎหมาย โดยผบช.น.ได้ขอบคุณพร้อมกล่าวติดตลกว่า เราจะพยายามหาเสื้อเกราะมาใช้
พล. ต.ท.สุชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการมอบตัวของแกนนำที่เหลือทั้ง 7 คนว่า เจ้าพนักงานได้สอบสวนโดยให้ประกันตัวทั้ง 7 คนที่มามอบตัวโดยไม่นำมวลชนมากดดัน ไม่มีเงื่อนไขอะไร ชี้ให้เห็นว่าไม่มีเจตนาหลบหนีระหว่างสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยใช้มาตรฐานเดียวกับศาลที่ให้ประกันตัวพล.ต.จำลองและนายไชยวัฒน์ การให้ประกันตัวน่าจะทำให้สถานการณ์หลังจากนี้ไปดีขึ้น ต่อไปเขาจะดำเนินการอย่างไรขึ้นอยู่กับแกนนำจะตัดสินใจ เชื่อว่าแกนนำทราบดีว่าการกระทำอะไรจะส่งผลกระทบกลับไปอย่างไร ส่วนที่พันธมิตรประกาศจะเคลื่อนพลชุมนุมหน้าสตช.ในวันที่ 13 ต.ค.ถือเป็นสิทธิ์ แต่ตนเป็นห่วงมือที่สามเพราะใครก็สามารถผ่านไปได้รอบๆ สตช. บช.น.จะหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย
รับยิงแก๊สแนวระนาบ-บกพร่อง
เมื่อถามถึงศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองเรื่องการใช้มาตรการควบคุมฝูงชน ผบช.น.กล่าวว่า ศาลปกครองใช้คำว่าหลักสากล เราก็ดำเนินการอยู่แล้ว เริ่มจากเบา
"ถ้าดันด้วยโล่ในระยะประชิดแบบนั้นเชื่อว่าความเสียหาย บาดเจ็บจะต้องเกิดขึ้นสูง เราจึงจำเป็นจะต้องใช้แก๊สเคลียร์ ตามหลักสากลไม่น่าจะเป็นอันตราย แต่เรากำลังตรวจสอบว่าอาจมีบางคนบกพร่องที่ยิงในระนาบตรง ไม่ยิงวิถีโค้ง ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป กำลังสอบสวนทั้งเราเองและคนกลางมาตรวจสอบ ขณะนี้เราตกเป็นจำเลย ไม่มีใครรับฟังเรา จำเลยปฏิเสธทั้งหมดแล้วศาลยกโดยไม่ฟังฝ่ายอื่นคงไม่มี" พล.ต.ท.สุชาติกล่าว
พล. ต.ท.สุชาติ กล่าวถึงข่าวการชุมนุมนปช.ที่สนามหลวงระหว่างวันที่ 10-13 ต.ค.ว่า จะมาอีกแล้วเหรอ ทำไมงานเข้าแบบนี้ ตำรวจต้องป้องกันไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้และปะทะกัน ไม่รู้ว่าเราจะต้องไปเป็นโล่มนุษย์ด้วยหรือไม่ สำหรับทหารเราต้องร้องขอ เพราะกำลังพลของเรารับภารกิจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทำให้อ่อนล้า ภารกิจอื่นก็ต้องทำ ทหารมาช่วยยืนแนวรอบนอกป้องกันสถานที่ ตลอดจนเหตุที่อาจเกิดขึ้น เช่น รถจักรยานยนต์ก่อกวน โยนพวกประทัดยักษ์ เป็นต้น
หมอรามาฯเผยผลศพน้องโบว์
เวลา 16.30 น. คณะแพทย์ ร.พ.รามาธิบดี ร่วมแถลงข่าวหลังนายสุรสิงห์ โกศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ 7 ต.ค. ของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าขอข้อมูลผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรา มาธิบดีและโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อนำมาประมวลข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เข้าใจตรงกัน
