• ป่าไม้แพร่จับมอดไม้ แปรรูปส่งเข้าโรงงาน |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 13 ต.ค. 51 เวลา 12:12:55 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หนุนหลังส่งคนเข้าไปโค่นไม้แล้วแปรรูปส่งเข้าโรงงาน
หน่วยปราบปรามสกัดจับพร้อมของกลางส่งดำเนินคดียังมีหน้ามาอ้าง
ข้างๆ คูๆ
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2551 นายสักรินทร์ ปัญญาใจ หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภาคเหนือ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.1 (สรอย) อ.วังชิ้น จ.แพร่ ได้นำกำลังไปดักสกัดบนถนนสายในหมู่บ้านแม่กระต๋อม หมู่ที่ 10 ต.สรอย อ.วังชิ้น หลังจากที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังกรมป่าไม้ว่ามีนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าและ ตัดไม้ออกมาขายอย่างกว้างขวาง
หลังจากที่ดักสกัดตั้งแต่เช้าตามเวลาดังกล่าวพบมีรถยนต์ ปิกอัพโตโยต้า สีแดง ทะเบียน บค-8644 แพร่ วิ่งมาจึงได้เข้าขอตรวจค้น พบไม้สักท่อนขนาดใหญ่ยาวประมาณ 3 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 15-20 นิ้ว จำนวน 8 ท่อน จึงได้ตรวจยึดไว้และควบคุมตัวคนขับคือ นายสุภาพ ชายป่า อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 10 ต. สรอย อ.วังชิ้น ไว้ดำเนินคดีพร้อมของกลาง โดยนายสุภาพให้การว่ามีคนจ้างให้บรรทุกไม้ไปส่งโรงงาน ซึ่งจะมีการขยายผลติดตามหาตัวการต่อไป
และต่อมาในเวลา ไล่เลี่ยกัน นายสงกรานต์ เวียงคำ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าบ้านวังดิน อ.สอง จ.แพร่ นำกำลังเข้าไปตรวจค้นในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ยม ทางเข้าป่าห้วยจันทร์ หมู่ 9 ต.บ้านกลาง อ.สอง หลังจากที่ชาวบ้านร้องเรียนว่ามีคนไปลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยาน ในขณะเข้าไปถึงพบมีชาวบ้านหลายคนวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้ 1 คน คือนายอำนวย
เศษมะโน อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 1 ต.บ้านหนุน อ.สอง โดยนายอำนวยอ้างตัวเป็น อบต.บ้านหนุน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นในตัวพบบัตรประจำตัวตำรวจบ้าน บัตร ชรบ. บัตรสมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรม และตรวจค้นพบไม้สักจำนวน 12 ท่อน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมรถยนต์ และมีเลื่อยจำนวน 2 ปิ้น ขวาน 1 เล่ม ค้อน 1 อัน มีดอีโต้ 3 เล่ม รถเข็น 1 คัน ส่งให้ พ.ต.ท.ดิเรก สุขเกษม พนักงานสอบสวน สภ.สอง จ.แพร่ ไว้ทำการสอบสวน
โดยนายอำนวยให้การว่าไปตัดไม้เพื่อจะนำไปสร้างห้างนาไม่ได้ นำไปขายแต่อย่างใด อีกทั้งพื้นที่ที่ตัดเป็นเขตที่ทางการอนุญาตให้ทำกินโดยอนุญาตเมื่อปี 2535 อนุญาตให้ทำ 5 ปี แต่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า การอนุญาตให้ทำกินนั้นหมดเขตไปกว่าสิบปีแล้วอีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็น พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวน จะได้ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนเขตอุทยานโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและจะได้ติดตาม บุคคลที่กระทำผิดและหลบหนีไปก่อนหน้านั้นมาดำเนินคดีด้วย
ที่มา เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1851 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 13 ต.ค. 51
เวลา 12:12:55
|