| • เขมรแพ้ราบคาบ หลังไทยใช้อาวุธร้ายถล่มแก๊สน้ำตาจากจีน |
|
โพสต์โดย news , วันที่ 18 ต.ค. 51 เวลา 18:56:39 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ภูมะเขือ - เหตุปะทะเดือดไทย-เขมร ชิงปราสาท เขมรถอยร่นไม่เป็นท่า แพ้ราบเป็นหน้ากลอง หลัง “สมชาย” สั่งใช้แก๊สน้ำตาสั่งตรงจากประเทศจีน ล็อตเดียวกับที่ใช้ปราบพันธมิตรฯ ด้วยสุดยอดอานุภาพทำลายล้าง ระดมยิงระดมขว้างใส่กองทัพเขมร เผย “ฮุนเซน” น้ำตาตกคาดไม่ถึง จะพ่ายทัพเพราะแก๊สตัวนี้
บักพบ โยธาทัพ ผู้สื่อข่าวผู้จัดกวนภาคสนาม รายงานเหตุปะทะระหว่างไทย-เขมร จากภูมะเขือว่า หลังจากที่ ฮุนเซน ผู้นำเขมร ขู่ฟ่อล่อทัพไทยมาก่อนหน้านั้น ยื่นคำข(ล)าดอย่างปราดเปรื่องให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทภายใน 24 ชั่วโมง วันต่อมาเท่านั้นแหละพี่น้อง เสียงคำขู่ยังไม่ทันได้จางหายไป ทหารเขมรก็ได้เปิดฉากลั่นกระสุนสนั่นป่าเขา ทำเอาชาวบ้าน และสิงสาราสัตว์ละแวกนั้นแตกตื่นวิ่งกันฝุ่นกลบ จากนั้นก็ได้เปิดฉากปะทะบริเวณเชิงปราสาทพระวิหารอย่างดุเดือดเลือดพล่าน กลายเป็นมินิสงครามไปทันที โดยฝ่ายทหารเขมรได้ออเดิร์ฟเสิร์ฟกระสุนลูกแรกข้ามเขตเข้าใส่ฝ่ายทหารไทยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นทหารไทยใจหาญได้โต้กลับด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอสเค ปืนครก ปลย.88 ปืนใหญ่ และเอ็ม 79 ทันที
การปะทะอันระทึกยืดเยื้อไม่มีแววจบสิ้น ต่างฝ่ายต่างขนอาวุธยุทโธปกรณ์มาเกทับกันหมดหน้าตักหวังกำชัยชนะ หวังยึดครองพระวิหารและปราสาทอาณาบริเวณ
มีรายงานอย่างต่อเนื่องว่า ทหารเขมรได้รุกหนักโดยตีขนาบจากบริเวณปราสาทพระวิหารรุกล้ำเข้ามาในเขตไทยจนทหารไทยตั้งตัวไม่ติดต้องถอยร่นอย่างไม่เป็นท่า อาวุธหนักที่ทางกองทัพส่งมาก็ใช้ไปเกือบเกลี้ยง แต่ก็ไม่สามารถด้านทหารเขมรเอาไว้ได้ ในช่วงเวลาวิกฤตเยี่ยงนั้น ทหารหาญไทยทุกคนใจหายวาบว่าคงสูญเสียปราสาทพระวิหารเป็นแน่แท้ ซ้ำทหารหลายนายก็โดนยิงบาดเจ็บกันระนาว
ไม่ทันสิ้นเสียงกระสุนนัดสุดท้าย พลวิทยุรายงานด่วนแจ้งมาว่า ให้ทหารทุกนายตั้งมั่น ตั้งสติเพื่อรุกทหารเขมรอีกคำรบ เพราะตอนนี้ ฯพณฯ สมชาย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ส่งอาวุธร้ายแรง คือแก๊สน้ำตา สั่งตรงมาจากเมืองจีน ซึ่งมีศักยภาพในการทำลายล้างสูงมาก พร้อมหน่วยอรินทราชหน่วยเดียวกันกับที่ไปปราบพันธมิตรฯ และประชาชนตาดำๆ ที่บริเวณแยกการเรือน รัฐสภา มาพร้อมสรรพแล้ว
ทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังพร้อมอาวุธอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงล็อตนั้นเข้าพื้นที่ แล้วเปิดฉากระดมยิง สลับระดมขว้าง แล้วเดินยิ้มหราใส่ทหารเขมรอย่างไม่ยั้งมือ “มันอยู่ได้อยู่ไปๆ ยิงเข้าไป อยู่ได้อยู่ไป” หัวหน้าหมู่ตำรวจที่ควบคุมกำลังพลพูดเหมือนในซีดีตำรวจฆ่าประชาชนเปี๊ยบ
เวลาต่อมาก็ได้ยินเสียงทหารร้องโอดโอย ผู้สื่อข่าวเคเอฟซีจากสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งที่ฝ่าควันและดินระเบิดเข้าไปสังเกตการณ์เล่าให้ฟังว่า ทหารเขมรหลายรายที่โดนแก๊สน้ำตา แขนและขาขาดปลิวว่อน สมองกระเด็นกระดอนไปกองอยู่บนต้นไม้ก็มี เนื้อหลังขาดสะบั้นไม่มีชิ้นดี ต้องหิ้วปีกกัน ทำเอาทหารเขมรพากันถอยร่นไม่เป็นขบวน ตำรวจหลายนายพยายามมองหาเต็นท์ ยางรถ และรถพยาบาลเพื่อขว้างระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าใส่อยู่พักหนึ่งแต่ปรากฏว่าแถวนั้นมีเพียงรั้วลวดหนาม ในที่สุดทหารไทยก็เข้าไปยึดพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จ พร้อมประกาศชัยชนะยึดปราสาทพระวิหารคืนมาได้
หลังเหตุการณ์สงบลง มีรายงานจากทางกัมพูชามาว่า ทหารที่บาดเจ็บส่วนมาก ล้วนโดนแก๊สน้ำตาที่ผลิตจากเมืองจีน บ้างแขนขาด ขาขาด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าทหารบางรายที่โดนระเบิดแก๊สน้ำตานั้นเนื้อหนังหลุดลุ่ย กระทั่งกางเกงทหาร เป้สะพายหนาเตอะยังขาดกระจุย ยอมรับว่าแก๊สชนิดนี้ร้ายแรงจริงๆ
ขณะที่ นายฮุนเซน ได้ตัดพ้อมายังประเทศไทยผ่านผู้สื่อข่าวว่า “ถ้าจะสู้รบกันก็ขอให้สู้กันแบบแฟร์ๆ หน่อย ท่านสามารถนำอาวุธยุทโธปกรณ์ ปืนผาหน้าไม้มาสู้รบได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปืนเล็ก เอสเค ปืนครก เอ็ม 79 ระเบิดหรืออาวุธหนักปืนใหญ่ก็ยอมรับได้ ให้ขนออกมาสู้รบกันแบบชายชาติทหารได้เลย แต่ยกเว้นแก๊สน้ำตา การพ่ายแพ้ชนิดราบเป็นหน้ากลองสองกระเดื่องครั้งนี้ ยืนยันว่าศักยภาพของทหารเขมรเก่งพอๆ กับทหารไทย แต่ที่แพ้นั้นเป็นเพราะท่านสมชายเล่นเอาเปรียบใช้แก๊สน้ำตา อย่าว่าแต่ทหารเขมรเลย ทหารอเมริกันที่ว่าเก่งกาจอาจจะพ่ายแก๊สน้ำตาที่สั่งตรงจากจีนนี้ก็ได้” เขาขยับแว่นกลอกตาสัมภาษณ์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 7797 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย news
IP: Hide ip
, วันที่ 18 ต.ค. 51
เวลา 18:56:39
|