ผศ. พล.อ.ต.น.พ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา ร.พ.รามาธิบดี กล่าวว่า จากการชันสูตรศพน.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ พบว่านอกจากแผลที่มีขนาดใหญ่มาก ยังมีรอยไหม้ เขม่าดำ กระดูกต้นแขนและซี่โครงหักเป็นแนวยาว อวัยวะภายในเลือดออก เยื่อหุ้มปอดซ้ายและผนังหัวใจทะลุ ม้ามและตับซ้ายแตก ลักษณะของแผลยังไม่เรียบหมายถึงเกิดจากความแข็ง มีรอยไหม้แสดงว่าวัตถุมีความร้อน ตับและม้ามแตกแสดงว่าวัตถุมีแรงอัด สภาพศพสันนิษฐานได้ว่าเข้ากับลักษณะของการถูกอาวุธระเบิดมากที่สุด เป็นการระเบิดในระยะใกล้ตัว ไม่ติดกับลำตัว เนื่องจากแผลร้าวเป็นแนวยาว หากระเบิดในระยะติดตัวร่างผู้เสียชีวิตจะต้องแตกเป็นชิ้นเล็กๆ มากกว่านี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เสียชีวิตจะพกวัตถุระเบิดไว้ประชิดติดตัว วัตถุน่าจะมากระทบโดนตัวและกระเด็นตกใกล้ตัวก่อนเกิดการระเบิดมากกว่า
ชี้เพราะแก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำ
ผศ. พล.อ.ต.น.พ.วิชาญ กล่าวว่า ศพของน้องโบว์น่าจะเสียชีวิตจากการระเบิดของแก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำ เพราะเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปชันสูตรศพยังแสบตามากจนต้องออกมาล้างหลายรอบ ตามตัวศพไม่พบสะเก็ดระเบิดที่เป็นโลหะ แต่หากเป็นระเบิดจากแก๊สน้ำตาที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติก เมื่อเกิดการระเบิดจะไม่พบสะเก็ด ขณะนี้ส่งเสื้อชั้นในไปให้พนักงานพิสูจน์หลักฐานตรวจหาสารเคมีที่พบตามตัวศพ แล้ว ซึ่งเป็นการทำตามขั้นตอน หากญาติไม่เชื่อการตรวจสอบของหน่วยงานดังกล่าว สามารถมาร้องเพื่อขอให้โรงพยาบาลส่งไปตรวจที่หน่วยงานอื่นได้
ศ.น.พ. วิรัติ พาณิชย์พงษ์ อดีตหัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ คณะอนุ กรรมการตรวจสอบเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. กล่าวว่า ภาพที่เห็นจากสื่อมีการตกกระทบของวัตถุแล้วเกิดเปลวไฟ และระเบิด เป็นการยืนยันว่าตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาจริง แต่เมื่อกระทบพื้นหรือตัวบุคคลจะมีแรงอัดระเบิดเป็นไฟไหม้ผิวหนัง เนื้อเกิดการฉีกขาดจากหน้าไปหลัง เมื่อนำผลการชันสูตรศพและพิสูจน์หลักฐานมาประมวลร่วมกัน สามารถระบุได้ว่าตำรวจใช้แก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำที่สามารถจุดระเบิดได้ หากเป็นของสหรัฐ เมื่อยิงออกไปจะเป็นควันเพียงอย่างเดียว สิ่งที่ต้องสอบสวนต่อไปก็คือการยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชน กระทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ มีความรู้หรือไม่ว่าวัตถุนั้นสามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้
"กรณีศพน. ส.อังคณาก็น่าจะเข้าข่ายแก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำระเบิด แต่ผลสรุปขณะนี้ยังไม่ได้ครบทั้ง 100% ต้องส่งเสื้อผ้าหรือชิ้นเนื้อไปตรวจนิติวิทยา ศาสตร์ว่ามีสารเคมีที่ใช้ในการผลิตแก๊สน้ำตาหรือไม่ ถ้ามีก็ยืนยันได้" ศ.น.พ.วิรัติ กล่าว
ยันตี๋มือขาดไม่ได้กำลูกระเบิด
รศ.น.พ. ธันย์ สุภัทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการ ร.พ.รามา ธิบดี กล่าวว่า กรณีนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือนายตี๋ ที่มือขวาขาดและมีการกล่าวอ้างว่ามือซ้ายกำระเบิดนั้น เจ้าหน้าที่ได้รายงานสรุปลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เวลา 19.05 น. ชายไทยถูกนำตัวส่งร.พ.รามาฯ โดยรถพยาบาลของร.พ.บางคล้า ผู้ป่วยยังมีสติสามารถชูสองนิ้วซ้ายได้ แพทย์จึงล้างตัวด้วยความรวดเร็วและไม่ได้เก็บสัมภาระหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าใดๆ เวลา 19.09 น. ผู้ป่วยได้รับการย้ายเข้าห้องฉุกเฉิน ยังสวมใส่เสื้อผ้าและกางเกงของตนเอง ต่อมาเริ่มมีอาการซึมลง เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาหลักฐานเพื่อระบุตัวตนของผู้ป่วยแต่ไม่พบ จึงระบุเบื้องต้นว่าเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ
รศ.น.พ.ธันย์ กล่าวต่อว่า มือขวาของผู้บาดเจ็บรายดังกล่าวถูกพันด้วยผ้ายืด มือซ้ายกำสิ่งของลักษณะกลมแบนคล้ายฝาขนมครก 2 ชิ้น ประกบกัน ใหญ่ขนาดเหรียญ 10 บาท ขนาดไม่เท่ากัน หุ้มด้วยพลาสติกใสคล้ายกรอบพระ ภายในเป็นก้อนคล้ายหินสีดำ แต่เห็นไม่ชัดเนื่องจากมีคราบเลือดอยู่ ขอบนอกถักด้วยหนังหรือเชือก ทั้ง 2 อันผูกติดกันด้วยหนังคล้ายพวงกุญแจ จึงเก็บใส่ถุงพลาสติก ไม่ได้เขียนระบุชื่อที่ถุง และวางไว้ที่บริเวณหน้าขาผู้ป่วย ต่อมาเวลา 19.19 น. ผู้ป่วยถูกนำตัวไปห้องผ่าตัดทันที พยาบาลห้องผ่าตัดรายงานว่าไม่พบสิ่งของที่วางไว้บนตัวผู้ป่วย คาดว่าอาจมีการสูญเสียระหว่างทางขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมายังห้องผ่าตัด และผู้ป่วยรายนี้ทางนิติเวชที่ห้องฉุกเฉินยังไม่ทันถ่ายภาพ เนื่องจากผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
"รุ่งทิวา"แผลยับแต่ไม่มีสะเก็ด
น. พ.อากาศ พัฒนเรืองไล นิติเวชแพทย์ กลุ่มพยาธิแพทย์ ร.พ.ราชวิถี กล่าวว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมี 2 ราย คือ 1.นางรุ่งทิวา ธาตุนิยม อายุ 46 ปี ชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ 2.นายอดิศร สนใจแท้ อายุ 36 ปี สำหรับบาดแผลของนางรุ่งทิวา จากการตรวจวิเคราะห์พบว่าเกิดจากเนื้อเยื่อถูกทำลาย จากวัตถุที่มีแรง ระเบิด ส่งผลให้กระดูกเบ้าตา ตา กะโหลก เนื้อสมองเสียหาย มีเลือดออกบอบช้ำมาก และยังอยู่ในภาวะช็อก
"จากบาดแผลเชื่อว่าการ ทำลายล้างของวัตถุชนิดนี้สูงมาก โดยได้ทำลายกระดูกเบ้าตา ดวงตา กะโหลกศีรษะ สมองซีกซ้ายทั้งบริเวณส่วนหน้า ส่วนกลาง และส่วนท้ายทอยฉีกขาดเยอะมาก มีอาการบวมจนไปทับก้านสมอง บาดแผลที่เกิดขึ้นค่อนข้างลึก ไม่พบสะเก็ดระเบิด แต่มีเขม่าร่วมกับบาดแผลที่เกิดการระเบิด พบมีจุดสีดำรอบๆ แผล แม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง 2-3 วัน การสมานแผลก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากมีสารเคมีทำให้แผลหายช้า ยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจะพกระเบิดมาเอง แล้วเกิดการระเบิดทำลายที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ" น.พ.อากาศกล่าว
หนุ่มขาขาดไม่ได้พิการมาก่อน
น. พ.อากาศ กล่าวต่อว่า ส่วนบาดแผลที่บริเวณข้อมือของนางรุ่งทิวาก็ค่อนข้างลึก พบว่ามีวัตถุฝังอยู่ในบาดแผลด้วย วัตถุดังกล่าวเป็นพลาสติกทรงกระบอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซ.ม. เป็นวัสดุที่มีลักษณะพิเศษ ไม่ใช่สิ่งของที่อยู่บริเวณเกิดเหตุอย่างแน่นอน แต่น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่มาจากแก๊สน้ำตาที่สามารถระเบิดได้ ขณะนี้ยังไม่มีการขอหลักฐานไปตรวจพิสูจน์ ดังนั้นวัตถุดังกล่าวจึงยังอยู่ที่ห้องผ่าตัดร.พ.ราชวิถี อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับบาดเจ็บรายนี้ถูกส่งตัวต่อไปรักษาที่ร.พ.จุฬาฯแล้ว ส่วนบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ลักษณะเกิดจากวัตถุที่มีแรงระเบิดทำให้มีการทำลายของเนื้อเยื่อด้านข้างลึก ประมาณ 1 ซ.ม. ถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง กว้าง 2-3 ซ.ม. นอกจากนี้พบว่าบาดแผลเป็นจุดกระจายไปทั่วบริเวณ มีบาดแผลที่ลึกและถูกทำลายสูงเป็นบาง จุดด้วย
น.พ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รองผู้อำนวยการ ร.พ.รามาธิบดี กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บรายที่มีบาดแผลที่เท้าขวา มีการฉีกของเนื้อเยื้อ กล้ามเนื้อและผิวหนังกระดูกแตก อยู่ในสภาพเละแหลกละเอียดจึงต้องตัดขาในระดับใต้เข่าออกไป จากบาดแผลที่แพทย์ได้รักษานั้น ผู้บาดเจ็บไม่ได้พิการมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะพบยังมีบางส่วนของนิ้วเท้าด้วย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ลำคอและหน้าอก พบว่าหลอดลมส่วนต้น กระเดือกฉีกขาด ต้องใส่ท่อหายใจ ซึ่งในรายเดียวกันพบว่ามือขวาบริเวณนิ้วและกระดูกมือได้รับความเสียหายอย่าง มาก ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ไม่พบชิ้นส่วนของโลหะเช่นเดียวกัน
ราชินีพระราชทาน 1 แสนให้ร.พ.จุฬา
สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกา สภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงิน 100,000 บาท ให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สำหรับรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ไม่สงบที่หน้ารัฐสภา ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ผู้เกี่ยว ข้องทุกฝ่าย
เย็นวันเดียวกัน ที่ถนนราชดำเนินหน้าศาลาประดู่หก สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มแนวร่วมนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดนครศรีธรรมราชประมาณ 1,000 คน เดินทางมารวมตัวชุมนุม พร้อมถือป้ายโจมตีรัฐบาลนายกฯสมชาย และออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ก่อเหตุกระทำความรุนแรงโหดเหี้ยม ทารุณ ต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยอย่างดุเดือด
หลัง จากนั้นกลุ่มแนวร่วมนักศึกษาทั้ง 2 มหา วิทยาลัย และกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ออกเดินไปตามถนนราชดำเนินรอบตัวเมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียกร้องให้พี่ น้องประชาชนหรือพลังเงียบให้ออกมาร่วมต่อต้านความรุนแรงที่รัฐบาลและสำนัก งานตำรวจแห่งชาติกระทำต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเมื่อผ่านบริเวณ หน้าสำนักงานเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งมีป้ายไวนิลขนาดใหญ่แสดงความยินดีกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปฉีกทำลายด้วยความเคียดแค้น กระทั่งมืดค่ำกลุ่มแนวร่วมนักศึกษาฯ ก็สลายตัวกัน ขณะที่กลุ่มพันธมิตรนครฯ ไปรวมตัวกันต่อที่ศาลาประดู่หกในเวลาต่อมา
พธม.แฉรัฐบาลแทรกซึมตามร.พ.
เวลา 18.00 น. พล.ต.จำลอง กล่าวบนเวทีปราศรัยตอบโต้พล.อ.ชวลิตที่อ้างว่าแกนนำพันธมิตรต้องการให้ยก เลิกข้อหากบฏว่า พันธมิตรฯไม่เคยใช้ข้อหากบฏเป็นเงื่อนไขในการต่อรอง พล.อ.ชวลิตเคยโทรศัพท์มาบอกว่าไม่ต้องห่วงข้อหากบฏ ตนบอกกลับว่าไม่ต้องเป็นห่วงพันธมิตร ไม่ผิด ไม่ได้ก่อการกบฏ แต่ปกป้องประเทศชาติ ย้ำไปถึง 2 รอบว่าอย่ายกเลิก ถ้ายกเลิกข้อหาพล.อ.ชวลิตจะเสีย เพราะไม่ได้ขอร้องคนเขาจะหาว่าเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาช่วย
เวลา 19.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร แถลงว่า ขณะนี้มีขบวนการไม่หวังดี เชื่อมโยงถึง 111 กรรมการบริหารไทยรักไทย น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.แพร่ อ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตาไปขอตรวจผู้บาดเจ็บทุกโรงพยาบาล และมีผู้แอบอ้างเป็นพันธมิตรฯ เข้าไปขอเยี่ยมผู้ป่วยและพยายามขอหลักฐาน เช่น เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีบางแห่งหลงเชื่อให้ไป ขอร้องให้ทั้งหมดยุติบทบาทและการกระทำทั้งหมด เพราะเป็นการซ้ำเติมผู้บาดเจ็บ
n จะล้อมปราบทำเนียบแบบมธ.
นาย สุริยะใส กล่าวถึงพล.ต.อ.สล้างใช้ทุนส่วนตัวระดมกำลังเข้ายึดทำเนียบคืนว่า เป็นแผนปราบปรามผู้ชุมนุมขั้นที่ 2 โดยสนธิกำลัง 3 ฝ่าย คือ ตำรวจ แนวร่วมกลุ่มคนรักทักษิณ และอันธพาล เข้าล้อมปราบประชาชน จำลองเหตุการณ์ให้ทำเนียบรัฐบาลเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะแผนแรกในวันที่ 7 ต.ค.ล้มเหลว ไม่สามารถนำไปเป็นข้ออ้างให้พ.ต.ท. ทักษิณขอลี้ภัยทางการเมือง เพราะรัฐบาลอังกฤษมองว่าเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐ จึงต้องสร้างสถานการณ์ให้เป็นการเข่นฆ่าระหว่างประชาชน แผนที่ 2 จะเริ่มวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ พันธมิตรยืนยันว่าจะรักษาทำเนียบจนถึงที่สุดจนกว่ารัฐบาลจะลาออก และไม่มีนโยบายเผชิญหน้า แต่หากมีการเคลื่อนขบวนมา พันธมิตรต้องป้องกันตัวอย่างเข้มข้น
นายสุริยะใส กล่าวว่า การไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อเปิดโปงให้สังคมรู้ข้อเท็จจริง การประท้วงการกระทำของตำรวจเป็นเพียงเรื่องรอง โดยจะนำหนังสือและซีดีบันทึกเหตุการณ์ตุลามหาวิปโยคชุดแรก 5 แสนชุดไปแจกจ่าย เพื่อให้เกิดมาตรการกดดันจากสังคม และไม่ได้เป็นการไปยึดหรือปีนเข้าไปภายใน ตำรวจจึงไม่มีเหตุให้ใช้กำลังเข้าปราบปราม มั่นใจว่าเมื่อแกนนำเป็นผู้นำผู้ชุมนุมจะไม่เกิดเหตุการณ์บานปลาย แต่หากมีผู้เข้ามาก่อกวนคงไม่อาจรับประกันได้
หนุ่มเพี้ยนโผล่รับปาบึ้มพธม.
เมื่อ เวลา 09.00 น. ขณะที่พ.ต.ท.สุรศักดิ์ เทียนสุวรรณ รองผกก.สส.สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนายพิศาล ผิวผัน 29 ปี บ้านเดิมอ.หนองหาน อุดรธานี ปัจจุบันพักอยู่ที่ 601 ตึกกิตินคร ถ.บางพลี-ตำหรุ อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ แจ้งความประสงค์ขอมอบตัว อ้างว่าตนเองเป็นผู้ปาระเบิดเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยซื้อระเบิดเอ็ม 26 มา 10 ลูก ราคาลูกละ 25 บาท แล้วแฝงตัวไปอยู่ในม็อบพันธมิตรฯ ปาใส่ผู้ชุมนุมไป 5 ลูก จากนั้นเอาระเบิดที่เหลืออีก 5 ลูกไปขว้างทิ้งลงคลองลาดกระบัง ซอยกิ่งแก้ว 43 อ.บางพลี เห็นตำรวจกำลังถูกกล่าวหาทำเกินกว่าเหตุ จึงออกมาแสดงตัว ที่ทำไปเพราะไม่ชอบพวกพันธมิตรฯ
ต่อมาตำรวจนำตัวนายพิศาลไปตรวจค้น ที่ห้องพัก พบระเบิดปิงปองจำนวน 1 ลูก จากนั้นนำตัวนายพิศาลไปชี้จุดที่ทิ้งลูกระเบิดลงน้ำ แต่ให้ประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญูไปงมหาแล้ว ยังไม่พบแต่อย่างใด เบื้องต้นตำรวจไม่เชื่อคำให้การ ลักษณะจะเป็นคนเพี้ยนๆมากกว่า
สนธิเดินหน้าโจมตีบิ๊กป๊อกต่อ
เวลา 21.30 น. แกนนำพันธมิตรได้ขึ้นปราศรัย โดยพล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปลี่ยนแผนที่จะสลายการชุมนุมโดยเปลี่ยนจากตำรวจ ในเครื่องแบบเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบและอ้างว่าเป็นพวกนปก. หากเป็นเช่นนั้นจะขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เข้ามาสลายผู้ ชุมนุม ไม่ว่าจะในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบ วันรุ่งขึ้นประชาชนจะลุกฮือขึ้นทั่วประเทศและประชาชนจะลุยตำรวจ หากต้องการให้เป็นเช่นนั้นก็ให้ทำ นี่ไม่ใช่ขู่แต่จะเป็นอย่างนี้จริงๆ
ด้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความว่า"ไม่ต้อนรับนักการเมืองฝ่ายทรราช" จำนวน 15,000 แผ่น เพื่อแจกจ่ายให้กับร้านค้าต่างๆเอาไปติดหน้าร้านเพื่อแสดงตนว่าไม่ต้อนรับ นักการเมืองพวกนี้ และขณะนี้ได้ปั๊มซีดีเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. และจะนำไปแจกพร้อมหนังสือให้ครบ 2 หมื่นชุด โดยจะเริ่มแจกในวันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค.นี้ที่สวนจตุจักร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิยังปราศรัยโจมตีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. อย่างรุนแรง ขณะที่การชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้มาร่วมชุมนุมหนาตา โดยบนเวทีนอกจากการปราศรัยโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังแจ้งข่าวขอให้พันธมิตรจังหวัดพิจิตรเตรียมต้อนรับนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯและนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่จะลงพื้นที่จ.พิจิตร ในวันที่ 11 ต.ค. และยังแจ้งถึงการชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าขอให้ผู้มาร่วมชุมนุม สวมชุดดำอย่างพร้อมเพรียงกัน
สำหรับเนื้อข่าวของสำนักข่าวเอพี สหรัฐอเมริกา ฉบับเต็ม มีดังนี้
Thailand princess speaks at Connecticut school
Associated Press
WALLINGFORD, Conn. - The princess of Thailand said Thursday that she does not believe protests in her home country are being staged to benefit the monarchy.
Princess Maha Chakri Sirindhorn talked about the importance of public service Thursday at the Choate Rosemary Hall prep school in Wallingford. She later headed to the University of Pennsylvania for a U.S.-Thailand education discussion.
Her visit came amid the worst political violence in Thailand in more than a decade. Thousands of protesters have camped at the main government office complex to demand electoral changes and an end to corruption in Thai politics.
In violent clashes on Tuesday, 423 protesters and 20 police were injured, Thai medical authorities said. One woman was killed, and a man died in what appeared to be a related incident.
It was the worst political violence since 1992, when the army killed dozens of pro-democracy demonstrators seeking the ouster of a military-backed government.
The princess was asked at a press conference following her talk whether she agreed with protesters who say they are acting on behalf of the monarchy.
"I don"t think so," she replied. "They do things for themselves."
Asked why the king has not spoken out, she said, "I don"t know because I haven"t asked him."
Protest leaders have called for the prosecution of people who insult the monarchy. One leader wants to abandon Thailand"s popularly elected Parliament for one in which a majority of members would be appointed.
Some academics have said the pla
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
